“แสนสิริ ทำบ้านระดับ Luxury ได้กำไรน้อยมาก แต่ต้องทำเพราะมันคือตัวตนของเรา”

        ทุกครั้งที่ผมไปเยือนหมู่บ้านของ ‘แสนสิริ’ ผมจะคาดหวังไว้สูงเสมอ แต่ทุกครั้งที่ไปถึงกลับพบว่า ‘ผิดคาด’ เพราะมัน ‘เกินคาด’ เสมอ 

        ถ้าแสนสิริบอกว่าจะทำบ้าน ‘Super Luxury’ แปลว่ามันจะ ‘Super Super Luxury’ 

        ‘Bugaan Pattanakarn’ คือหนึ่งใน ‘Sansiri Luxury Collection’ เพียง 17 ครอบครัว ซ่อนตัวอยู่ใน ‘ซอยพัฒนาการ 32’ ใช้เวลา ออกแบบ ก่อสร้าง พัฒนาโปรดักส์ เพื่อให้ออกมา ‘เกินคาด’ 

        และผมก็ ‘ตะลึง’ อีกครั้ง

        - Private Lap Pool สระว่ายน้ำส่วนตัวพร้อมจากุซซี่ ที่ชั้นบนของบ้าน ขนาด 10 เมตร เชื่อมต่อกับพื้นที่ Open Space ภายในบ้านขนาดใหญ่ เหมือนมีส่วนกลางส่วนตัวภายในบ้าน

        - Private Lift ลิฟต์ส่วนตัวในบ้านทุกหลัง

        - Collectable Car Parking สำหรับซูเปอร์คาร์คันโปรด

        - Legendary Olive Tree ต้นโอลีฟอายุกว่าพันปี นำเข้าจากสเปน iconic piece ด้านหน้าโครงการที่โดดเด่นด้วยรูปฟอร์มอันเป็นเอกลักษณ์

        - Inner Courtyard เปลี่ยนภาพจำเดิมๆ ของบ้าน 3 ชั้น ด้วยการโอบล้อมพื้นที่สีเขียวเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้ใกล้ชิดธรรมชาติ

        - Main Gate แบบ overscale สูง 5 เมตร มอบความไพรเวทสูงสุด ประดับด้วยหินอ่อนธรรมชาติสีดำสลับกับสีเส้นแร่สีน้ำตาลทอง จากอิตาลี

        - Overscale Main Gate สูงถึง 5 เมตร สร้างความไพรเวทสูงสุด เพดานทำด้วย cladding สีทองรับกับแสงตกกระทบยามเย็น รวมถึงประดับด้วยหินอ่อนธรรมชาติ “Belvedere” (เบลวีเดีย) สีดำสลับกับสีเส้นแร่สีน้ำตาลทอง นำเข้าจากเหมืองหินอิตาลี

        - พื้นที่ Plaza ที่มาพร้อมกับม่านน้ำพุความกว้างกว่า 26 เมตร เชื่อมต่อกับ Double gate เพิ่มความปลอดภัยในการเข้าถึงที่พักอาศัยอย่างสูงสุด

        - Iconic Daybed จากแบรนด์ Diabla นำเข้าจากประเทศสเปน บริเวณสระว่ายน้ำส่วนกลาง ขนาด 4.4 x 15 เมตร

        - เครื่องออกกำลังกายจากแบรนด์ Technogym และ PENT แบรนด์อุปกรณ์ออกกำลังกายที่มีชื่อเสียงในเรื่อง Craftsmanship สุดลักซ์ชัวรี่จากประเทศโปแลนด์

        - ภาพวาดตกแต่งผนัง Lobby Lounge ชื่อภาพ “Crocodile Duck” โดย Barry Reigate ศิลปินชาวอังกฤษผู้มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก

        - บ้านมี 2 ขนาด ได้แก่ VILLA I (698ตร.ม.) และ VILLA II (417 ตร.ม.)

        ผมยังคงเชียร์เสมอว่า ถ้ามีกำลังซื้อเพียงพอ ‘บ้านตัวอย่าง’ คือ Choice แรกที่ควรเลือก เพราะการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์หลายอย่าง ไม่ใช่แค่มีเงินแลเวจะหามาได้ และเมื่อได้มาแล้วจะวางอย่างไรให้มันเข้ากัน กลมกลืน และสวยงามเข้ากับบ้าน Selected Rare item เช่น

        - Vintage Italian Dry Bar ผลงานของ Gio Ponti นักออกแบบเฟอร์นิเจอร์ชื่อดังชาวอิตาลี ที่ผลิตขึ้นตั้งแต่ปี 1950 และมีเพียงชิ้นเดียวในประเทศไทย

        - โคมไฟแอนทีค จาก Brussel ประเทศเบลเยี่ยม

        - แชนเดอเลียร์ Italian Murano และ Iconic Lamp รุ่น Pipistrello Telescoping นำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส เป็นต้น

        ยอดจองตอนนี้ไปกว่า 60% แล้ว แค่ลูกค้าเก่าก็จองเก็บไว้ก่อนแล้ว แต่ถ้าใครอยากมาเป็นลูกค้าใหม่ของ ‘แสนสิริ’ วันที่ 23-24 ก.ย. นี้ ไปที่โครงการได้เลย

        ผมมักจะใช้เวลาถ่ายรูปทางเข้าหมู่บ้านของ ‘แสนสิริ’ มากกว่าโครงการเจ้าอื่นเสมอ และนี่เป็นแค่บางส่วนที่ทำให้แตกต่างจากคนอื่น รสนิยมที่หาซื้อไม่ได้ และเมื่อไหร่ที่เจ้าอื่นขยับเข้ามา ‘แสนสิริ’ ก็จะหนีออกไปอีก เรื่อยๆ และ เรื่อยๆ 

        แสนสิริ นี่มัน แสนสิริ จริงๆ #BuGaanPattanakarn