แม้ไปโตเกียวหนนี้ แม้ผมจะกดกาแฟอุ่นจากเครื่องหยอดเหรียญมากินง่ายๆ (และอุ่นมือแก้หนาวไปในตัว) อยู่ทุกวัน แต่ก็มีร้านกาแฟร้านหนึ่งที่ตั้งใจไว้ว่าจะไปเยี่ยมให้ได้สักครั้งอยู่นะ
ร้านที่ว่าคือร้าน "Bear Pond Espresso" ร้านกาแฟเล็กๆ ในย่านสุดฮิปอย่าง "Shimokitazawa" และไฮไลท์ที่ทำให้ผมนั่งรถไฟมาร่วมครึ่งชั่วโมง (ไม่รวมหลงทางในสถานี) ก็เพื่อจะมากินกาแฟ Dirty ของร้านเค้านี่แหละ
หลายคนรู้จักกาแฟเปรอะ Dirty กันอยู่แล้ว แต่รู้มั้ยว่าต้นกำเนิดกาแฟเล็กๆ แก้วนี้นั้นถือกำเนิดในร้านกาแฟที่หน้าตาไม่สะดุดตาอะไรร้านนี้แหละครับ!
เดือนกุมภาพันธ์เป็นเดือนที่หนาวที่สุดของญี่ปุ่น และที่โตเกียวเองฟ้าก็มืดเร็วเช่นกัน ผมไปถึงย่าน Shimokitazawa ราวๆ ห้าโมงเย็น ถึงตอนนั้นฟ้าก็มืดแล้ว แต่บรรยากาศรอบด้านยังครึกครื้น เพราะ Shimokitazawa คือย่านที่หนุ่มสาวผู้รักการแต่งตัวและหลงใหลในสไตล์วินเทจมารวมตัวกันนั่นเอง
ร้าน "Bear Pond Espresso" ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก Shimo-Kitazawa Station แต่เพราะทางเดินเป็นตรอกเล็กๆ มากมาย หนุ่มสาวแต่งตัวสุดแนวก็เดินกันขวักไขว่ละลานตา แถมฟ้าก็มืดแล้ว ทำเอาผมเดินผ่านร้านกาแฟเล็กๆ ร้านนี้ไปโดยไม่ทันรู้ตัวทีเดียว ยังดีที่เงยหน้าไปสะดุดตากับป้าย "หมีเรืองแสง" ด้านบน ไอ้เราจึงวกตัวกลับมาได้ทัน
ร้านกาแฟร้านนี้เป็นร้านเล็กมีที่นั่งไม่กี่ที่ ตอนที่ผมไปถึงมีสองสาวนั่งคุยกันสนุกสนาน กับชายชราที่ดูจะเป็นคอกาแฟกำลังคุยกับบาริสต้าหนุ่มอย่างถูกคอ ผมตั้งมั่นมาจากบ้านแล้วว่าจะลองจิบ Dirty ดังนั้นเมื่อไปถึงเคาน์เตอร์จึงอ้าปากสั่งทันทีอย่างไม่ลังเล สนนราคาแก้วละ ¥650
แอบจะเสียดายนิดหน่อยที่บาริสต้าในวันนั้นเป็นเด็กหนุ่มในร้าน ไม่ใช่คุณเจ้าของร้านตัวจริง (ที่เขาว่ากันว่านิสัยแกออกจะ "แหวกแนว" และ "ขบถ" ตามย่านที่อยู่) แต่ถึงอย่างนั้นรสมือลูกศิษย์ก็ประหนึ่งอาจารย์นั่นแหละนะ
ท่ามกลางอากาศหนาวในเวลาห้าโมงเย็นเศษๆ Dirty แก้วนี้ของผมเป็นแก้วเล็กๆ เปรอะๆ ตามสไตล์ดั้งเดิมเลยครับ เรียกได้ว่า First impression ดีสุดๆ เพราะการเสิร์ฟในแก้วที่ดูเลอะๆ เรียลๆ แต่คลาสสิกแบบนี้แหละ
Espresso shot ที่ใช้มีความเข้มข้นแต่ไม่เข้มมากทำให้ดื่มได้ไม่ลำบาก ยังมีความนัวของนมแช่เย็นจัดมาสร้างความกลมกล่อมให้กับตัวเครื่องดื่มด้วยอีกแรง
แต่เหตุผลที่ผมชอบเมนูนี้และคิดว่าแม้จะดื่มในเวลาและอากาศประมาณนี้ก็ยังเข้ากั๊นเข้ากันคือ ตัวเครื่องดื่มไม่หวานมาก ไม่มีการเติมครีมใดๆ มีเพียงช็อตกาแฟและนมเย็นกับกลิ่นหอมของกาแฟและรสสัมผัสดิบๆ อย่างแท้จริง
ผมไม่ได้นั่งอยู่นาน เหตุผลเพราะไม่อยากนั่งแช่ในร้านนานเท่าไหร่ตามวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่นแหละนะ บวกกับฟ้ามืดมากแล้ว ยังอยากจะเดินเล่นแถวนี้อีกสักเล็กน้อยก่อนกลับ ดังนั้นหลังจิบเสร็จ คืนแก้วเรียบร้อย ก็เลยถอยออกมา
แต่มีความอิ่มเอมใจประมาณหนึ่งติดตัวกลับออกมาด้วย เพราะอย่างน้อยวันนี้ก็ได้จิบต้นตำนานกาแฟ Dirty กับเขาสักที แต่ยังมีเมนูอื่นๆ น่าสนใจที่อยากลิ้มลองเพิ่มเติม เสียดายแค่เวลามีไม่มากพอแถมยังไปตัวคนเดียว หนหน้าถ้าเข้าโตเกียวอีกคงได้แวะกลับไปใหม่ครับ
Tag :
"MARU CHULA" สรุป สิ่งที่ควรรู้ของคอนโดใหม่จากค่าย Major
ว่ากัน 'ซอยหลังสวน' เปรียบเสมือน "แมนฮัตตันแห่งกรุงเทพฯ" คำกล่าวนี้ผมว่าไม่เกินจริงเลยนะ เพราะซอยหลังสวน ได้ชื่อว่าเป็นย่านที่มีราคาที่ดินแพงที่สุดในประเทศไทย และมูลค่าเพิ่มอย่างต่อเนื่องทุกปี!!
นี่คือคอนโดที่ใกล้ "ลานชมเมืองภูเก็ต" บนเขารังมากที่สุด ทำให้คุณเห็นวิวเมืองภูเก็ตสวยๆตัดภูเขา ทะเล และท้องฟ้า ได้อย่างเต็มตา
‘Supalai Elite Sukhumvit 39’ (ศุภาลัย เอลีท สุขุมวิท 39) ตัวนี้ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่หลายๆ คนตั้งตารอ ด้วยตัวทำเลที่ค่อนข้างน่าสนใจเลยครับ
ก่อนไปดูทำเล ขอพูดถึงตัวโครงการหน่อย ออกตัวก่อนว่าผมหาข้อมูลที่ยังไม่ Official นะครับ คือไม่ชัวร์ว่าโครงการจะสูงกี่ชั้น มีกี่ยูนิตกันแน่ แต่ทาง PropCons บอกว่าตัวนี้น่าจะเป็นคอนโด High-rise สูงราวๆ 21 ชั้น
โครงการใหม่แกะกล่องจาก 'เสนาดีเวลลอปเมนท์' มีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองตัดผ่าน ถือว่ายังเดินทางง่ายๆ ชิลๆ
สำหรับผมเนี่ย การที่มี BigC foodplace ที่ The Old Siam เป็นเรื่องตื่นเต้นมากเลย
รีบไปลองด่วน!! Krispy Kreme เปิดตัวเมนูใหม่อีกแล้ว!! กับ CHOCOMANIA 4 รสชาติเข้มข้น
White Glass Coffee ร้านนี้ทุกโต๊ะต้องสั่ง Avocadro Toast
อันนี้ดี! สิ่งนี้มีชื่อว่า ‘KANGURU’ มันคือ ตู้อเนกประสงค์ แบบ 3 in 1
คอนเฟิร์มอีกครั้ง ร้าน “Dong Sheng” เขามีบริการแกะกุ้งให้นะ
Big C ที่ One Bangkok เติมคำว่า ‘Bangkok Mache” ลงไปด้วย