ปีใหม่ทั้งที หลายๆ คนเลือกที่จะมีบ้านใหม่ ทั้งคนที่อยากขยับขยายที่อยู่อาศัย ครอบครัวใหญ่ขึ้น หรืออยากย้ายทำเลที่อยู่ แต่หนึ่งในทางเลือกของหลายคนคือขายบ้านเก่า เพื่อซื้อบ้านใหม่แทน
แต่รู้หรือไม่ว่าเราสามารถขายบ้านเก่า ซื้อบ้านใหม่ แล้วยังสามารถขอคืนภาษีได้ด้วย แบบนี้มันสามารถช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
ยิ่งไปกว่านั้นคือ ด้วยมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อทั้งหลายของภาคอสังหาริมทรัพย์ตอนนี้ มันทำให้เราคุ้มหลายต่อเลยครับ
ทั้งการลดค่าโอนและค่าจดจำนอง แถมยังขยายวงให้การซื้อขายบ้าน/คอนโดมือสองด้วย ถือว่าเป็นปีที่คุ้มมากๆ
ถ้าอยากรู้ว่ามีหลักเกณฑ์อย่างไร บ้านของเราจะตรงตามเงื่อนไขหรือไม่ มีอะไรยุ่งยากหรือเปล่า เอาเป็นว่าเราไปเช็คกันเลยดีกว่านะ
มีเงื่อนไขสั้นๆ เพียง 2 ข้อ ที่จะสามารถทำให้เรารู้ว่าเราเข้าเกณฑ์หรือไม่ นั่นคือ...
1. จะขายบ้านเก่าหรือซื้อบ้านใหม่ก่อนก็ได้ แต่กระบวนการทั้งหมดต้องสิ้นสุดภายใน 1 ปี และเราสามารถขอคืนภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายจากตอนนั้นได้เลย
2. ต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหลังเก่าไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหลังเก่าและหลังใหม่รวมกันไม่น้อยกว่า 1 ปี ตรงนี้คือประเด็นสำคัญที่สุด
ส่วนสิ่งที่จำเป็นต้องมีสำหรับใช้ขอคืนภาษี ก็มีลิสต์ที่ต้องตระเตรียมกันตามนี้เลยครับ
1. ใบเสร็จรับเงินค่าภาษีเงินได้ฉบับที่กรมที่ดินออกให้
2. สำเนาสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์แห่งเดิม
3. สำเนาสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์แห่งใหม่
4. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้มีเงินได้ทั้งสองหลัง
5. เอกสารอื่นๆ แล้วแต่สรรพากรของแต่ละพื้นที่จะร้องขอเพิ่มเติม
แต่มีจุดหนึ่งที่ต้องรู้กันไว้ก่อนคือ ราคาบ้านเก่าและใหม่หากมีความแพงกว่าถูกกว่าแตกต่างกัน เกณฑ์คำนวณก็จะต่างกันนะ
อย่างเช่น ถ้าเราขายบ้านหลังเก่าไปในราคา 3 ล้าน แล้วไปซื้อบ้านหลังใหม่ในราคา 4 ล้าน กรณีนี้บ้านใหม่ราคา "แพงกว่า" บ้านเก่า เราจะขอคืนภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายในราคา 3 ล้านบาท
แต่ถ้าเราขายบ้านหลังเก่าในราคา 4 ล้าน เพื่อไปซื้อบ้านหลังใหม่ในราคา 3 ล้าน กรณีนี้บ้านใหม่ราคา "ถูกกว่า" บ้านเก่า เราจะขอคืนภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายได้แค่ 3 ล้านบาทครับ
แต่ปีนี้มันน่าสนุกตรงที่มีมาตรการต่างๆ มาหนุนให้มันคุ้มขึ้นกว่าเดิม เพราะให้เราลดกันได้หลายต่อทีเดียว
ทั้งในส่วนของการลดค่าธรรมเนียมการโอนจากการขายบ้านหลังเก่า การได้ลดค่าธรรมเนียมการโอน และจดจำนอง ในกรณีที่กู้เงินกับทางธนาคารเพื่อใช้ในการซื้อบ้านหลังใหม่ บวกกับการขอคืนภาษีจากการขายบ้านหลังเก่าไปอีก ถือว่าปีนี้คุ้มมากทีเดียว
สรุปแล้วก็คือ การขายบ้านเก่าเพื่อซื้อบ้านใหม่สามารถนำไปขอคืนภาษีได้ โดยมีเงื่อนไขสำคัญที่ไม่ยุ่งยากเลยก็คือ จะขายบ้านเก่าก่อนหรือซื้อบ้านใหม่ก่อนก็ได้ แต่ทุกอย่างต้องสิ้นสุดใน 1 และต้องมีชื่อในทะเบียนบ้านไม่น้อยกว่า 1 ปี
ที่สำคัญคือถ้าบ้านหลังใหม่แพงกว่าบ้านหลังเก่า เราสามารถขอคืนภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายได้ทั้งหมด ในทางกลับกัน ถ้าหากว่าบ้านหลังเก่าเราราคาแพงกว่าบ้านหลังใหม่ เราจะขอคืนภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายได้เพียงบางส่วนเท่านั้น
เห็นมั้ยครับว่าหลักเกณฑ์ไม่ยุ่งยากเลย ใครคิดจะเปลี่ยนบ้านหลังใหม่อยู่ก็แพลนวิธีดีๆ จะได้คุ้มกับเงินในกระเป๋า ช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น แล้วเอาเงินที่เซฟไว้ไปซื้อของตกแต่งบ้านใหม่รอวันย้ายเข้าไปอยู่ดีกว่า
Tag :
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ