2560 อสังหาฯเน้นกระจายความเสี่ยงลงทุน "ออริจิ้นฯ" เพิ่มพอร์ตบ้านเดี่ยว-รายได้ค่าเช่า "อีสเทอร์น สตาร์ฯ" ปัดฝุ่นแลนด์แบงก์ระยองรับ EEC-อู่ตะเภา ค่าย LPN พลิกโมเดลธุรกิจดันบริษัทลูก "บริหารนิติบุคคล-ไซต์ก่อสร้าง-แจ๋วคอนโด" รับงานนอกองค์กร เร่งระบายสต๊อกคอนโดฯ 7,000 ล้าน

 

        นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่า แผนปี 2560 เปิดตัว 9 โครงการ มูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 32% เป็นแนวสูง 8 โครงการ 14,300 ล้านบาท แนวราบ 1 โครงการ 700 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 13,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% และเป้ายอดโอน 6,000 ล้านบาท มาจากแบ็กล็อกรอโอนในปีนี้ 4,600 ล้านบาท

 

        กลยุทธ์ลงทุนคอนโดมิเนียม 3-5 ปี เน้นระดับกลางมากขึ้น กลุ่มราคา 1.2-2 แสนบาท/ตร.ม. มูลค่า 6,400 ล้านบาท, กลุ่มราคา 8 หมื่น-1.2 แสนบาท/ตร.ม. 5,400 ล้านบาท และกลุ่มราคา 6-8 หมื่นบาท/ตร.ม. 2,500 ล้านบาท จากเดิมเน้นตลาดล่างต่ำกว่า 2 ล้านบาท เพื่อกระจายความเสี่ยงธุรกิจ

 

        อีกทั้งเริ่มพัฒนาแนวราบเป็นบ้านเดี่ยว-บ้านแฝดย่านศรีนครินทร์ 20 ไร่ 150 หลัง เริ่ม 4-5 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 5% ในพอร์ตรายได้ปี 2561 กับลงทุนอสังหาฯเพื่อเช่า อาทิ พร็อพเพอร์ตี้ มาเนจเมนต์ คาดมีรายได้ 120 ล้านบาท

 

        ดร.ต่อศักดิ์ เลิศศรีสกุลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.อีสเทอร์น สตาร์ เรียลเอสเตท เปิดเผยว่า ว่างเว้นการลงทุน 2 ปี แผนปีนี้จะเปิดตัวใหม่ 2-3 โครงการ 3,000 ล้านบาทในครึ่งปีหลัง ทำเลกรุงเทพฯ กับ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ตั้งเป้ายอดขาย 1,000 ล้านบาท ยอดรับรู้รายได้ 2,200 ล้านบาท

 

        "กลุ่มลูกค้ายังเน้นตลาดกลาง-บน ราคา 5-10 ล้านบาท เพราะไม่ได้รับผลกระทบปัญหารีเจ็กต์เรตและรัฐกำลังโปรโมตเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี พัฒนาสนามบินอู่ตะเภา สร้างโอกาสในการลงทุนให้บริษัท เพราะมีสนามกอล์ฟและที่ดินเปล่ารอพัฒนาในระยอง ใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ปีนี้เตรียมพัฒนาบ้านเดี่ยวรองรับความต้องการซื้อในพื้นที่"

 

        นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ หรือ LPN เปิดเผยว่า

 

        บริษัทประสบภาวะยอดรับรู้รายได้ถดถอยติดต่อกัน 2 ปี ดังนั้นปีนี้ต้องปรับวิสัยทัศน์ใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Year of Shift การปรับเปลี่ยนเพื่อมุ่งสู่การเติบโตยั่งยืน โดยหยุดผลิตห้องชุดราคา 1 ล้านบาทบวกลบ เพราะมีปัญหากู้ไม่ผ่านในอัตราสูง ทำให้บริษัทมีสต๊อกถึง 13,000 ยูนิต มูลค่ารวม 14,000 ล้านบาท และหันไปลงทุนพัฒนาคอนโดฯตลาดกลาง กับกลาง-บนทดแทน

 

        ตั้งเป้าเปิดตัวใหม่ 12 โครงการรวม 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดกลาง-บน 16,000 ล้านบาท ควบคู่กับผลักดันบริษัทลูกออกไปรับงานภายนอกองค์กร ได้แก่ บจ. ลุมพินี พร็อพเพอร์ตี้ เซอร์วิส แอนด์ แคร์, บจ. ลุมพินี พร็อพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์, บจ. ลุมพินี โปรเจค มาเนจเมนท์ เซอร์วิส เพื่อใช้ทรัพยากรบุคคลให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด