ช่วงนี้ได้ข่าวมาว่าใครอยากไหว้พระขอพรในเรื่องหน้าที่การงานให้แวะไป "ศาลเจ้าแม่ทับทิม สะพานเหลือง"

        ส่วนหนึ่งเพราะศาลนี้กำลังเป็นที่พูดถึงในช่วงนี้ด้วยแหละ และไอ้เราก็เกิดความสนใจอยากแวะเข้าไปกราบสักหน่อยตามประสาคนอินเทรนด์ มีหรือจะพลาด

        เพราะแบบนั้นเลยเกิดเป็นการทัวร์สายมู "ศาลเจ้าแม่ทับทิม สะพานเหลือง" ขึ้นมา

        "ศาลเจ้าแม่ทับทิม สะพานเหลือง" ถือว่าเป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ครับ

        เพราะอยู่คู่ "สะพานเหลือง" มานานกว่าร้อยปี และนับได้ว่าเป็นศาลเจ้าที่มีสถาปัตยกรรมแบบจีนแต้จิ๋วที่เรียกว่า "เตี่ยวโผกิก" ที่น่าสนใจมาก

        เอาเป็นว่า เฉพาะแค่แวะไปชมสถาปัตยกรรมเก่าทรงคุณค่าแบบนี้ก็ถือว่าคุ้มแล้วนะ

        "ศาลเจ้าแม่ทับทิม สะพานเหลือง" เป็นศาลเจ้าเล็กๆ ที่จะว่าไปก็มีคนแวะเข้ามากราบไหว้กันไม่ขาดสาย

        แต่ช่วงนี้มันมีประเด็นที่ว่าใครไปขอเรื่องหน้าที่การงานแล้วเห็นผลทันตา ใครอยากได้งานก็ได้ทันที เป็นเจ้าแม่ recruiting เลยก็ว่าได้ คนก็เลยยิ่งเยอะขึ้นกว่าเดิมไปอีก!

        การเดินทางไม่มีอะไรยากเลยครับ เข้าทางซอยจุฬาฯ 9 ไปก็เจอแล้ว ศาลนี้ซ่อนตัวอยู่กลางวงล้อมของสิ่งก่อสร้างสมัยใหม่ที่กำลังรุกคืบเข้ามาจากทุกด้านรอบตัว

        ที่นี่ไม่มีให้จอดรถ แต่ถ้าใครอยากเดินเท้าไปยังศาลดั้งเดิมก็ทำได้ไม่ยากเย็นอะไรเหมือนกัน ลงที่ MRT สามย่าน ออกมาทางสามย่านมิตรทาวน์แล้วใช้สองเท้าเดินก็ถึงครับ แค่จะเหนื่อยแบบพอประมาณหน่อย ใจสู้ก็ไหวนะ

        ส่วนใหญ่คนที่มาไหว้เจ้าแม่ทับทิมมักจะไหว้ขอให้กิจการรุ่งเรือง ส่วนผู้หญิงที่แต่งงานใหม่ๆ ก็จะมาไหว้ขอลูกกัน แต่ช่วงนี้ปลดล็อกสกิลใหม่ ไหว้ขอการงาน กำลังดังมากในโซเชียล เป็นกระแสปากต่อปากว่าขอแล้วได้จริง ทำให้ช่วงที่ผมไปนั้นมีคนมาไหว้เยอะมาก!

        วางแผนกับเพื่อนว่า ไม่ได้การละ ถ้าเราไปช่วงบ่ายๆ คนต้องเยอะมากแน่นอน เจ้าแม่อาจจะฟังคนขอมากไปจนไม่ได้ยินเสียงเรา (เอ๊ะ?) เลยนัดกับเพื่อนว่าไปช่วงเช้ากันเถอะ หลีกเลี่ยงคนเยอะ ให้เจ้าแม่ฟังคำขอของเราชัดๆ หน่อย

        สรุปว่าตอนเช้าก็ถือว่ามีคนมาแบบพอประมาณอยู่เหมือนกัน แต่ผมโชคดีตรงที่ไอ้เราน่ะเลือกไปช่วงเช้า ตอนกำลังจะกลับคนถึงเริ่มแวะเข้ามากันไม่ขาดสาย

        พูดถึงตัวศาลเจ้า ศาลเจ้าแม่ทับทิม สะพานเหลืองเป็นศาลเล็กๆ แต่กลับอบอุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ ที่สำคัญคือวัยรุ่นแวะไปกันเยอะ 

        มีศาลาทีกงลายมังกรตัดกับอาคารสูงด้านหลัง มีสิงโตจีนตั้งอยู่หน้าประตู มีภาพเซียนแกะสลักอีกนับสิบองค์ แม้ไม่ได้ดูยิ่งใหญ่ตระการตาเหมือนศาลเจ้าขนาดใหญ่รุ่มรวยทั้งหลาย แต่ก็เป็นศาลเจ้าเล็กๆ ตามแบบตำรับศาลเจ้าของชุมชนอย่างแท้จริง

        ด้านในเต็มไปด้วยกลิ่นธูปกลิ่นเทียน เสียงคนเขย่าเซียมซี อาจเพราะตัวศาลไม่ได้ใหญ่โตอย่างที่บอกไป เวลากราบไหว้จึงรู้สึกเหมือนได้ใกล้ชิดเจ้าแม่มากขึ้นกว่าเดิม แทบจะเข้าไปกราบตรงหน้าท่านแล้วครับ แบบนี้ต้องได้ยินเรื่องที่ขอแน่นอน 55555

        เราใช้เวลาอยู่ที่นั่นสักพักหนึ่ง ขอพรอย่างตั้งใจและยืนเหม่อมองความคอนทราสต์ด้านนอกเล็กน้อย พอเริ่มเข้าช่วงสายจึงค่อยเดินทางกลับ สวนทางกับบรรดาผู้แวะเวียนหน้าใหม่ที่เข้ามากราบไหว้เจ้าแม่อย่างต่อเนื่องไปตลอดทั้งวัน