ความคอนโดห้อยป้าย "สาทร" ไว้ที่ท้ายชื่ออ่ะเนอะ ใครจะไปคิดว่าจะเห็นวิวนั้นชัดๆ แต่อันที่จริงแม้จะห้อยป้าย "สาทร" แต่ "THE ISSARA Sathorn" ก็ไม่ได้อยู่ในย่านที่เราคุ้นเคยกันเวลาเราพูดถึงคอนโดสาทรเท่าไหร่
เพราะส่วนตัวผมมองว่าทำเลโครงการ มันเงียบสงบกว่านั้นครับ
และด้วยความเป็น "ถนนจันทน์" สิ่งแรกที่ผมคิดถึงคือความเป็นชุมชนไทย-จีนเก่าแก่ คงความเป็นวัฒนธรรมเอาไว้อย่างเข้มข้น แต่ก็มีทุกอย่างให้ครบครัน
นั่นเพราะโลเคชั่นตรงนี้มันไม่ได้มีแค่วัฒนธรรมดั้งเดิม แต่มันมีความเจริญ ผสมผสานกับวัฒนธรรมเก่าและใหม่ไปด้วยกัน
มีย่านเจริญกรุง นางลิ้นจี่ ที่ต้องยอมรับว่าเดี๋ยวนี้ร้านรวงทั้งหลายแถวนี้หลากหลายและอาร์ตมาก ความโลคอลหรือความอินเทรนด์มีแทรกอยู่ให้เห็นตลอด
โอบล้อมด้วยถนน 4 เส้นที่สำคัญ นราธิวาส-สาทร-พระรามสี่-พระรามสาม
นอกจากนี้ยังใกล้ทางด่วนมาก เรียกว่าลงถนนปุ๊บก็สามารถเข้านางลิ้นจี่ได้เลย แวบเดียวก็ถึงโครงการแล้ว
ผมยังอยากพูดถึงเรื่องที่ว่าเดี๋ยวมันมีถนนตัดใหม่ต่างๆ เพิ่มมาอีกนะ และสะพานยกระดับที่มาจากทางศูนย์ฯ สิริกิติ์เองก็สร้างเสร็จแล้วเหมือนกัน ทำให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้นมากๆ
ในอนาคตยังจะมีรถไฟฟ้าสายสีเทาพ่วงมาด้วย ถ้าจำไม่ผิดคือจะมีสเตชั่นตรงนางลิ้นจี่ ช่องนนทรี อันนี้อาจจะนานหน่อยแต่ก็เรียกได้ว่าพื้นที่มันมีความหวังครับ
อีกอย่างที่ต้องยกให้คือสวนสาธารณะเยอะมาก ทั้งสวนลุมฯ สวนเบญฯ สวนตรงคลองช่องนนทรี หรือบางกะเจ้าปอดคนเมืองก็อยู่ไม่ไกล เป็นที่ออกกำลังกายยอดฮิตทั้งนั้น
และถ้าเราขึ้นไปชั้นส่วนกลางของโครงการ เดินออกจากลิฟต์แล้วมองไปทางสระว่ายน้ำปุ๊บ จะเห็นเลยว่าไม่มีคอนโดไหนในแถบนี้ ที่เห็นบางกะเจ้าได้ชัดเท่า "THE ISSARA Sathorn" แล้ว
คนในพื้นที่ก็จะบอกว่าที่นี่มีลมพัดเย็นสบายเพราะใกล้แม่น้ำ ลมพัดเข้าทั้งปี พื้นที่แม้จะอยู่กลางเมืองแต่ก็ถูกธรรมชาติโอบล้อมไว้หมด
ซึ่งคอนโดในเมืองเดี๋ยวนี้ค่อนข้างอึดอัดแออัดนะ แต่ตรงนี้ดูโล่งเพราะมันอยู่ระหว่างเมืองกับธรรมชาติ มีแม่น้ำคั่นนิดเดียว
แถมโซนนี้ร้านมิชลินเยอะมาก สตรีทฟู้ดก็มี เฉพาะทางซอยเย็นอากาศ ทางถนนจันทน์นี่ร้านอาหารก็เยอะมากแล้ว
มีมาร์เก็ตเพลสและวิลล่ามาร์เก็ตมาเปิดใกล้ๆ ด้วย ใช้เวลาห้านาทีก็ถึงหมดครับ ติดโรงเรียนนานาชาติอีกต่างหาก ชุมชนต่างชาติเยอะมาก
"THE ISSARA Sathorn" เป็นคอนโด 1 อาคาร สูง 37 ชั้น จำนวน 270 ยูนิต พร้อมกับระบบการจอดรถแบบ Auto Parking สถานีชาร์จรถไฟฟ้า (EV) และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เตรียมพร้อมให้กับลูกค้าได้อยู่อาศัยอย่างเหนือระดับ
และการออกแบบตึกมันพรางสายตาได้ดี คือถ้ามองจากข้างนอกเข้ามาจะเห็นครับว่าเรามองเห็นอาคารได้ไม่ชัด
แบบนั้นก็ทำให้คนอยู่ข้างในก็รู้สึกไม่อึดอัดและรูัสึกถึงความไพรเวท ไม่ใช่มองเข้ามาแล้วเห็นคนขยับตัวตากผ้าอยู่อะไรทำนองนี้ ผมก็ว่าดีนะ
จาก Facilities ในแต่ละชั้นเน้นให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวครับ
เริ่มจากชั้น 1 The Park ที่เป็นโซนของสวน พื้นที่พักผ่อนสนามหญ้ากว้าง สนามเด็กเล่น บ่อน้ำ ศาลาพักร้อน ซึ่งนับเป็นชั้นที่มีพื้นที่สีเขียวมากที่สุด
ขณะที่ชั้น 29 The Haven เป็นโซน The Sky Gym, The Game, The Space, The Water, The Therapy, The Garden
ต่อที่ ชั้น 33 The View มีการนำ Concept Floating Forest เนรมิตออกมาให้เป็นลักษณะของสวนป่าที่มีความสงบ เหมาะต่อการพักผ่อน ด้วยการนำเก้าอี้ในแบบต่างๆ รองรับการนั่งหรือนอนชมวิวด้านบางกะเจ้า
นอกจากนี้ยังมีในส่วนของชั้น The Herb ที่จะมีพื้นที่ปลูกผักสวนครัวและสมุนไพรให้ กับโซน The Horizon พื้นที่ออกกำลังกายที่อยู่บนชั้นที่สูงที่สุด ทำให้ได้เทควิวที่สวยงามมากที่สุด
ทางด้านห้องพักในโครงการ ที่นี่เน้นการออกแบบที่ตอบรับไลฟ์สไตล์ของคนทุกเจเนอเรชั่นครับ
โดยทุกยูนิตจะให้ความสำคัญกับขนาดพื้นที่ใช้สอยของห้อง
มีขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 32.75 - 188.76 ตร.ม.
เริ่มที่ 1 Bed, 1 Bed+, 2 Bed, 2 Bed+, 3Bed และ Penthouse ซึ่งแต่ละรูปแบบได้มีการออกแบบ Layout ของห้องที่เป็น Flexible Area ช่วยให้ปรับเปลี่ยนการใช้สอยได้ตามความเหมาะสม
การวาง Layout ของแต่ละห้อง เป็นความใส่ใจของโครงการที่ต้องการให้ผู้อยู่อาศัยได้มีช่องทางในการเลือกขนาดพื้นที่ห้องให้เหมาะกับจำนวนสมาชิกผู้อยู่อาศัย
ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มวัยทำงาน กลุ่มครอบครัวขนาดกลาง จนถึงขนาดใหญ่ รวมถึงกลุ่มผู้อยู่อาศัยจริง และกลุ่มที่ต้องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
นอกจากนี้ขนาดห้องแต่ละไทป์ยังมีการแบ่งพื้นที่ให้มีความเป็นสัดส่วน มีความยืดหยุ่นในด้านฟังก์ชั่นให้กับผู้อยู่อาศัยด้วย
ได้ยินมาว่าห้องจากทุกยูนิตได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีหมด ขายดีเท่าๆ กัน
ส่วนหนึ่งอาจเพราะตอน launch โครงการมันเป็นช่วงโควิดเริ่มต้นพอดี
ตอนนั้นลูกค้าต้องการพื้นที่ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทางนี้ก็ตอบโจทย์ออกมาได้พอดีเพราะเค้าทำห้องไซส์ใหญ่ที่มีฟังก์ชั่นเหมาะกับการใช้ชีวิต
ในภาพรวมผมรู้สึกได้ถึงความ comfy & homey ครับ สบายและอบอุ่นประหนึ่งกลับมาจากที่ทำงานแล้วได้นั่งอยู่ในบ้านจริงๆ
เลย์เอ้าท์การเก็บของถือว่าดี เพราะนับว่าเพียงพอและใช้ได้จริง
มันอารมณ์แบบว่าไม่ใช่การออกแบบเพื่อความเน้นสวยงามแต่ของในบ้านระเกะระกะเพราะไม่มีที่เก็บไง ที่นี่ออกแบบมาให้ที่เก็บของเป็นเหมือนโชว์เคสได้เลย ไม่รกตา มีสไตล์
อีกอย่างที่อยากบอกคือ ห้อง 2 bed วิวดีสุดครับ เค้าบอกว่าการตอบรับดีทุกไทป์ก็จริง แต่ผมก็แอบๆ เชียร์ห้อง 2 bed นะ 55555
ตอนนี้โครงการมีราคาโปรโมชั่น เริ่มต้น 5.59 ล้านบาท สำหรับช่วงเปิดตึกครั้งแรก
ถามว่าราคาแรงมั้ย ก็แรงแหละ
แต่กลุ่มลูกค้าที่ทางนี้เค้าเล็งไว้คือผู้อยู่อาศัยเองที่คุ้นชินกับพื้นที่แถบนี้ หรือครอบครัวที่มีลูกเรียนอยู่ในละแวกนี้เนอะ แถมไซส์มันเริ่มต้นค่อนข้างใหญ่ ก็คือมีตั้งแต่ 32-100 กว่า ต.รม. เลย
ผมว่าสายลงทุนอาจจะเน้นการซื้อไว้แล้วปล่อยเช่าชาวต่างชาติจะโอเคกว่า และอย่าลืมว่าต่างชาติซื้อแล้วปล่อยเช่าเราได้เหมือนกัน ดังนั้นเราต้องรีบซื้อก่อนแล้วจะได้ปล่อยเช่าต่างชาติก่อนครับ 5555
Tag :
มั่นใจว่าผมอยู่กับ "Ashton Residence 41" มาไม่น้อยกว่าใคร...
ตั้งแต่ผมเริ่มก้าวเท้าเข้ามาลงทุนคอนโด สามารถบอกได้เลยว่า ปีนี้ เป็น 1 ในปีที่ "ราคา" คอนโด ดีที่สุดแล้ว หลายๆเจ้า ขนคอนโดมาวางแผงขายลดราคา ทั้งเก่า และใหม่
ผมเชื่อว่า คนจำนวนมาก ยังต้องการให้มี สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และถ้ามีศักยภาพทางการเงินที่มากพอ "NOWW MEGA" ก็อาจไม่ใช่โครงการที่คุณมองหา
"ONE ORIGIN SUKHUMVIT 68" ไลน์อัพแตกแตน สมความเป็นแดน ONE ORIGIN
'เฟล็กซี่ สำโรง-อินเตอร์เชนจ์' คอนโดใหม่ ใกล้รถไฟฟ้าสถานี Interchange ทั้ง BTS สายสุขุมวิท และ MRT สายสีเหลือง สถานีสำโรง POP สุดในย่าน Facilities จัดเต็ม 3 ชั้น
ออริจิ้น หรือที่ผมชอบไปเรียกเค้าว่าพี่อัศวินเนี้ย เค้าสมฐานะเจ้าอสังหาฯ ที่เปิดตัวคอนโดเยอะที่สุดในปี 2023 จริงๆ แหละ ไอเราก็เป็นเพจคอนโดซะด้วย ทีนี้ก็ว้าวุ่นเลย ตามเก็บทำเลมาเล่าให้ทุกคนอ่านกันต่อเนื่อง5555
แค่เห็นก็ใจสั่นแล้ว กล่องคิ้วท์อะไรเบอร์นี้!! “Krispy Kreme Greeting Holiday Gift” นำลวดลายเทศกาลคริสต์มาตกแต่งบนกล่องพรีเมียมสีสันสดใส จับคู่มากับเซตความอร่อยของโดนัทเนื้อนุ่มให้เลือกฟินถึง 2 สไตล์
นอกจากจะขยันออกโดนัทหน้าใหม่ทุกเทศกาลแล้ว เครื่องดื่มประจำเทศกาลเค้าก็ไม่น้อยหน้าเหมือนกันนะ!!
คริสปี้ ครีม ยกเอามู้ดของความสุขมาไว้บนโดนัทหน้าใหม่!! กับ “Krispy Kreme x elf Specialty Doughnuts” ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขถึง 4 หน้า 4 สไตล์
'น้องนมเย็น' หรือ รถไฟฟ้าสายสีชมพู โดยมีกำหนดให้ประชาชนได้ทดลองใช้ฟรี!! ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย. - 17 ธ.ค. 2566
อุตสาหกรรมภาพยนตร์เป็นหนึ่งในภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดตลอดช่วงโควิด-19 ครับ ตอนนั้นโรงภาพยนตร์ทั่วโลกต้องปิดตัวลงเป็นระยะเวลานาน การถ่ายทำก็หยุดชะงัก เรียกว่าพังกันไปเป็นหย่อมๆ
นี่คือร้านที่ดีที่สุดในทริปเซี่ยงไฮ้ ผมอยู่ 5 วัน กินร้านนี้ไป 2 วันติด! เอาแบบนี้ ถ้าพี่จีนจะทำบุฟเฟต์ขนาดนี้ จะมีใครไปสู้พี่เค้า เดี๋ยวจะบรรยายให้อ่านก่อนว่าเค้าทำอะไรให้บ้าง แล้วมาเดาราคากัน