ช่วงนี้เพลงโดนัทยังมีรูมันยังติดอยู่ในหัวตลอดเลย เวลาเจออะไรมีรูเพลงนี้ก็แว่วเข้ามาในหัวทุกที 55555
คราวนี้เป็นคานเหล็กแบบใหม่ที่ผมเพิ่งไปเจอมา หน้าตาแปลกประหลาด มีรูเป็นแถวยาวตลอดทั้งเส้นคานเลย นอกจากจะต้องร้องเพลงในหัวแล้วก็เลยต้องหาข้อมูลซะหน่อย มันคืออะไร ทำไมต้องมีรูกันนะ?
สรุปสั้น ๆ >>> คานเหล็กแบบใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อรับน้ำหนักได้ดีขึ้น ประหยัดต้นทุนขึ้น!
เอ่อแหะน่าสนใจ... แต่ก่อนเวลาพูดถึงงานออกแบบที่ต้องใช้โครงสร้างช่วงพาดกว้าง หรือ โครงสร้างช่วงยาว เรามักจะคุ้นชินกับการใช้โครงทรัส หรือ โครงถัก (Truss structures)
แต่สิ่งนึงที่หลายคนไม่รู้ก็คือ ‘โครงทรัสก็มีจุดอ่อน’ เพราะการจะประกอบทรัสให้มีความแข็งแรงต้องใช้ชิ้นส่วนเหล็กหลายชิ้นมาถักประกอบเข้าด้วยกัน
นอกจากจะต้องใช้ชิ้นส่วนที่คิดเป็นปริมาณเหล็กจำนวนมากแล้ว ยังก่อให้เกิดจุดรอยต่อ รอยเชื่อมจำนวนมาก ซึ่งจุดนี้แหละอาจทำให้เกิดปัญหาได้ในอนาคต
นี่เลยเป็นที่มาของนวัตกรรมใหม่ "Cellular Beam : คานเหล็กแบบมีช่องเปิด” หรือพ่อคานมีรูที่ผมไปพบเจอมานั่นเอง วันนี้เราจะมาทำความรู้จักเค้ากันครับ
Cellular Beam คืออะไร
ถ้าพูดให้ทุกคนรู้จักเค้าก็คือเหล็กรูปพรรณรีดร้อนหน้าตัด H-Beam ที่เราคุ้นเคยกันนั่นเองครับ แต่เค้านำมาตัดแล้วเชื่อมใหม่ตามรูปแบบที่ผ่านการคำนวณมา
วิธีการก็คือเค้าจะนำเหล็ก H-Beam มาตัดบริเวณเอว (Web) ตามรูปแบบที่วิศวกรโครงสร้างเป็นผู้กำหนด “องศาของมุมตัด”, “รัศมีความโค้ง” และ ”ระยะห่างระหว่างช่องเปิด”
จากนั้นจึงนำกลับมาเชื่อมคืนดังรูปแบบที่ต้องการ โดยคานลักษณะนี้หากช่องเปิดเป็นรูกลม จะเรียกว่า “Cellular Beam” และ รูเปิดเป็นรูปหกเหลี่ยม จะเรียกว่า “Castellated Beam”
ซึ่งจุดนี้ละเอียดอ่อนนะ ใช่ว่าจะวัดเอง ตัดเอง เชื่อมเองตามใจชอบไม่ได้ จะต้องออกแบบเพื่อให้เหมาะสมกับการรับแรงของโครงสร้างอาคารในแต่ละหลังไปเลย
โดยรูปแบบ “รู” หรือช่องในคานนี้เองจะมาช่วยเพิ่มคุณสมบัติของหน้าตัดให้สามารถรับน้ำหนักโครงสร้างอาคารได้มากยิ่งขึ้นกว่าการใช้คานเหล็ก H-Beam ในรูปแบบปกติ
และการที่เค้าตัดแต่งมาจากโรงงานเนี่ย นอกจากจะช่วยทำให้คานเหล็กได้มาตรฐาน มีรอยต่อ รอยเชื่อมน้อยแล้ว ยังช่วยให้สามารถลดต้นทุนการก่อสร้างได้มากถึง 10-20% เลยล่ะ
Cellular Beam เหมาะกับงานแบบไหน
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่ามันคือ “คาน” รูปแบบการใช้งานก็คือเหมาะกับการไปใช้เป็นคานของโครงสร้างนั้นเอง โดยจุดเด่นคือสามารถเป็นได้ทั้งโครงสร้างหลังคา และคานรับพื้นเลยนะ
แต่ความพิเศษที่จะเกิดขึ้นก็คือ... นอกจากจะช่วยลดต้นทุนการก่อสร้างได้แล้ว การใช้ Cellular Beam ยังช่วยเพิ่มพื้นที่ให้กับอาคารได้ด้วย ทั้งทางพื้นที่จริง ๆ แล้วก็ทางสายตาเลยนะ
เพราะการที่เค้ามีช่องเปิดในเส้นคาน ทำให้เราสามารถเดินท่องานระบบต่าง ๆ ผ่อนช่องเปิดได้ จากที่ปกติเราต้องเดินอ้อมใต้ท้องคาน แต่นี่ไม่ต้องเลย ได้ระยะพื้นถึงท้องฝ้า (floor to ceiling) แบบเต็ม ๆ
ส่วนทางด้านสายตา ผมขอยกตัวอย่างการใช้งานเป็นโครงสร้างหลังคาเพื่อให้เห็นภาพละกัน ถ้าใช้โครงทรัสก็จะมีขนาดโครงสร้างที่ใหญ่กว่า กลับกันถ้าใช้ Cellular Beam ก็จะมีโครงสร้างที่เล็กกว่า ทำให้ดูสวยงามกว่า ได้พื้นที่กว้างกว่าไปด้วยนั่นเองครับ
Cellular Beam ดียังไง
มาถึงตรงนี้หลายคนน่าจะเริ่มลังเลละ เพราะถ้าการใช้งานเป็นคานเหมือนกัน แล้ว Cellular Beam มันดีกว่ารูปแบบอื่นยังไง ผมสรุปเป็นข้อ ๆ ให้ตามนี้ครับ
Cellular Beam สนใจทำไง
ปัจจุบันนี้ Cellular Beam เริ่มเป็นที่แพร่หลายและมีผู้ผลิตหลายรายออกมาทำผลิตภัณฑ์ตัวนี้แล้ว แต่อยากย้ำอีกครั้งครับว่าโครงสร้างเป็นสิ่งสำคัญ ควรเลือกให้ดีตั้งแต่ต้น จะได้ใช้งานแบบสบายใจไปนาน ๆ นะครับ
ที่สำคัญคือการปรึกษากับทีมวิศวกรที่สามารถออกแบบและคำนวณโครงสร้างที่เหมาะสมกับอาคารของเราได้ จะเป็นการดีที่เลือกใช้ชนิดและขนาดให้ปลอดภัยที่สุด
ผมของแนะนำผู้ผลิตเหล็กอันดับหนึ่งในใจของผมอย่าง SYS ซึ่งเค้าเองก็มีผลิตภัณฑ์ Cellular Beam จำหน่ายอยู่เช่นกัน สามารถลองติดต่อเข้าไปสอบถามกันได้
สาเหตุที่อยากแนะนำที่ก็เพราะเค้ามีบริการ Steel Solution by SYS (คลิก) ที่ผมเลยเล่าไปในครั้งที่แล้ว บริการนี้จะมีทีมวิศวกรคอยให้คำปรึกษาเราตั้งแต่เริ่มต้นจนการก่อสร้างเสร็จเลย
ซึ่งถ้าเราสนใจอยากนำ Cellular Beam น้องคานมีรูนี้มาเป็นโครงสร้างอาคารของเรา ก็สามารถสอบถามได้ว่าเหมาะกับการใช้งานของเราหรือเปล่า
โดยเค้ามีบริการผลิตตามแบบที่เราต้องการ (Customized) เพื่อให้ตรงกับโครงสร้างของเรา หรือแบบมาตรฐานที่ทีมงาน Steel Solutlon by SYS แนะนำให้ก็ได้
บางทีการได้ลองใช้ชิ้นส่วนการก่อสร้างใหม่ ๆ อาจจะพลิกโฉมอาคารที่ที่เพื่อน ๆ กำลังก่อสร้างไปเลยก็ได้ เพราะของใหม่เค้าผลิตออกมาเพื่อแก้ปัญหาการก่อสร้างเดิม ๆ อยู่แล้ว
“โดนัทยังมีรู คานเหล็กก็มีรูได้” อุอิ
Tag : SYS Steel | เหล็กรูปพรรณ | โครงสร้างเหล็ก
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ