ก่อนหน้านี้พี่ใหญ่อสังหาจีนเบอร์ 1 อย่าง China Evergrande เพิ่งล้มไป
ล่าสุด “Sunac China Holdings” ผู้ที่เคยครองอันดับ 3 ก็ตามไปอีกรายแล้วนะ
ซึ่งทั้ง 2 รายถือเป็นพี่ใหญ่ของวงการอสังหาจีนทั้งคู่ เวลาก็ใกล้เคียงกัน
ดูเหมือนวิกฤตการณ์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังบั่นทอนใจ
และความเชื่อมั่นของเศรษฐกิจจีนในเวลานี้ อาจยังไม่จบลงง่าย ๆ แน่นอน
Sunac Holdings ยิ่งใหญ่แค่ไหนกันนะ
ถ้าเราย้อนดูข้อมูลของ CreditSights ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
Sunac Holdings ถือเป็นบริษัทอสังหาจีนรายใหญ่ที่สุดอันดับ 10 ในประเทศในแง่ของยอดขาย
ซึ่งเป็นการหล่นชั้นลงมาเรื่อย ๆ นับตั้งแต่บริษัทเริ่ม “ผิดนัดชำระหนี้” (Default)
เป็นครั้งแรกเมื่้อเดือน พ.ค. 2022 หลังจากไม่สามารถชำระดอกเบี้ย 29.5 ล้านดอลลาร์
ของหุ้นกู้สกุลเงินต่างประเทศวงเงินเกือบ 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐได้
ทว่าในยุครุ่งเรืองนั้น Sunac เคยใหญ่สุดเป็นอันดับ 3 ในจีนมาแล้ว!!!
โดยบริษัทมีสำนักงานใหญ่ในนครเทียนจิน และเน้นพัฒนาอสังหาในเมืองเศรษฐกิจใหญ่ ๆ
เช่น ปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ และถือเป็นผู้เล่นรายใหญ่เบอร์ต้น ๆ ในตลาดจีนมาตลอด
ในผลประกอบการปี 2019 ก่อนยุคฟองสบู่แตก บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 57%
เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อยู่ที่ 3,700 ล้านดอลลาร์ (มากกว่า 1.3 แสนล้านบาท)
และในปี 2020 ที่รัฐบาลเริ่มเข้ามาคุมตลาดอสังหาฯ พี่แกก็ยังท็อบฟอร์มนะ
โดยยังสามารถทำรายรับได้ถึง 2.3 แสนล้านหยวนต่อปี (มากกว่า 1 ล้านล้านบาท)
ผู้ก่อตั้งที่พลิกชีวิตสู่ "เจ้าชายวงการอสังหา"
ถ้าคิดว่าเรื่องราวของบริษัทน่าสนใจแล้ว "ผู้ก่อตั้ง" Sunac Holding ก็ไม่แพ้กันเลยนะ
เพราะ Sun Hongbin ผู้ก่อตั้งเค้าเคยติดคุกมาก่อน เคยทำธุรกิจอสังหาเจ๊งมาแล้วด้วย
และที่พีคสุดคือเคยได้ชื่อว่าเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวแห่งวงการอสังหาฯ จีน!!!
Sun เรียนจบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยชั้นนำชิงหวา (Tsinghua)
ได้ทำงานในบริษัทคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่เลอโนโว
เขากลายเป็นดาวเด่นในบริษัทก่อนที่จะลาออกในเวลาต่อมา
และถูกฟ้องร้องในคดียักยอกทรัพย์ 1.3 แสนหยวน (ประมาณ 6.5 แสนบาท)
จนถูกตัดสินลงโทษจำคุก 5 ปี แต่ระหว่างนั้นก็ได้ยื่นอุทธรณ์สู้คดี
และได้รับการตัดสินให้พ้นมลทินในเวลาต่อมา
เขาได้ก่อตั้งบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในชื่อว่า Sunco ในเมืองเทียนจิน เมื่อปี 1994
เพื่อเข้ามาเล่นในตลาดที่มีแนวโน้มสดใส ทว่าธุรกิจอสังหาฯ ครั้งแรกของเขาไปได้ไม่สวยนัก
เมื่อเจอปัญหาขาดสภาพคล่อง จนต้องขายบริษัทให้กับทุนฮ่องกง
ทำให้เขาหันไปโฟกัสกับบริษัทใหม่ “Sunac China Holdings”
ซึ่งครั้งนี้บริษัทเติบโตมาด้วยดีจนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงในปี 2010
จนทำให้ Sun ก้าวขึ้นสู่ทำเนียบ 200 มหาเศรษฐีจีนได้ในวัยเพียง 40 ปีเท่านั้น
สินทรัพย์ของเขาเพิ่มพูนขึ้นเป็นกว่า 9,000 ล้านดอลลาร์ ในปี 2021
จากการรายงานของฟอร์บส์ และเขายังเคยได้ฉายาว่าเป็น "เจ้าชายขี่ม้าขาวแห่งวงการอสังหาฯ"
กับการช่วยซื้อสินทรัพย์ของบริษัทอสังหาฯ รายอื่นๆ ในช่วงที่ตลาดทรงๆ ตัวก่อนหน้านี้
แต่ในท้ายที่สุดก็ไม่สามารถรอดพ้นจากวิกฤติครั้งใหญ่ในจีนได้
จนนำไปสู่การยื่นล้มละลายในที่สุด
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่การบริหาร แต่เป็นมาตรการจากรัฐบาลกลาง
เอาจริง ๆ แล้วจากที่ผมศึกษาและอ่านข่าวมา Sunac ไม่ได้ล้มเพราะบริหารผิดพลาดเลยนะ
แต่เป็นปัญหาในภาพรวมของวงการอสังหาริมทรัพย์จีนทั้งหมด ที่เผชิญชะตากรรมคล้าย ๆ กัน
เคยมีช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์เมื่อรัฐบาลปักกิ่งมีนโยบายปล่อยสภาพคล่องกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ
ซึ่งเงินจำนวนมากถูกกระจายผ่านตามรัฐบาลท้องถิ่น และนำไปสู่การลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์
ก่อนที่รัฐบาลกลางจะกลับลำหันมาเปลี่ยนแผนครั้งใหญ่ด้วยการออกนโยบาย "Three Red Lines"
เพื่อคุมความร้อนแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งหลังปี 2020
หลังจากนั้นมาอะไร ๆ ก็เริ่มดูแย่ลง โดยจากรายงานผลประกอบการบริษัทปีล่าสุด
Sunac มีหนี้สินทั้งหมด ณ สิ้นปี 2022 ที่ 1 ล้านล้านหยวน (มากกว่า 5 ล้านล้านบาท)
ท่ามกลางวิกฤตในภาคอสังหาริมทรัพย์จากมาตรการของรัฐบาลกลาง
ทำให้ยอดขายในปีที่แล้วลดฮวบลงถึง 50% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
หลังจากการผิดนัดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้สกุลเงินต่างประเทศครั้งแรกเมื่อกลางปี 2022
บริษัทมีการขอนัดบรรดาเจ้าหนี้เพื่อเจรจาขอผ่อนผันการชำระหนี้ตามมาอีกหลายครั้ง
ทั้งหนี้ในสกุลเงินหยวนและหนี้ในสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งเฉพาะในปี 2022
บริษัทมีหนี้หุ้นกู้ครบกำหนดชำระทั้งหมดถึง 1.7 หมื่นล้านหยวน (ประมาณ 8.5 หมื่นล้านบาท)
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา บริษัทเพิ่งรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงว่า
ประสบความสำเร็จในการขอเจรจากับเจ้าหนี้มากกว่า 2,000 ราย
ในการปรับโครงสร้างหนี้และดอกเบี้ยสกุลเงินต่างประเทศวงเงินราว 9,900 ล้านดอลลาร์
ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัททะยานขึ้นในช่วงเช้า เนื่องจากถือเป็นสัญญาณบวก
และยังเป็นบริษัทอสังหาฯ ใหญ่รายแรกที่สามารถเจรจากับเจ้าหนี้ได้สำเร็จ
ก่อนที่ในช่วงบ่ายวันเดียวกันจะมีการเปิดเผยว่า
บริษัทยื่นขอรับความคุ้มครองจากศาลล้มละลายสหรัฐ ภายใต้มาตรา 15
ซึ่งนับเป็นรายที่สองต่อจาก ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ ที่เพิ่งเป็นข่าวไปก่อนหน้านี้นั่นเอง
แล้วใครเสี่ยงเป็นรายต่อไปกันนะ
จากข่าวที่ผมอ่านมาหลายเสียงต่างบอกชื่อเดียวกันว่า "Country Garden"
เพราะถือเป็นอีกหนึ่งบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อันดับต้นๆ ในจีน
ที่สำคัญคือเค้าเคยแซงเอเวอร์แกรนด์ขึ้นเป็นเบอร์ 1 เมื่อปีที่แล้วนี่เองด้วยนะ
แต่มีขึ้นก็ต้องมีลง หลังจากที่เคยสุ่มเสี่ยงต่อการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้มาแล้วหลายครั้ง
ในการรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์เมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา
บริษัทได้แจ้งการขาดทุน 4.89 หมื่นล้านหยวน (ราว 2.4 แสนล้านบาท) ในช่วงครึ่งแรกของปี 2023
ขณะที่บริษัทมีหนี้ทั้งหมด 1.94 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 7 ล้านล้านบาท) ณ สิ้นปี 2022
รอยเตอร์สรุปว่าหลังจากที่บริษัทรอดพ้นการผิดนัดชำระหนี้มาถึง 2 ครั้งภายในเดือนนี้
ล่าสุดได้ถึงกำหนดครบชำระใหม่อีกครั้งกับดอกเบี้ยจำนวน 15 ล้านดอลลาร์
ของหุ้นกู้วงเงิน 500 ล้านดอลลาร์ ที่ครบกำหนดเมื่อวันที่ 19 ก.ย.
เจ้าหนี้บางรายเปิดเผยว่ายังไม่ได้รับเงิน
ต้องจับตาดูว่าจะจัดการได้ภายในช่วงระยะเวลาผ่อนผันถึงกลางเดือน ต.ค. ได้หรือไม่
เพื่อไม่ให้กลายเป็นการผิดนัดชำระหนี้ครั้งแรกของ Country Garden
ที่จะเขย่าความเชื่อมั่นเศรษฐกิจจีนอีกครั้ง
และนี่ก็คือเรื่องราวล้อมวงเล่าแวดวงอสังหาจีนที่ผมนำมาฝากกันครับ
จะเห็นได้ว่าจริง ๆ แล้ววงการอสังหาจีนถือเป็นตลาดที่ใหญ่มาก
บริษัทใหญ่ ๆ ล้วนมีมูลค่ามหาศาล และที่ล้มส่วนหนึ่งก็ไม่ใช่จากการบริการผิดพลาดเลย
ต้องคอยติดตามกันต่อไปว่าบริษัทเหล่านี้จะปรับตัวกันยังไง
หรือรัฐบาลกลางจะมีท่าทีต่อมาตรการที่เขย่าตลาดนี้มั้ย
ไว้มีเรื่องรายสนุก ๆ จะนำมาเล่าให้ฟังใหม่แน่นอนค้าบบบบบ อิอิ
ที่มา:
https://www.bangkokbiznews.com/world/1089512
https://edition.cnn.com/2023/09/19/economy/china-sunac-ny-bankruptcy-protection-intl-hnk/index.html
Tag : Sunac China Holdings | China Evergrande | อสังหาริมทรัพย์
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ใครฝันอยากลองคอสเพลย์เป็นผู้ปกครองระบบศักดินา เจ้าของปราสาท หรือท่านโชกุนจ้าวแคว้นของญี่ปุ่น วันนี้กำเงิน 3 แสนบาทไป ก็ได้สัมผัสประสบการณ์เลอค่านี้แล้วครับ
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย