"อยากให้กรุงเทพฯ มีตึกที่ผ่านไปนับร้อยปีก็ยังดูดีอยู่"
เวลาเราไปเห็นตึกในยุโรปหรืออเมริกาจะพบว่าตึกอาคารบ้านเค้าเป็นทรงเก่าทั้งนั้น อายุอานามก็ไม่น้อยสักนิด แต่สิ่งที่น่าสนใจคือตึกบ้านเค้ายังคงสวยอยู่แม้จะถูกกาลเวลากัดเซาะมานานหลายร้อยปีก็ตาม
และเพราะแบบนั้นจึงเป็นที่มาของคอนเซ็ปต์การออกแบบของตึกใหม่ใจกลางสาทรบ้านเรา อย่าง "Kronos Sathorn" ครับ
สำหรับ "Kronos Sathorn" เป็นตึกสำนักงานอัลตร้าลักซ์ชัวรี สไตล์แมนฮัตตันที่มีมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท ผลงานมาสเตอร์พีซของพาร์ทเนอร์ระดับโลก บนทำเลทองย่าน Real CBD อย่าง "สาทร"
จุดเริ่มต้นก็ง่ายๆ เลยคือทางกลุ่มไพบูลย์ธุรกิจไปเห็นตึกรามอาคารทั้งหลายในแมนฮัตตันที่อยู่มานานนับร้อยปีแต่ก็ยังคงสวยอยู่ เลยจุดประกายขึ้นมาว่าเราเองก็อยากสร้างตึกแบบนี้ในกรุงเทพฯ บ้างนะ
บวกกับที่เจ้าตัวชื่นชอบนาฬิกาเป็นทุนเดิม และเมื่อมองไปยังอีกทวีปอย่างยุโรปนั้น ใจกลางเมืองใหญ่ทั้งหลายล้วนแล้วแต่มีหอนาฬิกาเป็นเซนเตอร์ของเมืองทั้งนั้น
เพราะแบบนั้นมันเลย combine กันในตัว "Kronos Sathorn" ว่า อยากสร้างตึกที่ผ่านไปร้อยปีก็ยังมีคุณค่า เลยเลือกใช้สีทองแดงเป็นหลักเพราะเมื่อเวลาผ่านไปมันจะกลายเป็นสีเขียวสวย อีกอย่างคืออยากให้บนตึกมีนาฬิกาขนาดยักษ์ด้วย
ส่วนที่มาของเรื่องที่ว่าทำไมต้องเป็น "Kronos" ถ้าคนที่ชื่นชอบเรื่องราวของตำนานกรีกน่าจะเชื่อมโยงกันได้ละ
Kronos (โครนอส) เป็นชื่อของผู้นำเหล่ายักษ์ไททันและเป็นเทพแห่งกาลเวลาอันเป็นนิรันดร์ ดังนั้นจึงเชื่อมโยงเข้ากับคอนเซ็ปต์ความตั้งใจแรกเริ่มพอดีคือการโยงตัวนาฬิกาเข้ากับความเป็นนิรันด์และเทพโครนอส
ก็เลยออกมาเป็น "Kronos Sathorn" อย่างที่เห็นนี่แหละครับ
"Kronos Sathorn" เป็นอาคารสำนักงาน 28 ชั้นที่มีพื้นที่รวมกว่า 28,765 ตร.ม. ตอบโจทย์บริษัทที่ต้องการสำนักงานที่กว้างขวางและหรูหรา ไปจนถึงร้านค้าปลีกที่สะดวกสบายนะ
ที่นี่มีพื้นที่ให้เช่าต่อชั้น 1,150-1,270 ตร.ม. ครับ ถือว่าเหมาะกับองค์กรทุกขนาด รวมไปถึงบริษัทขนาดใหญ่ที่ต้องการพื้นที่ทั้งชั้นสำหรับการทำงานหลายแผนก มาพร้อมที่จอดรถมากถึง 321 คัน
เมื่อเข้ามาในอาคารแล้วจะรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นละมุนละไมด้วยแสงสีที่เค้าเลือกใช้ ให้ความรู้สึกเหมือนได้ทำงานอยู่บ้าน แต่เป็นบ้านที่มีรูปปั้นโครนอสตั้งตระหง่านอยู่หน้าทางเข้านะ 55555
บอกตามตรงว่าประทับใจกับรูปแบบการออกแบบของตึกมากเลย
มันเหมือนกับการยกเอาแมนฮัตตันว่าไว้กลางสาทร เพราะตึกทรงนี้อาจเห็นไม่บ่อยนักในบ้านเรา ออกแบบเหนือกาลเวลาที่เน้นความหรูหรา แต่เรียบง่ายไม่ล้าสมัย
มีความโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมการออกแบบซึ่งเป็นโนว์ฮาวจากประเทศญี่ปุ่นที่เน้นเรื่องความปลอดภัย และผมรู้มาว่าที่นี่เป็นอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยล่ะ
และนี่คือ 5 จุดเด่นของ "Kronos Sathorn" ที่ผมอยากพูดถึง
1. ความเป็นมาสเตอร์พีซแห่งใหม่ในไทยและเอเชีย มาแบบโมเดิร์นคลาสสิคที่โดดเด่นด้วยนาฬิกาสไตล์ Art Deco ซึ่งนาฬิกาเรือนนี้มีขนาดใหญ่ที่สุดในไทยและใหญ่เป็นอันดับ 8 ของโลก!
2. ทำเลซูเปอร์ไพร์ม บนถนนสาทร ย่าน Real CBD ถือว่าแวดล้อมด้วยธุรกิจและหน่วยงานชั้นนำ บริษัทตัวแทนระดับโลก โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว และโครงการมิกซ์ยูสแถวหน้าอีกมากมาย การเดินทางก็เข้าถึงได้ง่ายครับ ไม่ว่าจะเป็นถนนหนทางหรือระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวกรวดเร็ว
3. โซลูชั่น Best-In-Class ที่ตอบโจทย์การทำงานเหนือระดับ ด้วยเทคนิคการวางผังแบบไร้เสากลาง และมีเพดานสูงมากเป็นพิเศษตั้งแต่ 3-6 เมตร มีระเบียงสวยขนาดใหญ่บนชั้น 27 ลิฟต์โดยสารมากถึง 8 ตัว แม้ในเวลาเร่งด่วนก็ไม่แออัดจนต้องแขม่วพุงให้มีพื้นที่
4. เทคโนโลยีล้ำสมัย มุ่งสู่ “Smart Building” นวัตกรรมจัดเต็ม ทั้งสแกนใบหน้า คีย์การ์ด และคิวอาร์โค้ด ระบบไร้สัมผัส นวัตกรรมห้องน้ำไร้สัมผัส แท่นชาร์จรถ EV กว่า 11 จุด และระบบ Automate Car Parking system ก็มีให้บริการครับ
5. สุขภาพดีด้วย Well-being ติดตั้งเทคโนโลยีเพื่อสุขอนามัยและสวัสดิภาพความปลอดภัยขั้นสูงด้วยมาตรฐานระดับโลกมากมาย มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยในการใช้อาคาร
อย่างที่บอกไปว่าเพดานมีให้เลือกหลายแบบนะ แต่ว่าชั้นเพดาน 6 เมตรได้ข่าวว่ามีคนจองเต็มแล้วแล้ว ใครมาช้าก็น่าเสียดายหน่อยเพราะว่าตรงนี้สามารถทำเป็น 2 ชั้นได้ด้วย
ที่พิเศษสุดคือชั้น 27 ไฮไลท์เลยล่ะเพราะเป็นชั้นที่มีระเบียงขนาดใหญ่ให้ ชั้นอื่นไม่มีแบบนี้บอกเลย
และนอกจากมีระเบียงแล้ว เมื่อเราเดินออกไปนอกระเบียงแล้วเงยหน้าขึ้นจะเห็นนาฬิกาซิกเนเจอร์ของอาคารนี้ครับ ช่วงที่ผมไปดูน้องหยุดเดินอยู่ เพราะชั้น 28 กำลังตกแต่งเลยยังเดินไม่ได้ชั่วคราว
อ้อ ลืมบอกไปว่าสำหรับชั้นบนสุดนี่เห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยนะ วิวดีไม่หยอก
ส่วนชั้น 28 จะใช้สำหรับรับรองลูกค้าวีไอพีเท่านั้นครับ อยู่ด้านหลังนาฬิกาเลย ผมคิดว่านอกจากครั้งนี้แล้วก็คงไม่มีโอกาสได้ขึ้นไปอีกแล้วล่ะ 5555
แล้วก็ตอนนี้ยังไม่มีฟู้ดคอร์ทภายในอาคารนะครับ จะเป็นร้านแบบ grab & go มากกว่า แต่ก็ไม่นับว่าติดอะไรนะเพราะย่านสาทรนี่มีร้านรวงขายอาหารมากอยู่แล้ว แต่อาจต้องเดินหน่อยเท่านั้น
พูดถึงเดิน ก็ต้องพูดถึงรถไฟฟ้าหน่อย ตัวอาคารห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีศาลาแดง และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสีลม ประมาณ 750 เมตรครับ ถ้าเดินก็เดินเพียง 10 นาที
และอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีลุมพินีเพียง 600 เมตร เดินเพียง 7 นาที แต่ถึงอย่างนั้นถ้าเดินจริงทางมันค่อนข้างลำบาก ทางโครงการจึงมีบริการรถรับ-ส่งให้!
เอ้อ อันนี้ผมชอบแฮะ เพราะช่วยอำนวยความสะดวกได้ไม่น้อยเลย รถรับส่งนี้จะไปยังรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสีลม และรถไฟฟ้า BTS สถานีศาลาแดงครับ แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าการให้บริการถี่แค่ไหนและจะรองรับได้ครอบคลุมมั้ย
ช่วงนี้อาคารสำนักงานผุดใหม่เยอะขึ้นมากจริงๆ อย่าง "Kronos Sathorn" ก็ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพกว่า 50% แล้วครับ
รู้มาว่าที่นี่มีค่าเช่าเริ่มต้นต่อตารางเมตรที่ 900 บาทนะ ถือว่าราคาดีทีเดียวเพราะค่าเช่าออฟฟิศเกรด A ในทำเล CBD เฉลี่ยทั่วไปอยู่ที่ 1,178 บาท
แต่เข้ามาแล้วไม่ค่อยอยากทำงานครับ อยากนั่งอยู่ในเลานจ์แล้วทิ้งเวลาแบบนั้นมากกว่า เพราะออกแบบมาได้สวยตะลึงใจดีแท้
Tag :
เคยมีคนถามผมว่า "สมัยนี้ ยังสามารถสร้างคอนโดที่ไม่ใกล้รถไฟฟ้าได้ไหม?" ได้สิ เพราะแม้ว่าความใกล้ รถไฟฟ้า จะเป็น 1 ในปัจจัยหลักที่สำคัญมาก แต่มันก็ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ "ขาย" ได้อยู่อีก
จะมีคอนโดปล่อยเช่าอยู่อันนึง ที่แม้แต่ตอนโควิดก็ไม่มีผลอะไร มีคนเช่าตลอดๆ แทบไม่มีช่วงว่าง บางครั้งคือ คนเก่าย้ายออกตอนเช้า ตอนเย็นคนใหม่ใส่หน้ากากอนามัยขนของเข้าอยู่ต่อเลย
หลังจากที่ผมถ่ายรูปห้องตัวอย่างใน Sales Gallery เสร็จ ผมก็หันไปบอกกับคุณบี ที่มาด้วยกัน เชื่อไหมว่า แป๊บๆ เดี๋ยวก็ Sold Out!!
หน้าร้อนซัมเมอร์มันก็ต้องคู่กับทะเล ผมฝันไว้เสมอนะว่าอยากมีคอนโดตากอากาศ แต่ปัญหาก็คือคอนโดติดทะเลส่วนใหญ่มีราคาแรงมาก
หลังจากปล่อย "KLOS Ratchada" ไปไม่นาน "Frasers Property" ก็ได้ฤกษ์เตรียมผุดคอนโดแบรนด์ KLOS แห่งที่ 2 ต่อทันทีครับ
นับตั้งแต่เมืองเริ่มขยายตัวออก พื้นที่ที่หลายคนเคยมองข้ามก็กลายเป็นว่าเริ่มเนื้อหอมขึ้นเรื่อยๆ
ล่าสุดทางด้าน RPBW ได้ทำการเปิดตัวการออกแบบศูนย์ศิลปะและนวัตกรรมในเมืองโบกา ราตัน รัฐฟลอริดา ซึ่งความน่าสนใจก็คือเค้าไม่ได้เป็นแค่ศูนย์ศิลปะธรรมดา แต่ที่นี่ยังเป็นเวทีสำหรับแนวคิดใหม่ๆ โอกาสในการโต้ตอบกับ AI อีกด้วย
Art แค่ไหนเรียก Pop? บางเจ้าอาจจะสงสัยแต่ไม่กล้าลอง แต่ที่พูดมาทั้งหมด ‘แสนสิริ’ ทำมาหมดแล้ว!
"Osaka Expo 2025" ตำนานบทใหม่ของญี่ปุ่น เปลี่ยนเกาะเทียมธรรมดาให้กลายเป็นเมืองขนาดย่อม
เทรนด์อาคารอนุรักษ์พลังงานยังคงมีมาให้เห็นกันเรื่อยๆ และล้ำหน้ามากขึ้นทุกวันๆ และหนึ่งในโปรเจ็คที่น่าตื่นตาตื่นใจและควรค่าให้หยิบมาพูดถึงกันในวันนี้คือ "505 State Street" ครับ
ในวินาทีที่ผมย่างเท้าเข้ามาชมห้องตัวอย่างของโครงการ "Amatara Residences Rayong" (อมาธารา เรสซิเดนเซส ระยอง) บอกตามตรงว่าแอบคิดลึกๆ ในใจว่า 'นี่มันอีกระดับของที่พักตากอากาศแล้ว'
หลังจากสร้างเสียงฮือฮาแก่ชาวโลกจากโครงการ The Line เมืองภายใต้กำแพงยักษ์จากประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งโครงการนี้เป็นอยู่ภายใต้โครงการ Neom ซึ่งเป็นโครงการที่ทางซาอุฯ หมายมั่นให้เป็นเมืองใหม่ที่มาจากโลกอนาคตนั่นเอง แต่มันจะหยุดอยู่แค่ The Line ไม่ได้ครับ เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งอนาคต ความล้ำจะต้องไปสุดกว่านี้ ล่าสุดทาง Neom ส่งอีก Golf Community มาเพิ่มอีก!!