ผมรู้สึกว่าช่วงนี้โซนที่ตลาดบ้านกำลังแข่งขันกันอย่างคึกคักและน่าจับตามองสุดๆ อีกโซนคือโซน "กรุงเทพกรีฑา" นี่แหละครับ
เหมือนจะไม่ได้คิดไปเอง เพราะในช่วงที่ผ่านมามีโครงการเปิดตัวใหม่ในย่านนี้เยอะมากทีเดียว อย่างที่ผมเพิ่งแวะไปเยี่ยมชมมาก็ต้อง "The RUX รามคำแหง-กรุงเทพกรีฑา" นี่เลย
พูดไปแล้ว การแข่งขันย่านนี้จึงถือว่า "ดุเดือด" พอสมควร เป็นอีกโซนที่ร้อนแรงสำหรับดีเวลลอปเปอร์ และเป็น "แคตตาล็อก" ที่ใหม่เอี่ยมสำหรับคนซื้อบ้านทั้งหลาย
ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการขยายถนนในย่านให้กว้างขึ้นเพื่อรองรับการสัญจร มีการพัฒนาถนนรามคำแหงรองรับรถไฟฟ้าสายสีส้ม พวก infrastructure ต่างๆ ตอนนี้ก็ค่อนข้างเยอะเลย
เพราะแบบนี้เลยทำให้ราคาบ้านโซนนี้ปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ แบบบ้านก็เป็นบ้านเดี่ยวราคาลักชัวรี่มากขึ้น
ลองมองดูเฉพาะราคาที่แข่งขันกันในย่านนี้ (รามคำแหง-ราษฎร์พัฒนา คนแถวนี้เค้าเรียกกันว่าซอยมิสทีนครับ) ประมาณในรอบๆ รัศมี 3 กิโลเมตรจากตัวโครงการ ราคาก็อยู่ที่ประมาณ 8-15 ล้านแล้ว
ส่วน "The RUX รามคำแหง-กรุงเทพกรีฑา" เริ่มต้นเพียง 9 ล้านบาทเท่านั้น
ตัวโครงการตั้งอยู่ถนนราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง ติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน และยังมีทาวน์โฮมเครือเดียวกันคือ "ดิไอเฟล" อยู่ไม่ไกลจากตัว "The RUX" ด้วย
แต่ช่วงที่ผมไปฝนมันตกแทบทุกวัน ดังนั้นเลยเห็นปัญหาคือด้วยความที่ถนนตรงนั้นเป็นหลุมบ่อ มันเลยเกิดน้ำขังและต้องพยายามเลี่ยงกับระเบิดสีขุ่นพวกนี้อยู่เล็กน้อย
กลับมาที่รายละเอียดตัวโครงการดีกว่า ปีนี้ทางซีเนกซ์เค้าตั้งใจรุกตลาดบ้านเดี่ยวลักชัวรี่ด้วยราคาที่ดีที่สุดและไม่เคยมีมาก่อน เลยคลอดออกมาเป็น "The RUX รามคำแหง-กรุงเทพกรีฑา"
ตัวโครงการเป็นบ้านเดี่ยวหรู 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ โครงการมีพื้นที่รวม 11 ไร่ 1 งาน 18.4 ตร.ว. จำนวน 49 ยูนิต ในภาพรวมคือเน้นการออกแบบให้พื้นที่ทุกตารางเมตรสามารถตอบสนองสมาชิกภายในครอบครัวแบบ AII GEN
มาพร้อมกับส่วนกลางสไตล์ New Normal ที่ผสมผสานเรื่องของความสวยงามและความคุ้มค่าไปพร้อมๆ กัน โดยตั้งเป้าขยายกลุ่มลูกค้าในระดับ B+ เห็นว่าขายไปได้ประมาณ 20% แล้ว
และน่าสนใจตรงที่อสังหาโซนกรุงเทพตะวันออกเจอปัญหาเรื่องการพัฒนาโครงการและวิถีผู้อยู่อาศัยมาจากโควิดเนอะ ช่วงที่ผ่านมาเค้าเลยเอาเพนพอยต์ตรงนี้มารวมกัน แล้วเห็นว่าคนอยู่ในเมืองก็ย้ายมาอยู่นอกเมืองกันเยอะ แนวโน้มช่วงนี้คือคนมีบ้านทั้งหลายเริ่มย้ายไปหาบ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่มากขึ้นตอบสนองช่วง work from home กันเยอะละ
ดังนั้นบ้านที่ไม่มีพื้นที่ใช้สอยให้คนเป็นพ่อแม่หรือโดยเฉพาะกับเด็กๆ ได้ทำแอคทิวิตี้เนี่ยก็จะทำให้เด็กรู้สึกอึดอัดในการอยู่บ้าน เพราะอย่างนั้นพ่อๆ แม่ๆ ทั้งหลายจึงมองหาบ้านที่มีสเปซมากขึ้น ต้องการอิสระแต่ก็มีความเป็นส่วนตัว ไม่ได้เน้นไปที่ทำเลและราคาอย่างเดียว แต่เป็นบ้านที่ตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนไปได้
"The RUX รามคำแหง-กรุงเทพกรีฑา" เลยบู้มมมออกมาเป็นบ้าน 3 แบบ ที่ให้พื้นที่กว้างในราคาย่อมเยา ทุกตัว!
แบบบ้านแรกคือ Brayden บ้านเดี่ยวฟังก์ชันครบตอบโจทย์การอยู่อาศัยสำหรับครอบครัวขยาย ขนาดพื้นที่ใช้สอย 230 ตร.ม.
แบบบ้านนี้มี 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 2 ห้องอเนกประสงค์, 2 ห้องรับแขก, 3 ที่จอดรถ เห็นว่าดีไซน์ตั้งแต่มาสเตอร์แปลนออกมาให้บ้านที่ลงในพื้นที่แต่ละแปลงเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตตุรัสให้มากที่สุดครับ ให้เฟิร์สอิมเพรสชันคือการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในพื้นที่ที่กว้าง ง่ายๆ คือสามารถจัดปาร์ตี้ที่ชั้นล่างได้เลย
มีครัวฝรั่งเปิดโล่ง มีห้องน้ำชั้นล่างสำหรับแขกโดยเฉพาะ ตรงนี้ดี แล้วแยกห้องรับแขกอีกส่วนนึงอย่างชัดเจน มีกลาสเฮ้าส์ด้วย เลยทำให้บ้านดูโปร่งเพราะมีแสงธรรมชาติ คนอยู่อาศัยก็จะไม่รู้สึกอึดอัด
ส่วนชั้นบนเก๋ตรงมีห้องไลฟ์ให้ด้วย เดี๋ยวนี้คนทำธุรกิจออนไลน์กันเยอะ ตอบโจทย์คนสายนี้อยู่นะเพราะสามารถใช้บ้านทำธุรกิจไปในตัวได้ และทุกห้องที่เป็นห้องนอนดีไซน์ให้มีขนาดใหญ่ครับ มาสเตอร์เบดใส่เตียงได้ถึง 6 ฟุตแน่ะ ส่วนอีก 2 ห้องใส่เตียง 5 ฟุตได้
ผมชอบที่ตรงกลางชั้นสองมีลิฟวิงแอเรียให้กว้างทีเดียว ทำให้เวลาไปชั้นสองก็มีพื้นที่สำหรับทุกคนในบ้านได้ใช้เวลาร่วมกันชนิดนอนกลิ้งได้สบาย ดูแล้วไม่อึดอัด เหมาะมากสำหรับครอบครัวใหญ่
ต่อมาแบบที่ 2 คือบ้าน Edward บ้านเดี่ยวที่ดีไซน์ให้เป็นเพดานสูง Double volume สูง 6.5 เมตร โปร่งโล่งสบายเชียว บริเวณโถงพักผ่อนด้านล่างสามารถปรับแต่งเป็นห้องนั่งเล่นครอบครัวขนาดใหญ่ได้ หรือห้องรับแขกก็ได้ครับ
พื้นที่ใช้สอยภายในบ้านมันใหญ่มาก รวมแล้วก็ 230 ตร.ม. มี 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 1 ห้องอเนกประสงค์, 2 ห้องรับแขก, 3 ที่จอดรถ ในภาพรวมอาจจะดูคล้ายกับบ้านแบบแรกคือ Brayden แต่ฟังก์ชันก็แตกต่างกันนะ
ชั้นล่างมีครัวไทยแบบปิดเพิ่มขึ้นมา มีห้องนอนล่างเหมือนกัน และชั้นบนเองก็มีลิฟวิงแอเรียให้ครับ รวมๆ แล้วคือสองแบบบ้านนี้คล้ายกัน แต่ต่างกันตรงที่ Double volume นั่นแหละ
สุดท้ายคือบ้าน Shaun เป็นบ้านเดี่ยวที่ออกแบบให้ทุกพื้นที่ของบ้านสามารถใช้สอยได้อย่างคุ้มค่า ตอบสนองกิจกรรมสมาชิกทุกคนในครอบครัว ด้วยขนาดพื้นที่ใช้สอย 145 ตร.ม. มี 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 1 ห้องรับแขก, 4 ที่จอดรถ
ตัวนี้จะแตกต่างจากสองแบบแรกคือเป็นบ้านสไตล์พูลวิ่ลลาเหมาะกับครอบครัวไม่ใหญ่มาก ประมาณ 3 คนอะไรทำนองนี้ แต่ละบ้านมีดีไซน์แตกต่างกันแต่เน้นการอยู่แบบมัลติเจเนอเรชันนั่นเองครับ
ทุกไทป์บ้านให้เพดานสูง 3 เมตร ประตูทุกบานอยู่ที่ 2.2 เมตร พื้นเป็น SPC กันน้ำด้วย แต่ว่าบ้านที่ได้จะเป็นบ้านเปล่าไม่มีเฟอร์ฯ ให้นะครับ มีแอร์ ตัวล็อคออโต้ กับ EV charger ตัวโปรให้ ค่อนข้างเสียดายที่ไม่มีแพ็คเกจขายบ้านแต่งแบบบ้านตัวอย่าง เพราะผมคิดว่าบ้านตัวอย่างเค้าแต่งได้สวยมากเลย ผมเดินเพลินมากโดยเฉพาะ Brayden 5555
อ้อ อีกอย่างที่ชอบคือผมรู้สึกว่าเค้าใส่ใจการหยิบเอาพื้นที่น้อยๆ ที่เหลือมาปรับให้เป็นพื้นที่นั่งเล่น จะเห็นได้ว่าตามมุมพื้นที่บ้านมักจะมีพวกชุดโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งคนเดียววางไว้เยอะเลย เราแต่งบ้านเองก็เอาพวกบีนแบ็ควางไว้ตามมุมๆ พวกนั้นก็ได้เหมือนกัน แต่แม้จะใช้เวลาอยู่กับตัวเองคนเดียวแต่ก็ยังสามารถมองเห็นกันได้นะ
ส่วนราคานั้น Brayden เริ่มต้นที่ 8.9 ล้านบาท Edward เริ่มที่ 9.49 ล้านบาท ส่วน Shaun เริ่ม 9.99 ล้านบาท ตัวหลังนี่พื้นที่ใช้สอยน้อยกว่า 2 แบบแรก แต่ว่ามีสระว่ายน้ำเนอะ
แล้วก็ส่วนกลาง เพราะบ้านในโครงการมีจำนวนหลังแค่ 49 หลัง ดังนั้นทางนี้เลยดีไซน์ให้มีแอคทิวิตี้ข้างนอกคือมีลานสเก็ตให้ครับ ซึ่งตรงนี้สามารถทำมินิสเตเดี้ยมปาร์ตี้ร้องเพลงเอ้าท์ดอร์ได้เลย
โทนสีโครงการเค้าเป็นสีขาวทั้งหมด ดังนั้นคลับเฮ้าส์จึงเป็นสีดำ ก็คือเป็นธีม b&w แหละ มองไกลๆ แล้วก็เด่นดี พื้นที่ชั้นล่างมีห้องประชุมเล็ก ชั้นสองเป็นพื้นที่สำหรับครอบครัว ซึ่งเราสามารถจองเพื่อจัดปาร์ตี้ได้
นอกจากนี้ โครงการ "The RUX รามคำแหง-กรุงเทพกรีฑา" ยังมีความโดดเด่นในด้านทำเลด้วย แม้ถนนก่อนถึงโครงการจะมีช่วงที่ต้องปรับปรุงอยู่บ้างเพราะฝนตกทีน้ำขังเชียว
แต่ตัวโครงการอยู่ติดถนนเลียบวงแหวนรอบนอกตะวันออก ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต ลิงก์ ใกล้รถไฟฟ้าโมโนเรล สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) บริเวณสถานีศรีกรีฑา
เรียกว่าพร้อมเชื่อมต่อถนนสายสำคัญหลายสายเลย ราคาไม่แรงนัก คนทำงานหรือคนที่กำลังมองหาที่อยู่โซนนี้ อยากขยับขยายสเปซในบ้านเพิ่ม แวะมาเยี่ยมชมโครงการเค้าก่อนได้ครับ
Tag :
เคยมีคนถามผมว่า "สมัยนี้ ยังสามารถสร้างคอนโดที่ไม่ใกล้รถไฟฟ้าได้ไหม?" ได้สิ เพราะแม้ว่าความใกล้ รถไฟฟ้า จะเป็น 1 ในปัจจัยหลักที่สำคัญมาก แต่มันก็ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ "ขาย" ได้อยู่อีก
จะมีคอนโดปล่อยเช่าอยู่อันนึง ที่แม้แต่ตอนโควิดก็ไม่มีผลอะไร มีคนเช่าตลอดๆ แทบไม่มีช่วงว่าง บางครั้งคือ คนเก่าย้ายออกตอนเช้า ตอนเย็นคนใหม่ใส่หน้ากากอนามัยขนของเข้าอยู่ต่อเลย
หลังจากที่ผมถ่ายรูปห้องตัวอย่างใน Sales Gallery เสร็จ ผมก็หันไปบอกกับคุณบี ที่มาด้วยกัน เชื่อไหมว่า แป๊บๆ เดี๋ยวก็ Sold Out!!
หน้าร้อนซัมเมอร์มันก็ต้องคู่กับทะเล ผมฝันไว้เสมอนะว่าอยากมีคอนโดตากอากาศ แต่ปัญหาก็คือคอนโดติดทะเลส่วนใหญ่มีราคาแรงมาก
หลังจากปล่อย "KLOS Ratchada" ไปไม่นาน "Frasers Property" ก็ได้ฤกษ์เตรียมผุดคอนโดแบรนด์ KLOS แห่งที่ 2 ต่อทันทีครับ
นับตั้งแต่เมืองเริ่มขยายตัวออก พื้นที่ที่หลายคนเคยมองข้ามก็กลายเป็นว่าเริ่มเนื้อหอมขึ้นเรื่อยๆ
"Osaka Expo 2025" ตำนานบทใหม่ของญี่ปุ่น เปลี่ยนเกาะเทียมธรรมดาให้กลายเป็นเมืองขนาดย่อม
เทรนด์อาคารอนุรักษ์พลังงานยังคงมีมาให้เห็นกันเรื่อยๆ และล้ำหน้ามากขึ้นทุกวันๆ และหนึ่งในโปรเจ็คที่น่าตื่นตาตื่นใจและควรค่าให้หยิบมาพูดถึงกันในวันนี้คือ "505 State Street" ครับ
ในวินาทีที่ผมย่างเท้าเข้ามาชมห้องตัวอย่างของโครงการ "Amatara Residences Rayong" (อมาธารา เรสซิเดนเซส ระยอง) บอกตามตรงว่าแอบคิดลึกๆ ในใจว่า 'นี่มันอีกระดับของที่พักตากอากาศแล้ว'
หลังจากสร้างเสียงฮือฮาแก่ชาวโลกจากโครงการ The Line เมืองภายใต้กำแพงยักษ์จากประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งโครงการนี้เป็นอยู่ภายใต้โครงการ Neom ซึ่งเป็นโครงการที่ทางซาอุฯ หมายมั่นให้เป็นเมืองใหม่ที่มาจากโลกอนาคตนั่นเอง แต่มันจะหยุดอยู่แค่ The Line ไม่ได้ครับ เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งอนาคต ความล้ำจะต้องไปสุดกว่านี้ ล่าสุดทาง Neom ส่งอีก Golf Community มาเพิ่มอีก!!
เรากำลังจะมีสวนสนุกธีม Dragon Ball แห่งแรกของโลกแล้วครับ! แถมยังการันตีว่าใหญ่กว่าดิสนีย์แลนด์ด้วย!
ร้อนๆ แบบนี้ ถ้าได้เครื่องดื่มเย็นๆ สักแก้วดับร้อนนี่บอกเลยว่าสดชื่นมากกกกก ยิ่งถ้าได้เครื่องดื่มสไตล์ไทยๆ นี่แหละตอบโจทย์เลย!!!!