“เราไม่อยากมาทำแค่ถ่ายรูป PR แล้วจบไป แต่อยากให้สิ่งเหล่านี้เกิดประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมจริงๆ” คุณไตรเตชะ หล่นประโยคเท่ห์ๆ นี้ไว้ก่อนที่เราจะลงมือปลูกต้นไม้เพื่อสร้างผืนป่า ณ บ้านโคกโพลง โคราช

        สารภาพว่าปกติผมก็ไม่ค่อยมาโครงการอะไรแบบนี้ แต่อยู่ๆ รอบนี้มีความคิดว่าอยากจะมาดูสักครั้งว่าโครงการแบบนี้มันมีประโยชน์จริงๆ ไหม? 

        ผมเคยได้ยินมาหลายครั้งว่า การปลูกป่า ไม่ได้มีประโยชน์เสมอไป บางครั้งไปทำความเสียหายเสียด้วยซ้ำ และก็ได้พบคำตอบในงานนี้

        “เราเคยปลูกป่ามาแล้ว เราพบว่าการปลูกไม่ใช่ปัญหา แต่การทำให้ป่ายั่งยืนไม่ใช่เรื่องง่าย บางที่กลับไปแล้วก็เสื่อมโทรม แต่คราวนี้เราได้ความร่วมมือจาก กรมป่าไม้ และ ชาวบ้านในพื้นที่ บ้านโคกพลวง ที่จะมาดูแลต่อ”

        จะมาปลูกป่าให้สำเร็จ จะมีใครช่วยเหลือได้ดีไปกว่า ‘กรมป่าไม้’ อีกล่ะ และแน่นอนว่าการได้รับการดูแลต่อจากชาวบ้านในพื้นที่ก็จะเป็นการทำให้ผืนป่านี้ ‘ยั่งยืน’

        วันนี้ผมได้ปลูก ‘ต้นยางนา’ (จริงๆ แค่หย่อนลงหลุม) คุณลุงที่มาประกบกับผมเป็นหนึ่งในชาวบ้านที่จะเข้ามาดูแลป่าผืนนี้ต่อไป

        “ต้นยางนานี่จะสูงได้ถึงกี่เมตรหรือครับ มันมีประโยชน์อย่างไรบ้างครับลุง”

        “อีก 10 ปี มันจะสูงได้ถึง 10-15 เมตร นะ มันเป็นต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา และใบของมันทำให้เกิดเห็ดขึ้นตามโคนต้น สามารถมาเก็บเกี่ยวผลผลิตได้” 

        อีก 10 ปี ถ้าผมยังอยู่ ก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่ามันจะเติบโตไปได้ถึงขนาดนั้นหรือไม่? 

        แต่ผมเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น เมื่อเห็นว่าต้นยางนาของผมปลูกอยู่ข้างหลัง ‘คุณไตรเตชะ’ แค่ 2 ต้น 

        รอดแล้วลูก

        “ศุภาลัย ไปสร้างโครงการที่ไหน อาจจะทำให้เกิดความไม่สะดวกสบายในพื้นที่นั้นบ้าง เราก็เลยอยากจะสร้างสิ่งดีๆ ให้กับ สิ่งแวดล้อม สังคม ในพื้นที่นั้นเป็นการตอบแทน” 

        โครงการนี้เริ่มมาจาก SET อยากจะทำโครงการที่ช่วยเรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เริ่มจากการชักชวนบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์มาร่วมมือกัน ซึ่ง SPALI หรือ ศุภาลัย ก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะอันที่จริง ศุภาลัย เองก็มีโครงการในลักษณะนี้อยู่แล้ว เช่น การร่วมมือกับ SCG หรือ กลุ่ม Thammasorn (บริษัทที่จัดการเรื่องน้ำเสีย) ในการก่อสร้างโครงการต่างๆ ให้ลดก๊าซเรือนกระจกลง 25% เป็นการลดโลกร้อนอีกทางหนึ่ง 

        ศุภพนาลัย by Care The Wild ในรอบนี้ ก็ได้รับความร่วมมือจาก SET, SCG, Thammasorn, กรมป่าไม้ และ ชาวบ้าน บ้านโคกโพลง เป็นอย่างดี

        ถือว่าเป็น 2 วัน 1 คืน ที่ได้รู้อะไรมากขึ้น ถึงตัวผมเองจะไม่ได้ทำอะไรมากมาย แต่อย่างน้อยได้มาอยู่ในกระบวนการที่เค้าสร้างประโยชน์ได้จริงๆ ก็รู้สึกดีแล้ว

        และแน่นอนว่า ถึงแม้คุณเตจะไม่ได้อยากถ่ายรูปเพื่อๆ PR ให้จบๆ ไป 

        แต่ผมอยากนะ