“ถ้ารู้ว่าโตขึ้นมา ต้องมาขับ Taxi แบบนี้ ตอนเด็กผมคงตั้งใจเรียนน้อยกว่านี้แล้วล่ะ 555”

        พี่คนขับ Taxi คนหนึ่ง ได้กล่าวกับผมไว้ 

        โดยปกติ ผมมักจะเดินทางด้วยรถไฟฟ้า จะมีใช้บริการ Taxi บ้าง ในวันที่ “พรหมลิขิต” ให้ผมต้องแยกทางกับ บี ไปคนละงานกัน ฮิฮิ

        ด้วยความที่เป็นคนชอบสอดรู้ เอ้ย อยากรู้อยากเห็น จึงได้คุยกับพี่คนขับท่านหนึ่ง

        “ปกติ จะรับงานจาก G ยังไงรึครับ”

        “ระบบจะสุ่มมาให้กับคนที่ใกล้ที่สุด คะแนนดีที่สุด โดยคนขับจะไม่รู้ว่า คนเรียกไปไหน ต้องกดรับก่อน  แล้วถ้ายกเลิก จะเสียคะแนน คะแนนจะส่งผลต่อรายได้”

        อ๋อ เลยมีการให้คนเรียก ช่วยปฏิเสธยกเลิกให้นี่เอง 

        “รายได้ดีไหมครับ? ถ้าเทียบกับช่วงโควิด แล้ว G Taxi กับ Just G/G Car สำหรับคนขับ ต่างกันแค่ไหน”

        “เริ่มกลับมาปกติได้สักพักล่ะ เผลอๆจะดีกว่าด้วย”

        “เชื่อไหมว่า ถ้ารู้ว่าโตขึ้นมา ต้องมาขับ Taxi แบบนี้ ตอนเด็กผมคงตั้งใจเรียนน้อยกว่านี้แล้วล่ะ 555”

        “ผมขับมาเป็นสิบๆปีละ เมื่อก่อน เป็นวิศวกรคอม (จบจากม.รัฐชื่อดังแห่งหนึ่ง) ให้บ.ข้ามชาติแห่งหนึ่ง ก่อนออกได้เงินเดือน 5 หมื่นกว่า”

        “โอ้ แล้วทำไมมาขับ Taxi ล่ะ รายได้มันพอกันรึครับ?”

        “พี่ลองขับเล่นๆ เล่นไปเล่นมา ก็หลายสิบปีล่ะ 555 รายได้ เยอะกว่าตอนเป็นวิศวกรนะ ต่ำๆ วันหนึ่งก็ได้ 3 พันกว่า 4-5 พัน ก็มีเยอะ รายได้ก็เป็นเหตุผลหนึ่ง แต่ที่ชอบหลักๆคือ อิสระ”

        โอ้ ถ้าขับทุกวัน รายได้ก็ร่วมแสนนะ 

        “พี่ไม่รับแบบ Just G นะ เพราะรู้สึกไม่แฟร์เท่าไร ที่ ต้องแบ่ง GP ประมาณ 30% (ขึ้นกับคะแนน) รับแค่ G Taxi เท่านั้น ค่าเรียก 20฿ ผมก็ได้ส่วนแบ่งนะ แต่ไม่เยอะ”

        “หักค่าแก๊ซ โน้นนี่ เหลือ 6-7 หมื่น สบายๆ”

        “ถ้าเทียบรายได้ที่วิ่งหาคนเอง กับได้จาก G ละครับ?”

        “ถ้าคิดเป็นสัดส่วน ก็ครึ่งๆนะ ไม่ต่างกัน”

        ก็แสดงว่า G ทำรายได้เพิ่มให้เยอะอยู่นะ 

        เสียดาย มีเวลาคุยด้วย น้อยไปหน่อย กำลังออกรสเลย ถึงล่ะ  พี่คนขับเขานึกว่าผมเป็นต่างชาติ กว่าจะคุยด้วย ก็กว่าครึ่งทาง

        สุดท้าย ผมไม่ได้สนับสนุนให้ไม่ตั้งใจเรียนแบบที่จั่วหัวนะ เส้นทางชีวิตคนเรา ไม่เหมือนกันครับ การที่เราตั้งใจเรียน ก็อาจทำให้เรามีทางให้เลือกที่มากกว่า

        ปล. มีต่อภาค 2 ด้วยนะ ถ้าชอบ ก็รออ่านกันได้