นาทีนี้ไม่มีย่านไหนที่เนื้อหอมที่สุดเท่าย่านเศรษฐกิจใหม่อย่าง "ห้าแยกลาดพร้าว" แล้วล่ะครับ

        กลายเป็นพื้นที่ที่เรียกได้ว่า อีกไม่นานเกินรอคงกลายเป็นแหล่ง Luxury เกิดใหม่ที่ไม่แพ้โซนสุขุมวิทตอนต้นและตอนกลางแน่นอน เพราะเมกะโปรเจ็คทั้งหลายทยอยเปิดตัวในพื้นที่กันแล้ว

        ที่ทำคนตื่นตากันมากที่สุดน่าจะหนีไม่พ้นการเปิดตัว "เซ็นทรัล พหลฯ" ชื่อเรียกเล่นๆ อย่างไม่เป็นทางการของโปรเจ็คต์ใหม่จากทาง “เซ็นทรัลพัฒนา” 

        ที่ดิน “แปลงพหลฯ” ที่หลายคนจับๆ จ้องๆ มานาน ตัวนี้ก็เตรียมเป็นเมกะมิกซ์ยูสที่จะมาสร้างความคึกคักให้กับย่าน เพราะจะประกอบไปด้วย โรงแรม พื้นที่รีเทล และอื่นๆ อีกมากมาย มูลค่าการลงทุนสูงถึง 20,000 ล้านบาท

        ดูๆ ไปสามารถเทียบชั้นได้กับ "เซ็นทรัล เวิลด์" ในกลางเมืองได้เลยทีเดียว

        และการมาของเซ็นทรัลแห่งใหม่นี้ก็ทำให้พื้นที่นี้ดูน่าจับตาขึ้นมาทันตา สังเกตได้จากความคึกคักของพื้นที่โดยรอบครับ

        แต่แค่นี้ยังไม่หมด เพราะ "ไนท์มาร์เก็ต" กำลังเป็นเทรนด์มาแรงสำหรับการใช้พัฒนาที่ดินว่างเปล่าในเวลานี้

        และนั่นก็เป็นที่มาของ "จ๊อดแฟร์" ที่เฉลยออกมาแล้วว่าจะเปิดพื้นที่โครงการใหม่บนพื้นที่แดนเนรมิตรเก่า รวมไปถึง "กรีนวินเทจ" บนที่ดินบริเวณหัวมุมแยกรัชโยธินก็เตรียมเปิดให้บริการกันเร็วๆ นี้แล้วเหมือนกัน

        นอกจากนี้ยังมีประโยคหนึ่งที่ทุกคนน่าจะได้เคยได้ยินผ่านหูกันมาคือ "จะทำห้าแยกลาดพร้าวให้กลายเป็นชินจูกุเมืองไทย"

        นั่นเพราะนอกจากพวกเมกะโปรเจ็คต์ทั้งหลายแล้ว ห้าแยกลาดพร้าวยังเป็นจุดเปลี่ยนถ่ายการสัญจรทางรางจากทุกสารทิศด้วยครับ

        ตรงนี้จะมีรถไฟฟ้าผ่าน 2 เส้นทาง คือรถไฟฟ้าบนดินอย่างสายสีเขียว กับรถไฟฟ้าใต้ดินซึ่งก็คือสายสีน้ำเงิน 

        มีสถานีที่เอาไว้เชื่อมถึงกันก็คือ BTS สถานีห้าแยกลาดพร้าว กับ MRT สถานีพหลโยธิน

        ที่สำคัญคือยังไม่ไกลจากสถานีกลางบางซื่อด้วยแน่ะ ความบูมมันขยับมาเรื่อยๆ ครับ

        ไม่ต้องพูดถึงว่า "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็นทำเลที่ดีมาก นอกจากเรื่องการสัญจรที่ครอบคลุมคือมีทั้งรถเมล์ รถตู้ วิน รถไฟฟ้า และขนส่งสาธารณะต่างๆ

        รอบด้านยังมีโรงเรียน หมู่บ้าน มหาวิทยาลัย ออฟฟิศน้อยใหญ่มากมาย สถานที่ราชการ และแน่นอนว่ามีคอนโดบิ๊กเนม อื้อ!

        บรรดาบิ๊กแบรนด์เตรียมปักหมุดโครงการใหม่ทะลักกว่า 3 หมื่นหน่วยไปละ

        แถมยังมีการไล่ทุบทิ้งตึกแถวเก่าเพื่อเปิดพื้นที่พัฒนาเชิงพาณิชย์กันอย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากมีคนใช้บริการมากขึ้นแล้ว ตลอดแนวยังพบว่ามีโครงการคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นจำนวนมาก

        แน่นอนว่าสิ่งที่ขยับตามก็คือราคาที่ดิน

        เพราะตอนนี้เรียกว่าเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีการขยับราคาสูงแบบต่อเนื่องเลย

        หากย้อนไปช่วงก่อนก่อสร้างรถไฟฟ้า ราคาที่ดินติดถนนพหลโยธิน ตั้งแต่ห้าแยกลาดพร้าวไปถึงแยกรัชโยธิน ราคาอยู่ที่  1 แสนบาท/ตารางวา เมื่อมีการก่อสร้าง รถไฟฟ้า ราคาก็ขยับไปตกตารางวาระ 5-6 แสนบาท

        เมื่อการก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ ที่ดินทำเลห้าแยกลาดพร้าว วิ่งไปแตะที่ 8-9 แสนบาท/ตารางวา และขยับมาแตะที่ 1 ล้านบาท จนถึง 1.5 ล้านบาท/ตารางวา

        และถูกต้องครับ ราคายังขยับขึ้นเรื่อยๆ เพราะเดิมทีมีเซ็นทรัลลาดพร้าวกับรถไฟฟ้าเป็นศูนย์กลาง ทำให้คอนโดมิเนียมขยับตามมาโดยรอบ

        แต่ว่าจากนี้แหละ ทุกอย่างจะเริ่มเติมเต็มอย่างสมบูรณ์ 

        ทว่ายังไงก็ต้องพูดกันนะ เรื่องฝุ่นจากการก่อสร้างและความคล่องตัวของการจราจร คนที่เดิมอาศัยอยู่โซนนั้นอาจต้องทำใจนิด ในใจคงทั้งรักทั้งชังในคราวเดียวกัน แต่ก็ท่องเอาไว้ครับ หลังจากนี้ที่ที่ทุกคนอยู่ก็น้องๆ สยาม ชิดลมแล้ว

        ในอนาคต "ห้าแยกลาดพร้าว" จะเป็นแหล่งงานใหม่ที่เติมเต็มและเป็นทั้งแหล่งที่อยู่อาศัยมูลค่าสูงในคราวเดียวกัน 

        จะมีทั้งคนที่ซื้อที่อยู่อาศัยเพื่ออยู่อาศัยเอง เน้นความอุดมสมบูรณ์ของทำเล และอีกส่วนคือซื้อเพื่อการลงทุน ซึ่งผลตอบแทนเป็นยังไง ก็เอาเป็นว่ารู้กันอยู่แล้ว

        เมื่อมีการลงทุนเข้ามา ความเจริญก็จะขยับขยาย โอกาสใหม่ๆ ก็จะเข้ามา ตั้งแต่การมาถึงของ "เซ็นทรัลลาดพร้าว” ในปี 2526 ตามมาด้วย “ยูเนี่ยนมอลล์” ปี 2549 จนกระทั่งส่งไม้ผลัดมายังเมกะโปรเจ็คต์ที่จ่อคิวขึ้นกันพรึ่บในช่วงนี้

        เป็นสัญญาณที่บอกได้เป็นอย่างดีว่า 20-30 ปีที่ผ่านมา ความเป็น "เมืองหลวงตอนเหนือ” ของ "ห้าแยกลาดพร้าว" นับวันจะแข็งแกร่งขึ้นทุกทีไม่มีลดเลเวลความปัง

        แต่สุดท้ายแล้ว "ห้าแยกลาดพร้าว" จะกลายเป็น "ชินจูกุ" ได้อย่างสมบูรณ์พร้อมหรือไม่ กว่าจะถึงตอนนั้นก็ต้องติดตามกันต่อไปครับ