วันที่ผมไปโครงการ "Lio 4 อ่อนนุช-สุวรรณภูมิ" เป็นวันที่อากาศไม่เป็นใจเอาซะเลย เพราะฝนตกลงมาตั้งแต่เจ็ดโมงครึ่ง
ในใจคิดว่าเอาแล้ว เริ่มต้นกันแบบนี้ไม่ดีเอาซะเลย ฟ้าครึ้มอย่างกับช่วงหัวค่ำ รถก็ติด ฝนก็ตกมาตลอดทาง หัวใจดวงน้อยๆ ของผมมันเหนื่อยล้ามาตลอดทางตั้งแต่ที่บ้านจนเรื่อยมาถึงลาดกระบัง
แต่พอรถเลี้ยวเข้ามาในโครงการ ได้เห็นตัวทาวน์โฮมของลลิลแล้ว บอกเลยนะ หายเหนื่อย (อวยอะไรขนาดนั้น 5555)
แต่ว่ากันตามตรงแม้บรรยากาศจะไม่เป็นใจเท่าไหร่ แต่สภาพอากาศอันเลวร้ายนั้นกลับไม่ได้ปิดบังเสน่ห์ของ "Lio 4 อ่อนนุช-สุวรรณภูมิ" เลย
ฟังแล้วเหมือนอวย ก็อวยจริงแหละ (ฮ่า!) แต่ถ้ามาเห็นของจริงจะรู้ได้ว่าโครงการนี้มันมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เรามองแล้วรู้สึกตกหลุมรักในงานดีไซน์ของเค้านะ
ผมลองไล่สายตาดู ตัวบ้านคิ้วท์ๆ คาวาอี้ แต่มองดีๆ จะพบว่ามันให้ฟีลลิ่งคล้ายกับอพาร์ตเม้นต์ของฝรั่งเศสเลย
ส่วนสวนด้านหน้าก็จัดวางไม่ได้แบบขอไปที จะเห็นได้เลยว่าตั้งใจมาก แล้วมีจุดตัด จุดนำสายตาของมันอยู่ ดูแล้วจะค่อนข้างแตกต่างจากสวนในโครงการบ้านที่เราเห็นกันทั่วไป
คิดไปคิดมา เฮ้ย นี่ก็สวนแบบฝรั่งเศสนี่นา
จากนั้นก็ถึงบางอ้อ เพราะช่วงนี้คุณพี่ลลิลเค้ากำลัง "อิน" กับความเป็น "French Colonial" แล้วถามว่ามีใครบ้างที่จะปฏิเสธความงาม ความหรูหราแบบไม่กระโตกกระตากของฝรั่งเศสไปได้ ไม่มีหรอกครับ!
แล้ว "Lio 4 อ่อนนุช-สุวรรณภูมิ" ตีโจทย์แตกมาก
ทางนี้เน้นความเป็นชุมชนและสภาพแวดล้อมก่อนเลย คิดมาก่อนแล้วว่าสภาพแวดล้อมในโครงการจะต้องเป็นยังไง ดีไซน์และความคุ้มค่าจะออกมาในรูปแบบไหน
ซึ่งหากพูดถึงฝรั่งเศส สิ่งแรกที่เราคิดถึงเลยก็คือความหรูหรา แฟชั่น ดีไซน์ที่สะท้อนยุคสมัย
ทางลลิลก็เอาตรงนี้มาผูกเป็นสตอรี่ อย่างตัวทาวน์โฮมนี่ลองขยับมาดูด้านหน้า จะเห็นเลยครับว่ามีความเป็น "French" อยู่ในรายละเอียดเยอะเชียว
ทั้งตัวอาคาร สถาปัตยกรรม ดีไซน์ต่างๆ การเล่นช่องแสงเอย การตกแต่งเอย กระทั่งสวนยังเป็นสไตล์ Provence ที่ประยุกต์ให้เข้ากับบ้านเราด้วยการเอาต้นไม้แบบไทยเข้ามาผสมด้วย แต่ shape ของมันก็ยังมีเส้นสายต่างๆ มีแกนนำสายตาแบบสวนฝรั่งเศสอยู่ มองดูแล้วก็รู้สึกน่ารักดี
นอกจากการจัดวางรูปทรงการฟอร์มต้นไม้ให้เป็นทรงโมเดิร์นแล้ว ยังมีพวกของตกแต่งหน้าบ้านอย่างพวกกระถางต้นไม้ น้ำพุน้อยใดๆ แบบฝรั่งเศสตะโกนเลยเชียว
อีกเรื่องที่ต้องชมคือ ถนนในโครงการกว้างมาก ส่วนอาคารคลับเฮาส์ไม่ได้ใหญ่เท่าไหร่แต่ก็วัดเอาจากปริมาณยูนิตเนอะ
คลับเฮ้าส์ของเค้าที่อยู่บริเวณกลางโครงการเองก็เอาคาแรคเตอร์ของ French มาใช้ดึงความสนใจจุดนี้เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมเหมือนกัน ถ้ากำลังออกกำลังกายอยู่มองตรงมาก็จะเห็นสวนทอดยาวไปสุดตาเลยครับ มันฟินนนนน
นอกจากนี้ที่ผมชอบคือตัวโครงการออกแบบมาได้ค่อนข้างไทม์เลส คือมันไม่ได้หวือหวาแต่ว่าให้ความรู้สึกร่วมสมัย ใช้โทนสีนุ่มๆ อยู่กึ่งกลางระหว่างความกระตือรือร้นของคนรุ่นใหม่และความเป็นผู้ใหญ่ดูภูมิฐานของคนที่กำลังเริ่มต้นมีครอบครัว มองแล้วสบายตา
การเอา "French" มาบวกกับ "Colonial" ก็เป็นการทำให้ดูแตกต่าง ถ้าไม่ใช่ว่ามองออกไปนอกรั้วโครงการเห็นสภาพแวดล้อมแบบไทยๆ นี่ก็คงนึกว่าอยู่ในยุโรป!
สำหรับโครงการนี้เค้าเป็นโครงการที่โฟกัสไปที่ทาวน์โฮมเป็นหลักครับ ดังนั้นในโครงการมากกว่าครึ่งก็คือทาวน์โฮม คือมีทั้งหมด 245 ยูนิต ส่วนบ้านเดี่ยวจะมีแค่ 7 หลังเท่านั้น
ด้านราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 2.59 ล้าน - 6 ล้าน
ถามว่าทำไมมันสวิงไปถึงขนาดนั้น ก็ต้องบอกว่าเพราะมันรวมบ้านเดี่ยว 7 สี มณี 7 แสงนั่นไปด้วย แต่ความจริงถ้าเป็นทาวน์โฮมจะอยู่ที่ 2.59 - 2.79 เท่านั้นเองครับ ส่วนบ้านเดี่ยวจะเป็น 5.9 ไปเลย
ส่วนทาวน์โฮมในโครงการจะมีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ เป็น 1 ที่จอดรถ กับ 2 ที่จอดรถ
แบบบ้าน LILLE มีพื้นที่ใช้สอย 105 ตารางเมตร ขนาด 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, 1 ห้องนั่งเล่น, 1 ห้องรับประทานอาหาร, 1 ห้องครัว ที่จอดรถ 1 คัน
ถัดมาคือแบบบ้าน LYON พื้นที่ใช้สอย 125 ตารางเมตร ขนาด 4 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, 1 ห้องนั่งเล่น, 1 ห้องรับประทานอาหาร, 1 ห้องครัว และที่จอดรถ 2 คัน
รายละเอียดการจัดวางของทั้งสองแบบบ้านถือว่าแตกต่างนะ อย่าง LYON จะมีพวกพื้นที่เล็กๆ น้อยๆ เพิ่มเข้ามาให้เป็นดีเทลแปลกตา แต่ในภาพรวมคือทั้งสองแบบบ้านแก้เพนพ้อยต์ลูกค้าออกมาได้ดี
เค้าบอกว่าเพนพ้อยต์ลูกค้าคือเรื่องครัว ซึ่งมาคิดๆ ดูก็จริง โครงการบ้านส่วนใหญ่ครัวจะค่อนข้างแคบ ผมอยากให้ทุกคนได้มาดูครัวของโครงการนี้มาก แบบว่ากินพื้นที่ส่วนหลังของบ้านเป็นตอนยาวไปเลยครับ เข้าไปแล้วยังตกใจว่านี่ครัวเรอะ!
คือครัวของโครงการนี้ให้มาใหญ่มากกกก แต่ว่าแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน พวกเคาน์เตอร์ครัวอยู่ฝั่งนึง พื้นที่โล่งตรงกลางก็แล้วแต่ว่าจะตกแต่งเพิ่มมั้ย อาจเอาโต๊ะเล็กๆ มาตั้ง หรือทำเป็นไอส์แลนด์ก็ได้ ขยับไปสุดทางก็จะเป็นเก้าองเก้าอี้หรือจะใช้เป็นพื้นที่วางตู้สักหลังก็ได้เหมือนกัน พื้นที่เหลือเฟือ
ทางฝั่งของพื้นที่ห้องนั่งเล่นก็ได้ต่อเนื่องกันกับพื้นที่ทานอาหารเลยครับ ส่วนตัวผมว่าพื้นที่ด้านล่างมันกว้างขวางมากเลย ขนาดเป็น LILLE ที่พื้นที่เล็กสุดในสองแบบบ้านยังรู้สึกว่ามันกว้างมากอ่ะ โต๊ะทานข้าวที่ตกแต่งไว้ดูเล็กไปถนัด 5555
ส่วนห้องนอนชั้นบน ตรงนี้พอมันมารวมๆ กันในที่เดียวแล้วอาจรู้สึกแคบๆ ไปหน่อย
แบบว่ามองออกไปก็เห็นกันแล้ว ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่คนว่าชอบหรือไม่ชอบ พ่อแม่อาจอยากมองออกมาแล้วเห็นลูกๆ แต่ลูกๆ โดยเฉพาะวัยกำลังโตเข้าสู่ช่วงวัยต่อต้านอาจอยากได้พื้นที่ส่วนตัวสักหน่อย อันนี้ก็ต้องไปคุยกัน หรืออาจมองหาที่ขยับขยายภายหลังก็แล้วแต่
แต่ห้องที่ได้มาในบ้านมันเยอะมาก เพราะฉะนั้นแม้เราจะเป็นคนโสดผู้แข็งแกร่งหรือคนสองคนที่เพิ่งเริ่มต้นครอบครัว ก็สามารถปรับเปลี่ยนห้องในบ้านให้เป็นพื้นที่ทำงานได้ ถือว่าเหมาะเลยล่ะ
ลืมบอกไปว่าเพดานเค้าอยู่ที่ 2.70 ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์โครงการเลย เพราะที่นี่เค้าพยายามทำฝ้าให้สูงกว่ามาตรฐานทั่วไป จะได้ดูโปร่งกันมากขึ้น
ส่วนพวกเทคโนโลยีทันสมัยต่างๆ โครงการเค้าจะใช้เท่าที่จำเป็นครับ
แต่ที่น่าสนใจคือเค้ามีพัดลมระบายอากาศให้ด้วย ถ้าเงยหน้ามองจะเห็นอยู่ตรงกลางบ้านเลย ตรงนี้จะช่วยทำหน้าที่หมุนเวียนอากาศให้อากาศถ่ายเทภายในบ้าน อยู่แล้วไม่รู้สึกอึดอัด บวกกับม่านโปร่งแสงที่ใช้ก็ทำให้บ้านสว่างและปลอดภัย ลดการใช้พลังงานไปในตัว รักษ์โลกมั้ยล่ะ
พื้นเป็นลามิเนตลายไม้โอ๊ก ทันสมัย สไตล์ธรรมชาติ โครงหลังคาก็เป็นแบบ Smart Truss สำเร็จรูปครับ การันตีไม่เป็นสนิม
แถมยังมีเจาะแผ่นโชว์ช่องแสงบริเวณส่วนต่อเติมด้านหลังบ้านด้วย จะทำให้ด้านในมันสว่างมากขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งการเปิดไฟเท่าที่ควร
ทางด้านค่าส่วนกลางเห็นว่าสำหรับทาวน์โฮมนั้นจะอยู่ที่ 800-900 บาทต่อเดือนครับ
แต่กระซิบหน่อยว่าเค้ามีโปรฟรีค่าส่วนกลางสามปี แถมมีโปรพิเศษเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหลัง เช่นแอร์สามเครื่อง ปั๊มน้ำ แทงค์น้ำ ฯลฯ แล้วแต่รายการนะ เผื่อใครสนใจ
กลุ่มคนทำงานในโซนนี้ ทั้งทำงานออฟฟิศ สายการบิน ทำงานโรงงาน น่าจะตอบโจทย์ เพราะเห็นว่าขายไปได้ 50 ยูนิตแล้ว บางส่วนเริ่มเข้ามาตกแต่งบ้านแล้วด้วย ซึ่งคนที่ซื้อส่วนใหญ่เป็นพนักงานบริษัทครับ
โดยรวมถือว่าดีทีเดียว ต้องอย่าลืมว่าทำเลเองก็ตอบโจทย์ในหลายๆ ด้าน ใกล้ Central Village, Lotus’s ลาดกระบัง, Siam Premium Outlet, Mega บางนา, IKEA บางนา
การเดินทางก็ห่างจาก Airport Rail Link ลาดกระบัง 6 กิโลเมตร ส่วนสนามบินสุวรรณภูมิก็ใช้เวลาเพียง 15 นาทีก็ถึงครับ เห็นเครื่องบินบินผ่านเหนือหัวบ่อยมาก ใครต้องบินบ่อยๆ นี่เหมาะเลยนะ
ใครกำลังมองหาทาวน์โฮมในย่านนี้แล้วอยากได้บรรยากาศเหมือนทะลุมัลติเวิร์สมาอยู่ในฝรั่งเศสต้องลองแวะไปชมโครงการนี้ครับ เพราะขนาดวันที่ผมไปแม้ฝนจะตก แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า "บ้านสไตล์ฝรั่งเศสที่มีฉากหลังเป็นฝนโปรยปรายนี่ก็ได้อารมณ์เหมือนหลุดมาจาก French Film โทนเหงาๆ สักเรื่องเหมือนกัน มองแล้วมันก็สวยไปอีกแบบ"
Tag :
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ