"เอาแมวเธอมาเล่นที่บ้านเรามั้ย"
มุกใหม่นี้เอาไปใช้เล่นได้แน่นอนครับ ถ้ามีบ้านอยู่ในโครงการ "Supalai Ville วงแหวน-ลำลูกกา คลอง 7"
และจะเป็นไปได้ยิ่งกว่าถ้าเป็นบ้านที่ตกแต่งด้วยโมเดล "PET FRIENDLY COMMUNITY" จากทางศุภาลัย
วันนี้มาขายของให้เหล่าทาสแมวเต็มที่ และผมบอกเลยว่าโมเดลนี้ลองให้น้องเหมียวมาทดลองใช้ชีวิตด้วยตัวเองแล้ว ถ้าน้องให้สัมภาษณ์ได้ก็คงจะยกอุ้งเท้าบอกว่าชอบมาก อยากซื้ออยู่เองแน่ๆ ละ
ความจริงหลังๆ มานี้เราเริ่มเห็นดีเวลลอปเปอร์หลายเจ้าหันมาสร้างแบรนด์ที่ตอบโจทย์เหล่าคนรักสัตว์สี่ขากันมากขึ้นนะ
อย่างโกวศุเองก็หันมาจับเทรนด์นี้เหมือนกัน ด้วยการเปิดเกมรุกรับเทรนด์ Pet Humanization สร้างสรรค์ไอเดียที่อยู่อาศัยที่เข้าใจคนรุ่นใหม่ พร้อมตอบโจทย์คนรักสัตว์โดยเฉพาะ
สำหรับครั้งนี้เป็นการออกแบบบ้านแฝดแบบใหม่สไตล์ทรอปิคอลในโครงการ "Supalai Ville วงแหวน-ลำลูกกา คลอง 7" ที่ผมคิดว่ามันดีมากๆ ตั้งแต่จุดสตาร์ทก็คือ ทีมของศุภาลัยที่มาจับงานนี้ล้วนแล้วแต่เป็นคนรักสัตว์ที่โวลันเทียมาทำโปรเจ็คต์ทั้งนั้นเลยครับ
ก่อนจะไปถึงตรงนั้นขอพูดก่อนว่าโครงการนี้ตั้งอยู่บนถนนเทศบาลลำลูกกา 3 ปทุมธานี ขึ้นชื่อในแง่ของการเดินทางที่สะดวกสบายเพราะเชื่อมต่อกับถนนเส้นหลักอื่นๆ ได้อีกหลายสาย
ในแง่ของศักยภาพส่วนนี้ก็นับว่าเยี่ยมมากแล้ว
พอมันมีโมเดลที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ไม่อยากมีลูก แต่อยากเลี้ยงสัตว์ให้อยู่เป็นเพื่อนเราในสมัยนี้ ก็ยิ่งทำให้โครงการน่าสนใจเข้าไปอีก
โมเดลนี้เป็นการจัดดีไซน์และสเปซให้มันปังกว่าเดิม ด้วยการออกแบบพื้นที่บ้านแฝดแบบ "ศุภชวาล" ซีรีส์ล่าสุดสไตล์ Tropical Modern ของ "Supalai Ville วงแหวน-ลำลูกกา คลอง 7" ให้เป็นพื้นที่ที่เจ้านาย (น้องเหมียว) กับทาส (อย่างเรา) สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว
แบบบ้านที่ว่านี้มีพื้นที่ใช้สอย 133 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ส่วนพักผ่อน และ 2 ที่จอดรถครับ
จุดเด่นด้านในคือ "Shared Space" ซึ่งเป็นพื้นที่ตอบโจทย์ต่อการใช้งานร่วมกันของเจ้านายซึ่งก็คือน้องเหมียว และเราผู้เป็นทาสของน้องเหมียว
อย่างที่เห็นคือออกแบบในเชิงเปิดโล่ง ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย
มีการแบ่งแยกพื้นที่ใช้สอยเป็นสัดส่วนและต่อเนื่อง เพื่อแชร์พื้นที่ความสุขและกิจกรรมร่วมกันในห้องต่างๆ ได้อย่างทั่วถึง
ไม่ว่าจะเป็นห้องรับแขก ห้องทานอาหาร ห้อง Master Bedroom และห้องทำงาน ก็คือมีพื้นที่สำหรับเราและน้องได้ทุกที่
มี Relaxing Space พื้นที่สำหรับกิจกรรมของน้องเหมียวและเราผู้เป็นเจ้าของสามารถตามเอาใจนายท่านได้อย่างทั่วถึง
ที่ชอบคือมีพื้นที่สำหรับต่อเติมเอาไว้รองรับการเลี้ยงสัตว์ในระบบปิดด้วยครับ เพื่อให้น้องแมวได้ผ่อนคลายกับสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเป็นมิตรเนอะ
ฟังก์ชันหนึ่งที่น่าสนใจคือ "Cat’s Parents Storage"
ผมชอบที่เขาออกแบบพื้นที่สำหรับเก็บของของน้องแมวและผู้อยู่อาศัยอย่างเราแยกออกจากกัน ถือเป็นการคำนึงถึงในเรื่องสุขลักษณะและการใช้พื้นที่ร่วมกันระหว่างสัตว์เลี้ยงและผู้อยู่อาศัยนะ
อย่างที่เห็นคือตรงพื้นที่ใต้บันไดมีแยก Storage เป็นสัดส่วนเพื่อใช้เป็นพื้นที่เก็บของของสัตว์เลี้ยงได้ เป็นพื้นที่เล็กๆ ที่ผมเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าน้องเหมียวชอบมากตามประสาสัตว์ที่ชอบอะไรที่มันพอดีๆ ตัวเค้าล่ะ
ในแง่ของเราผู้ซื้อบ้านให้เหมียวอยู่เองก็พอใจ เพราะพื้นที่ใต้บันไดปกติก็ไม่ได้ใช้งานอะไรอยู่แล้ว เปลี่ยนมาวางข้าวของเครื่องใช้ของนอน ที่หลับที่นอนใดๆ ก็เหมาะดี
ในส่วนของพื้นที่ครัวยังออกแบบให้เป็นห้องครัวปิดด้วยครับ มีพื้นที่สำหรับตู้เก็บอาหารบานปิด ไม่ต้องกลัวน้องแมวแอบจิ๊กอาหารเวลาเราเผลอ
ถ้าขึ้นไปชั้นบน จุดเด่นที่สำคัญคือห้องนอนใหญ่กั้น Walk in Closet ได้
ใครที่เลี้ยงแมวจะรู้อยู่แล้วว่าสีที่ไม่ควรใส่คือสีดำ เพราะขนแมวติดเสื้อทีจะเห็นชัดมากและกำจัดยากด้วย แต่การมีสิ่งนี้เพิ่มเข้ามาก็ช่วยป้องกันขนแมวติดเสื้อผ้าได้ดีเลย พื้นที่ใครพื้นที่มัน เลิฟสุดๆ
แต่ที่ยกให้เป็นที่หนึ่งในความเห็นส่วนตัวของผมและน้องแมว ก็ต้องเป็น "Cat in the forest" อยู่แล้ว
ตรงนี้เป็นจุดที่เมื่อเดินเข้ามาแล้ว ตาผมไปตกอยู่ที่ตรงนี้ก่อนเลย
เพราะนี่คือพื้นที่เชื่อมสวนที่จะเป็นพื้นที่ส่วนตัวของน้องแมว ให้เขาปีนๆ ป่ายๆ อยู่ตรงนั้นได้โดยมีบานกระจกใสกั้นเป็นห้อง ซึ่งในนั้นก็มีแคททาวเวอร์และของเล่นทั้งหลายวางไว้ให้นายท่านก่อนแล้ว
ต้องรู้ก่อนว่าแมวหลายตัวชอบชมวิวครับ วันๆ นึงสามารถนั่งชมนอนชมได้ทั้งวัน ตรงนี้จึงเหมาะจะเป็นพื้นที่ปล่อยชิลของเค้ามากเลย ไอ้เรานั่งมองอยู่ข้างๆ ยังอินไปด้วยแฮะ
ผมมองว่าเอาเข้าจริงมันไม่ใช่แค่การตกแต่งภายใน แต่มันคือการคิดคำนึงถึงฟังก์ชั่นต่างๆ ที่อะแดปให้เข้ากับพฤติกรรมสัตว์
ถ้าเราสังเกตดีๆ โมเดลบ้านหลังนี้มีจุดเล็กจุดน้อยที่เป็นดีเทลน่าสนใจเยอะแยะเลย
อย่าง Master bedroom ก็มีใต้เตียงให้น้องแมวแอบซ่อนตัวเองได้เวลาอยากเล่นซ่อนหากับเรา เฟอร์นิเจอร์ใดๆ จะมีรูให้น้องมุด และพื้นที่ห้องจะแบ่งเป็นสองส่วนเพื่อให้แมวอยู่กับเจ้าของในห้องนอนได้
อย่างห้องทำงานเองก็เหมือนกัน คนเลี้ยงแมวจะรู้กันดีว่าแมวมักชอบมากวนเวลาเราทำงาน ไม่รู้เป็นอะไรนักหนา
แต่ถ้าอยู่ในห้องนี้เรานั่งทำงานไป น้องแมวก็จะมีพื้นที่สำหรับเล่นอยู่ข้างๆ และแอบมองเราได้
ถ้าเบื่อๆ ก็ยังมีกระบองเพชรให้ฝนเล็บ อยากคุ้ยเอกสารเราเหรอ? ฝันไปเถอะ เพราะเฟอร์นิเจอร์ในห้องทำงานจะเป็นบานปิดทั้งหมด กันน้องคุ้ยเอกสารโดยเฉพาะ ไม่ได้ใส่ใจแค่แมว แต่ก็ใส่ใจเราผู้เป็นคนทำงานหาเงินมาเลี้ยงแมวด้วยเช่นกัน
ผมลองดูแล้ว วัสดุที่ใช้ในบ้านก็เป็นวัสดุที่ปลอดภัยกับสัตว์เลี้ยงและดูแลรักษาง่ายเช่นกันครับ
อย่างพื้นไม้ลามิเนตป้องกันแบคทีเรีย ทนต่อรอยขีดข่วนได้ดี สีทาพื้นผิวแบบ Organic Care ผ้าบุเฟอร์นิเจอร์รุ่น Pet Friendly รองรับการเกาของน้องแมวได้ และแน่นอนว่าป้องกันเชื้อโรคด้วย ผ้าม่านที่ใช้ก็เป็นแบบม้วน เก็บง่าย ป้องกันแบคทีเรีย รวมไปถึงลามิเนตสำหรับปิดผิวเฟอร์นิเจอร์ ป้องกันเชื้อโรคและน้ำ ถือว่าครบอยู่นะ
เรียกได้ว่าทั้งคนทั้งแมวสามารถฟินกับทุกมุม ทุกฟังก์ชัน ภายในบ้านได้เลย
และโมเดลนี้โกวศุแกเพียงนำเสนอเป็นแนวคิดเท่านั้นนะ ลูกค้าอย่างเราสามารถเลือกตามบัดเจ็ตที่มีในกระเป๋าได้ แต่ราคาก็ไม่แรงอะไรนะครับ เริ่มต้นเพียง 3.76 ล้านบาทเท่านั้นกับแนวคิดที่ครอบคลุมมากแบบนี้
ใครมีแมวและอยากมีบ้านที่คิดขึ้นมาเพื่อแมวโดยเฉพาะ เหมียวแฮปปี้ คนก็แฮปปี้ ตอนนี้ก็ต้อง "Supalai Ville วงแหวน-ลำลูกกา คลอง 7" หลังนี้เท่านั้นแล้วล่ะ
Tag :
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ