ตั้งแต่เราได้รู้จักโควิดมา เคยสังเกตตัวเองกันไหมครับว่าไลฟ์สไตล์ชีวิตเราเปลี่ยนไปเยอะมากๆ เลยนะ ใช้เวลาอยู่บ้านมากกว่าเดิม ซึ่งธุรกิจอสังหาฯ เค้าก็ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างเราๆ นี่แหละ ล่าสุดทางไวด์เฮ้าส์ ดีไซน์ แอนด์ บิลด์ เค้าทำการฉีกกรอบรับสร้างบ้านในไทยด้วยการชูจุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญในการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ให้กลายเป็นฟังก์ชันภายในบ้าน
ไวด์เฮ้าส์ ดีไซน์ แอนด์ บิลด์ จำกัด หรือ WIDE HOUSE เผยว่า ปัจจุบัน ธุรกิจรับสร้างบ้านของไทยมีมูลค่ารวมกว่า 2 แสนล้านบาท โดยบริษัทฯ มั่นใจว่าตลาดยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะบ้านคือ 1 ใน 4 ปัจจัยหลักของการดำรงชีวิต ในปัจจุบันนั้นลูกค้าถือเป็นศูนย์กลางในการออกแบบ ด้วยไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างทำให้แบบบ้านในอุดมคติของแต่ละรายแตกต่างกัน และจากข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ WIDE HOUSE จึงได้นำมาใช้เป็นพื้นฐานในการออกแบบ เพื่อให้ได้แบบบ้านที่สามารถเติมเต็มความต้องการได้สูงสุด
ปัจจุบันนักออกแบบชาวไทยได้รับการยกย่องว่ามีความโดดเด่นด้านความคิดสร้างสรรค์ ถนัดและพิถีพิถันในเรื่องความงาม ความวิจิตร และสัดส่วนของงาน WIDE HOUSE จึงมีความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบบริการที่มากคุณค่านี้ให้แก่กลุ่มลูกค้าในไทย ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ เพิ่มอิสรภาพทางความคิด ให้ได้บ้านที่เป็นบ้านของตนเองและครอบครัวอย่างแท้จริง โดยแบบบ้านที่กำลังเป็นเทรนด์ความต้องการในปัจจุบัน ประกอบด้วย บ้านสไตล์มินิมอล เรียบง่าย แต่ดูทันสมัย ภายในในมีฟังก์ชันเพียงพอต่อความต้องการ อีกสไตล์ที่เข้ามารองจากมินิมอล นั่นคือ นอร์ดิก ซึ่งนอกร์ดิกเองมีความใกล้เคียงกับมินิมอล เพียงแต่จะให้โทนและอารมณ์ที่ดูอบอุ่นมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน WIDE HOUSE มีกลุ่มเป้าหมายทางธุรกิจแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ ทั้งครอบครัวขยายที่รวมสมาชิกภายในบ้านไม่เกิน 2 เจนเนอเรชัน และครอบครัวเดี่ยว ครอบครัวขนาดใหญ่ที่มีสมาชิกภายในบ้านมากกว่า 3 เจนเนเรชันขึ้นไป ประกอบด้วยบ้านหลายหลังที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน โดยทั้ง 2 กลุ่มนี้ยังคงเป็นกลุ่มลูกค้าหลักที่สนใจในบริการ แต่ละครอบครัวมีความต้องการที่ชัดเจนก่อนจะเดินเข้ามาหาเรา เมื่อมีการมานั่งพูดคุยกันกับทีมสถาปนิก WIDE HOUSE จึงออกมาในรูปแบบการระดมและแลกเปลี่ยนมุมมองความคิด เพื่อใช้เป็นโจทย์ตั้งต้นในการสร้างสรรค์บ้านดีไซน์ใหม่ให้แก่ลูกค้าแต่ละครอบครัวโดยเฉพาะ และพร้อมส่งมอบบริการที่ครอบคลุมตั้งแต่งานออกแบบ งานก่อสร้าง งานตกแต่งภายใน ไปจนถึงการดูแลหลังสร้างเสร็จ
Tag :
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ