หลังจากที่ทาง "พฤกษา" หรือ "พี่ต้นไม้" ของพวกเรา เว้นวรรคการเปิดโครงการใหม่มาได้ระยะหนึ่ง มีการปรับพอร์ต เคลียร์สต๊อกระดับแสนล้านไปได้เยอะทีเดียว ขายดีจนเหลือไม่เยอะล่ะ
มาปีนี้ "พี่ต้นไม้" จึงทุบโต๊ะเปรี้ยงประกาศกร้าวว่า Home Coming เอ้ย ไม่ใช่ๆ ฮิฮิ เอาใหม่ๆ ประกาศว่า เรากลับมาแล้ว!! กลับมาเดินเกมรุก เปิดโครงการใหม่อีกครั้งถึง 23 โครงการ มูลค่า 23.5 พ้นล้าน!! เป็นคอนโด 4 โครงการ ซึ่งก็จะประเดิมขายกันเร็วๆนี้เลย
หมากแรกนั้นสำคัญมาก ดั่งคำที่ว่า "เริ่มต้นดี มีชัยไปกว่าครึ่ง"
ทาง "พี่ต้นไม้" จึงงัด 1 ในของดีที่เก็บเอาไว้ ออกมาวางแผงต้อนรับรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่จะพร้อมวิ่งในปีนี้แล้ว (ถ้าไม่เลื่อนอะเนอะ 555) "CHAPTER ONE ALL RAMINTRA" นั่นเอง และเพื่อไม่ให้เสียเวลา
ขอต้อนรับเข้าสู่บทความรีวิว "CHAPTER ONE ALL RAMINTRA" ครับ
มาเริ่มที่ "ทำเล" ก่อนเลย
"CHAPTER ONE ALL RAMINTRA" วางตัวเองอยู่ติดถนนใหญ่ อย่างถ.รามอินทราเลย เป็นฝั่งมุ่งหน้าไปตัดกับพหลโยธิน ก่อให้เกิดวงเวียนชื่อดัง ที่หลายคนไม่อยากให้(อายุ)ไปถึง "วงเวียนหลักสี่" นั่นเอง ฮิฮิ
ตรงผ่านวงเวียนไป จะกลายเป็น ถ.แจ้งวัฒนะ ตัดกับ วิถาวดี-รังสิต ขึ้นดอนเมืองโทลเวย์ไปสนามบินดอนเมืองสบายๆ นอกจากนั้น ยังไปออกมีนบุรี ปากเกร็ด รังสิต ลาดพร้าว ได้ด้วย
ส่วนถ้าเรากลับรถ จะไปเจอกับเส้น ประดิษฐ์มนูธรรม ออกไปทางเส้นเรียบด่วนรามอินทรา แหล่วงรวมห้างชั้นนำ และของอร่อยมากมาย ตรงนี้จะมีทางด่วนฉลองรัชด้วยนะ สำหรับคนที่ใช้รถ ก็นับว่ามีความสะดวกทีเดียว
สำหรับคนไม่ใช้รถ รถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดจะเป็น รถไฟฟ้าสายสีชมพู MRT ลาดปลาเค้า (เปิดปลายปีนี้) 250 ม. เอง 3-4 นาทีก็เดินถึงได้อย่างสบาย ป้ายรถเมล์จะอยู่ตรงนี้ด้วย
จากสถานีลาดปลาเค้า
1 สถานี สู่ "Central รามอินทรา" ที่เพิ่งพลิกโฉมใหม่ ด้วยงบ 2 พันล้าน!
2 สถานี สู่ Interchange สายสีเขียว เป็นสถานีที่เชื่อมกันโดยตรงซะด้วย ไม่ต้องไปเดินขึ้นๆลงๆ สายสีเขียวเป็นรถไฟฟ้าสายหลักวิ่งตรงพาเราเข้าสู่สยามได้ โดยไม่ต้องไปเปลี่ยนสายอีก ผ่านสถานที่สำคัญมากมาย เช่น ม.เกษตรฯ รัชโยธิน ลาดพร้าว อารีย์ อนุสาวรีย์ชัยฯ พญาไท เพลินจิต ชิดลม อโศก ทองหล่อ และอื่นๆอีกเพียบ
4 สถานี สู่อีก 1 Interchange สำคัญกับสายสีแดง ที่จะนำพาเราไปสนามบินดอนเมือง ได้อย่างสบายๆ
และด้วยความที่อยู่ติดถนนใหญ่ การเรียกรถสาธารณะต่างๆ จะทำได้โดยง่าย โดยรวมจัดว่าเป็นโครงการที่มีการเดินทางสะดวกดี ไม่ว่าจะมีรถส่วนตัวหรือไม่ก็ตาม
เรื่องอาหารการกิน เป็นอะไรที่แทบไม่ต้องห่วงเลย นอกจาก "Central รามอินทรา" ที่สามารถนั่งรถไฟฟ้าไปได้แค่ 1 สถานีแล้ว
ที่สุดยอดเลยคือมีร้าน "แหลมเจริญ" ร้านซีฟู้ดชื่อดัง อยู่ติดโครงการเลย กินอาหารทะเลให้เบื่อกันไปข้าง 555
สามารถเดินไป Big C , สุกี้ตี๋น้อย ได้สบาย อยู่ตรงสถานีลาดปลาเค้านั่นแหละ มีตี๋น้อยอยู่ใกล้ ก็เหมือนการันตีความอิ่มอร่อยได้แทบทั้งคืน 555
จาก Big C เดินตรงไปอีกราว 700 ม. จะเจอ Community Mall "The Jas" ถ้าเดินจากคอนโด ก็น่าจะราวๆ 10 นาทีหน่อยๆก็ถึงล่ะ ใน Mall จะมีร้านค้าดีๆเยอะเลย เช่น Starbucks , MK , Casa Lapin , Max Valu , Boots เป็นต้น
7-Eleven อยู่ในปั๊มปตท.เดินไป 100 กว่าม. แน่นอนว่ามีร้านอื่นๆในปั๊มอีกอย่าง Cafe Amazon , Subway , ร้านยา ติดๆกันจะมีปั๊ม Shell ที่มี Mart และ Cafe อยู่ด้วยเช่นกัน
จาก 7-Eleven ไปราว 800 ม. จะมี "Ease Park" ที่มีร้านค้าเยอะอีกเช่นกัน เช่น Makro , Neo Suki , Kingkong และ Starbunks เป็นต้น
ส่วนฝั่งตรงข้ามโครงการ จะมี Foodland ที่อยู่ห่างแค่ประมาณ 500-600 ม. เอง นี่ก็เดินไปได้สบาย ไม่กี่นาทีถึง จับจ่ายใช้สอยกันได้ตลอด 24 ชม. ท้องไม่มีว่างแน่นอน ฮิฮิ
ส่วนสถานที่สำคัญบริเวณใกล้เคียงในระยะ 5-6 กม. มีเพียบเลย เช่น ม.เกริก , ม.ราชภัฏพระนคร , ม.ศรีปทุม , ม.เกษตรศาสตร์ , ร.พ.จุฬาภรณ์ , ร.พ.ซีจีเอช เป็นต้น
โดยรวม จัดว่าเป็น "ทำเล" ที่ครบเครื่องเรื่องต้มยำทีเดียว มีความอุดมสมบูรณ์จากห้างชั้นนำ และร้านค้าที่กระจายกันอยู่มากมาย
"ALL" ในชื่อโครงการ มีความหมายอะไรไหม?
"A" = All Time ใช้ชีวิตที่สะดวกสบายตามใจอยาก จะไปไหนก็ง่ายใกล้รถไฟฟ้าแค่ 250 ม. ใกล้ทางด่วน พร้อมส่วนกลางที่พร้อมใช้บริการตลอด 24 ชม.
"L" = Living การออกแบบโครงการ ให้สวยงามอย่างมีศิลป์สไตล์ Dutch Aesthetic รวมไปถึงการออกแบบห้องให้ใช้ประโยชน์ได้สูงสุด ใส่ใจในสุขภาพผู้อยู่อาศัย
"L" = Lifestyles "ส่วนกลาง" 8+1 ชั้น ที่ออกแบบมาอย่างดี เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็น ปีนผาจำลอง ครัวกลาง ปลูกผัก ไลฟ์สด ก็ทำได้หมด
"CHAPTER ONE ALL RAMINTRA" เป็นคอนโด Low Rise 3 อาคาร สูง 8 ชั้น มียูนิตพักอาศัย 628 ยูนิต + ร้านค้า 3 ยูนิต จอดรถได้ 268 คัน (รวมซ้อนคัน) บนที่ดินขนาด 5-0-65.2 ไร่ ราคาเริ่มต้นที่ 1.79 ล้านบาท
รูปแบบห้อง มีดังนี้ ฝ้าเพดานสูง 2.55 ม.
All-Round เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 24 ตร.ม.
Fashionista เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 26.9 ตร.ม.
Family-Designed เป็นห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 34.6 ตร.ม.
Multi-Use เป็นห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 34.9 ตร.ม.
ที่ Sales Gallery จะมีห้องตัวอย่าง 2 ห้องคือ All-Round และ Multi-Use ซึ่งทำออกมาได้สวยทั้งคู่ ออกแบบมาดี สามารถใช้ทุกพื้นที่ได้อย่างเต็มที่
วัสดุที่พื้นห้องคือ SPC พื้นไม้สำเร็จรูป ทนทานต่อความชื้น กันน้ำ กันปลวก กันไฟลาม หมดปัญหาเรื่องการพองตัว สามารถแก้ไขพื้นที่เสียหายได้เป็นจุดๆ โดยไม่ต้องลอกทั้งยวงแบบพื้นลามิเนตสมัยก่อน
อีกจุดที่ชอบคือ ห้องน้ำ และห้องครัว
น่าจะเป็น "ห้องน้ำ" ที่สวยมีเอกลักษณ์ที่สุดแล้ว ของคอนโดระดับค่าตัวเริ่ม แค่ล้านกว่า ไม่ถึง 2 ล้าน
ดูรูปเอานะ จะได้ตามรูปเลย ทั้งกระจกโค้งๆ และธีมสี ที่ล้อไปกับการออกแบบโครงการสไตล์ Dutch Aesthetic
ขอยกมาพูดถึงสักห้องละกันเนอะ
ห้อง All-Round เข้ามาจะเจอโซน Living ก่อน ซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำสวยๆ ย้ำอีกทีว่าชอบ! 555
ถัดเข้ามาเป็น โซนทานข้าว ตรงนี้ทาง Sales Gallery ทำเป็นตัวอย่างให้เราเห็นภาพได้ดีว่า ถ้าทำเฟอร์ดีๆ จะกลายเป็นโซนอเนกประสงค์ เป็นทั้งโต๊ะทานข้าว โต๊ะทำงาน เวลาไม่ใช้งาน ดันกลับเข้าไปก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของตู้ ทำให้ห้องดูกว้างขึ้น ชอบจริงๆ นี่อยากให้โครงการมีขายแพ็กเกจเฟอร์แบบนี้เพิ่มเลย
ประตูห้องนอนจะเป็นกระจกนะ ข้อดีคือทำให้แสงส่องเข้าห้องได้ดี และทำให้ห้องดูโล่งโปร่งมากขึ้น
ซ้ายมือที่ติดกันจะเป็นครัว และระเบียง ถ้าใครอยากได้ครัวปิด ก็กั้นประตูได้นะ
เฟอร์อีกจุดที่ชอบคือ ที่แขวนของอเนกประสงค์ ที่อยู่ตรงแถวประตูห้อง อันนี้ต้องดูภาพจริงๆ ไม่งั้นอาจจะนึกไม่ออกนะ 555 คือมันเป็นแผงที่ติดกับผนัง สามารถดึงท่อนแขวนของออกมาได้หลายจุด จะแขวนเสื้อ แขวนกุญแจ แขวนหมวก ทำได้ทั้งนั้น เวลาไม่ใช้ ก็ดันกลับเข้าไป ย้ำอีกรอบ ทำแพ็กเกจเฟอร์เพิ่มเถอะนะ ฮิฮิ
มาที่เรื่อง "ส่วนกลาง" กันบ้าง เป็น "ส่วนกลาง" แบบจัดเต็มมากๆ มากพอจะแยกเป็นตึกทั้งตึกได้เลย ที่ Sales Gallery ถึงขนาดทำ Model แยกต่างหาก ขยายให้ดูอ่ะคิดดู ถ้าไม่มั่นใจ ไม่กล้าทำขนาดนี้แน่นอน
Living Lounge : ออกแบบสไตล์คาเฟ่ ไว้คอยต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง แต่เอาจริงๆ มานั่งเล่นเองเพลินๆก็ได้นะ
Connecting Lounge : เป็น Lounge ที่ทำหน้าที่เสมือนกาวใจให้อาคาร B และ C ตรงนี้จะเป็นพื้นที่กึ่ง Outdoor นะ
Multiplay Space / Entertainment Space : พื้นที่สร้างรอยยิ้ม ทำกิจกรรมร่วมของคนในครอบครัวอย่างดี มีโต๊ะพูลวางเอาไว้ให้เรียบร้อย
Workshop Space (24hrs) : เพราะเข้าใจว่า คนยุคนี้ สามารถทำงานได้ในทุกเวลา จึงออกแบบพื้นที่พร้อมทำงานกันได้ตลอด 24 ชม. ชอบที่มีพื้นที่ตรงระเบียง เอาไว้เปลี่ยนบรรยากาศช่วงทำงานได้ดีทีเดียวเชียว
Co-working Space (24hrs) : เป็นอีกโซน ที่เหมาะจะมานั่งทำงาน มีแบ่งเป็นพื้นที่ห้องประชุมไว้ให้แล้ว
Lifestyle Kitchen : พื้นที่ทำครัวกลาง มีอุปกรณ์ครัวที่จำเป็นให้ครบ ชอบที่ออกแบบเป็นเพดานเฉียง เหมือนห้องใต้หลังคา ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ต่อเนื่องกับ Semi Outdoor BBQ เหมาะกับจัดปาร์ตี้งานเลี้ยงสังสรรค์ดีนักแล
Live Studio (24hrs) : รองรับคนยุคนี้ ที่ทำงานทาง Social มากขึ้น
Fitness Active Space : Fitness อุปกรณ์ครบครัน มีผาจำลองให้ปีนด้วย!
Functional Training Room : พื้นที่ออกกำลังกายที่ต้องการความเป็นส่วนตัว เช่น โยคะ
Step Garden : สวนไล่ระดับ เดินขึ้นสู่ Rooftop ตรงนี้จะมี Urban Farming ไว้ให้เราปลูกพืชผักได้ ถัดเข้าไปจะเป็น Scenic Sky Yard พื้นที่สีเขียวพร้อมที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจ ช่วงเย็นค่ำหลังเลิกงาน มานั่งรับลมเล่นตรงนี้ เป็นการเติมพลังชีวิตได้ดีทีเดียว อ๋อ ตรงนี้จะมี Jogging Track ด้วยนะ
Scenic Sky Pool / Kids Pool : สระว่ายน้ำสวยๆ มี 3 โซนคือ Lap Pool ว่ายจริงจัง , Jacuzzi เน้นแช่ และ Endless pool สระว่ายน้ำทวนกระแส! คือการออกกำลังกาย แบบ Cardio เพื่อเสริมความแข็งแรงให้ร่างกายหลากหลายส่วน
นอกจากนี้ ยังมีบริการดีๆอย่าง Telemed ปรึกษากับหมอผู้เชี่ยวชาญจาก "รพ.วิมุต" ในเครือ "พี่ต้นไม้" ได้อีก รู้สึกอุ่นใจดีนะ
สำหรับผมแล้ว "CHAPTER ONE ALL RAMINTRA" เป็นโครงการที่เหมาะกับการอยู่อาศัยมาก เดินทางสะดวก ใกล้ทางด่วน ใกล้รถไฟฟ้าระยะเดินได้สบาย แค่ 250 ม. ใกล้ห้างร้านค้าชั้นนำเพียบ อิ่มท้องได้ 24 ชม. โครงการสวย มีเอกลักษณ์ ส่วนกลางเยอะ
ที่สำคัญ โซนรามอินทราตอนต้น ไม่มีคอนโดใหม่มาเปิดหลายปีมากแล้ว รถไฟฟ้าสายสีชมพูก็จะเปิดให้บริการปีนี้แล้ว และโดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าตัวที่ 1.79 ล้าน กับสิ่งที่ได้มา ถือว่าคบหาได้สบาย ค่อนข้างเชื่อว่าจะมีผลตอบรับที่ดีแน่นอน
ขอสรุปสั้นๆส่งท้ายว่า ชื่อ "Chapter One" ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยจริงๆ
สำหรับคนที่สนใจ วันที่ 11-12 มี.ค.นี้ ทางโครงการมีโปรโมชั่นพิเศษ 100 ยูนิตแรก รับฟรี Smart Furniture Set!* พร้อมรับส่วนลดสูงสุดกว่า 200,000 บาท* ราคาค่าตัวเริ่มต้นที่ 1.79 ล้านบาทเท่านั้น จองเริ่มเพียง 5,000 บ. และผ่อนเริ่มที่ 3.900 บ./เดือน ไม่ควรพลาดจริงๆ
เอาล่ะ คลิกที่นี่ เพื่อลงทะเบียนรับข้อมูลเพิ่มเติมได้เล้ยยย
และนี่คือ ทั้งหมดของ "CHAPTER ONE ALL RAMINTRA" ในมุมมองของผมครับ
Tag :
ช่างเป็นคอนโดที่เหมาะกับคนเห็นแก่กินอย่างพวกผมยิ่งนัก 555 จะหันซ้ายหันขวา ก็คราคร่ำไปด้วยร้านของกินเด็ดๆ เรียงกันเป็นแถว
เคยมีคนถามผมว่า "สมัยนี้ ยังสามารถสร้างคอนโดที่ไม่ใกล้รถไฟฟ้าได้ไหม?" ได้สิ เพราะแม้ว่าความใกล้ รถไฟฟ้า จะเป็น 1 ในปัจจัยหลักที่สำคัญมาก แต่มันก็ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ "ขาย" ได้อยู่อีก
จะมีคอนโดปล่อยเช่าอยู่อันนึง ที่แม้แต่ตอนโควิดก็ไม่มีผลอะไร มีคนเช่าตลอดๆ แทบไม่มีช่วงว่าง บางครั้งคือ คนเก่าย้ายออกตอนเช้า ตอนเย็นคนใหม่ใส่หน้ากากอนามัยขนของเข้าอยู่ต่อเลย
หน้าร้อนซัมเมอร์มันก็ต้องคู่กับทะเล ผมฝันไว้เสมอนะว่าอยากมีคอนโดตากอากาศ แต่ปัญหาก็คือคอนโดติดทะเลส่วนใหญ่มีราคาแรงมาก
หลังจากปล่อย "KLOS Ratchada" ไปไม่นาน "Frasers Property" ก็ได้ฤกษ์เตรียมผุดคอนโดแบรนด์ KLOS แห่งที่ 2 ต่อทันทีครับ
นับตั้งแต่เมืองเริ่มขยายตัวออก พื้นที่ที่หลายคนเคยมองข้ามก็กลายเป็นว่าเริ่มเนื้อหอมขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อวันก่อนได้ไปเดินเล่นที่งาน "สถาปนิก’67" เป็นอีกงานที่ผมประทับใจแล้วอยากให้เพื่อน ๆ ตามไปกันมาก ๆ เลยนะ
ผมเคยตั้งคำถามกับตัวเองตอนผ่านไปโซน ตลิ่งชัน ทวีวัฒนา บางแค บางบอน บางขุนเทียน นะว่ามองไปทางไหน ทำไมถึงมีแต่โครงการบ้าน 100 ตร.วาขึ้นไปเท่านั้น!
ล่าสุดทางด้าน RPBW ได้ทำการเปิดตัวการออกแบบศูนย์ศิลปะและนวัตกรรมในเมืองโบกา ราตัน รัฐฟลอริดา ซึ่งความน่าสนใจก็คือเค้าไม่ได้เป็นแค่ศูนย์ศิลปะธรรมดา แต่ที่นี่ยังเป็นเวทีสำหรับแนวคิดใหม่ๆ โอกาสในการโต้ตอบกับ AI อีกด้วย
Art แค่ไหนเรียก Pop? บางเจ้าอาจจะสงสัยแต่ไม่กล้าลอง แต่ที่พูดมาทั้งหมด ‘แสนสิริ’ ทำมาหมดแล้ว!
"Osaka Expo 2025" ตำนานบทใหม่ของญี่ปุ่น เปลี่ยนเกาะเทียมธรรมดาให้กลายเป็นเมืองขนาดย่อม
เทรนด์อาคารอนุรักษ์พลังงานยังคงมีมาให้เห็นกันเรื่อยๆ และล้ำหน้ามากขึ้นทุกวันๆ และหนึ่งในโปรเจ็คที่น่าตื่นตาตื่นใจและควรค่าให้หยิบมาพูดถึงกันในวันนี้คือ "505 State Street" ครับ