สำหรับ "ลลิล" ก็ไม่แผ่วเลย เพราะผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2565 มียอดรับรู้รายได้ที่ 1,632.7 ล้านบาท ขยายตัวจากไตรมาสก่อนหน้า 3% ครับ

        แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังหดตัวเล็กน้อยจากช่วงเดียวของปีก่อนที่ 2.5% นะ โดย 6 เดือนแรกของปีนี้มียอดรับรู้รายได้แล้ว 3,218.5 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.5% โดยยังคงบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ ได้เป็นอย่างดีครับ

        ตอนนี้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.305 บาทแล้ว เพิ่มขึ้นจากอัตราเงินปันผลระหว่างกาลปีก่อนหน้าที่ 3.4% กำหนดวัน Record Date ผู้มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 30 สิงหาคมนี้ และจะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในวันที่ 9 กันยายน 2565 ซึ่งเมื่อเทียบกับระดับราคาหุ้นปัจจุบัน คิดเป็น Dividend Yield ทั้งปีที่ราว 6.9%

        ส่วนแผนงานเดิมยังคงไม่เปลี่ยนแปลงครับ ปีนี้มีการเปิดโครงการใหม่ไปแล้วทั้งสิ้น 6 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 5,000 ล้านบาท และอยู่ระหว่างเตรียมเปิดโครงการใหม่เพิ่มเติมอีก 2 โครงการ ในไตรมาส 3 นี้ และที่เหลือในไตรมาสสุดท้ายของปีอีก 1-2 โครงการเนอะ

        ถึงลลิลจะมีการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่เค้าก็ยังย้ำว่าบริษัทมีการบริหารความเสี่ยงด้านการเงินอย่างรัดกุม มีการใช้แหล่งเงินทุนที่หลากหลาย มีวงเงินสำรองที่ยังไม่เบิกใช้อีกจำนวนมาก รวมถึงการหมุนรอบธุรกิจที่รวดเร็ว ช่วยให้บริษัทมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งครับ สิ้นไตรมาสองนี้มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) เพียง 0.58 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ราว 1.38 เท่าจ้า