พูดถึงตลาดอสังหาในช่วงนี้ แม้เราจะเห็นทิศทางของตลาดคอนโดเริ่มกลับมาฟื้นตัว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ฮะว่าแนวราบยังขึ้นชื่อว่าเป็นตัวตึงของสินค้าอสังหาอยู่

        เห็นได้ชัดเจนว่านาทีนี้ดีเวลลอปเปอร์ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ก็หันมาจับทิศทางลุยแนวราบ สินค้าขายง่าย มีดีมานด์รองรับกันอย่างต่อเนื่อง

        เป็นอีกครั้งฮะ ที่มีโอกาสได้ไปชมโครงการแนวราบใหม่ เรียกได้ว่าเป็นการตอกย้ำความแกร่งของตลาดจริงๆ ฮะ เพราะเปิดปีมานี้ ผมมีโอกาสได้ไปดูบ้านบ่อยมากๆ 

        ซึ่งโครงการที่ผมไปดูชมมาในวันนี้คือโครงการ "AERIE ศรีนครินทร์ - กรุงเทพกรีฑา" ความพิเศษคือโครงการนี้ เค้าเป็นแนวราบโครงการแรกของ “The Nest Property” ด้วยฮะ 

        โครงการนี้ “The Nest Property” เค้าร่วมทุนกับ “Kanden Realty Development” อสังหาจากแดนอาทิตย์อุทัย บินลัดฟ้ามาจับมือลงทุนร่วมกัน ณ ทำเลทองแห่งใหม่อย่าง "ถนนกรุงเทพกรีฑา" นี่เองฮะ

        ก่อนเข้าสู่โครงการขอพูดถึงเรื่องของทำเลคร่าวๆ กันก่อนนิดนึง จะเห็นได้ว่าผมจั่วหัวว่า "กรุงเทพกรีฑา" คือทำเลทองแห่งใหม่ ซึ่งมันก็มีที่มาที่ไปครับ ถนนเส้นนี้ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของกรุงเทพ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นถนนสายหลักที่เชื่อมต่อการเดินทางแบบสะดวกสบายโคตรๆ เข้าสู่ถนนได้อีกหลายสายไม่ว่าจะเป็น รามคำแหง, ศรีนครินทร์, กาญจนาภิเษก, อ่อนนุช-ลาดกระบัง , กรุงเทพกรีฑา , ร่มเกล้า หรือ จะเข้าสู่สุขุมวิทก็ยังได้เลย เพราะสามารถไปใช้เส้นพัฒนาการเป็นเส้นทางหลักในการเดินทาง 

        ไม่พอ ถ้าหากว่าเราทำงานเส้นสีลม-สาทร ก็สามารถเข้าสู่ทางพิเศษศรีรัชได้ง่ายๆ รวมถึงสามารถไปเชื่อมต่อทางหลวงพิเศษกาญจนาภิเษกวงแหวนตะวันออกฯ , ถนนมอเตอร์เวย์กรุงเทพ-ชลบุรี ได้อีกด้วย 

        ยังไม่จบเพราะในแง่การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ ปัจจุบันเส้นนี้เค้ามี Airport Rail Link แต่ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้า 2 สาย มาให้ร่วมเดินทางแบบจอยๆ ได้แก่ สายสีเหลือง(ลาดพร้าว-สำโรง) และ รถไฟฟ้าสายสีส้ม บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี ในอนาคตอยู่ตรงนี้ เดินทางสบายแน่นอน 

        ดังนั้น ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า หรือ “กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่” จึงจัดได้ว่าเป็นทำเลทองของเมืองกรุงเลยฮะ เค้าได้สมยานามว่าเป็น “เบเวอร์ลีฮิลส์ของเมืองไทย” ด้วยนะจะบอกให้

        กลับเข้ามาในส่วนของโครงการกันต่อ โครงการนี้คือโครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้นสุดหรู ตัวโครงการนี้เค้าตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 29 ไร่เลยนะ ตัวบ้านก็จะมีขนาดที่ดินตั้งแต่ 50-80 ตร.ว. พร้อมแบบบ้านให้เลือก 3 แบบ ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 313-434 ตร.ม. โดยในโครงการจะมีจำนวน 115 ยูนิต ผมว่าก็ค่อนข้าง Private พอสมควร มาพร้อมคอนเซ็ปต์ CentralPark NewYork 

        ซึ่งในอนาคตจะเป็นโครงการที่ขนาบสองข้างถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่นี่แหละ ในอนาคตเมื่อแล้วเสร็จก็จะมีเนื้อที่รวม 70 ไร่ ยิ่งใหญ่อลังการกันเลยทีเดียว

        พูดถึงข้อมูลโครงการกันแล้ว มาชมบ้านตัวอย่างกัน แต่วันนี้ผมได้ดูแค่ 2 หลังนะ เป็นหลังขนาด 313 ตร.ม. และ 369 ตร.ม. ฮะ

        เริ่มต้นที่หลังแรก SOHO ขนาดที่ดิน 50.8 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย313 ตร.ม. เปิดประตูบ้านเข้าไปปุ๊บเราจะเจอกับพื้นที่ก่อนเข้าสู่ตัวบ้าน อารมณ์เหมือนบ้านญี่ปุ่นที่เค้าจะมีพื้นที่ใส่-ถอดรองเท้า แต่จะมาแบบกว้าง แลดูหรูหรา โมเดิร์นหน่อย 5555 โครงการฉลาดใช้พื้นที่นะ (แม้พื้นที่เดิมจะกว้างอยู่ละ) แต่อะไรที่ประหยัดเนื้อที่ได้ก็ยังทำอยู่ เช่นผนังตรงนี้มองเนียนๆ นึกว่าตกแต่ง แต่เปิดมาจะจ๊ะเอ๋ มันคือตู้เก็บรองเท้านั่นเอง ปกติเราจะเจอฟังก์ชันแนวๆ นี้จากคอนโดมากกว่าบ้านนะ

        ตัวโครงการเลือกใช้สีขาวๆ นวลๆ สลับไม้ ให้ความรู้สึกว่า แม้บ้านจะกว้าง แต่ยังคงมีความอบอุ่น เดินเข้าไปในโซนบ้านเราจะเจอกับมุมนั่งเล่น และครัวตามลำดับ ชั้นล่างเป็นเหมือนชั้นที่ครอบครัวสามารถมาใช้เวลาและพื้นที่ร่วมกัน พื้นที่กว้างจุใจรองรับครอบครัวใหญ่ๆ ที่มีสมาชิกเยอะ

        ขึ้นมาข้างบน ชั้นนี้เป็นชั้นห้องนอน มีทั้ง Master Bedroom และห้องเล็กๆ แต่จุดที่ชอบก็คือ ชั้นนี้เค้ามีกิมมิกเล็กๆ เป็นพื้นี่ Out door ให้สามารถไปนั่งชิลรับแสงธรรมชาติและแสงแดดของวันได้ด้วย ผมชอบตรงนี้มากทีสุดของบ้าน มุมนี้จะอยู่กั้นระหว่างห้องนอนทั้งสองห้อง โดย Master Bedroom จะมี Wakl in closet ห้องแต่งตัว และห้องน้ำพร้อมอ่างให้แช่ด้วย ส่วนชั้น3 ก็มีห้องนอนเหมือนกัน ตรงนี้เค้าจะมีห้องซักรีดอยู่ด้วย ทางโครงการเค้าทำเป็นห้องนอน Baby กับห้องทำงาน

        มาดูอีกหลังกันต่อ หลังนี้เป็นหลังที่ชื่อว่า MEDISON จะมีที่ดินขนาด 57.3 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 369 ตร.ม. หลังนี้เปิดประตูเจอพื้นที่นั่ง ใส่-ถอด รองเท้าแล้ว ยังมีห้องสำหรับรองเท้าไว้ด้วย เราสามารถเดินขึ้นบันไดไปได้เลย เหมาะแก่การหนีเที่ยวมาก (ล้อเล่นนน 555) การออกแบบบ้านแบบนี้ผมเคยเห็นในหนังฝรั่งเยอะนะ ที่บันไดขึ้นชั้นบนตรงกับประตูบ้าน 

        ตัวห้องนั่งเล่นและห้องครัวจะอยู่ทางขวามือ เค้าจะมีทั้งครัวแบบไอส์แลนด์ และครัวไทยแบบปิด เอาไว้กันกลิ่นเครื่องแกงฉุนๆ เข้าบ้าน ถึงแม่เราจะผัดกระเพรา แต่เราก็ไม่จามแน่นอน เพราะครัวปิดมิดชิด ไร้กลิ่นแน่นอน ชั้นล่างมีห้องน้ำให้ด้วย กว้างเลย แขกมาบ้านให้ใช้ห้องนี้แหละ ไม่ต้องให้ขึ้นไปยังชั้นบนที่มีความเป็นส่วนตัว

        ขึ้นมายังชั้นสอง หลังนี้จะคล้ายๆ หลังแรกเลย คือจะมี Master Bedroom ที่มีห้องน้ำอลัง มาพร้อมห้องแต่งตัว แต่บ้านหลังนี้เค้าจะมีห้อง Collections ฮะ คืออารมณ์ห้องนั่งชิลล์ ห้องเก็บของสะสมประมาณนี้ด้วย ซึ่งห้องนี้ก็จะอยู่ตรงกลางเชื่อมต่อกับห้องนอนเล็กอีกห้อง ส่วนชั้น 3 ก็จะเป็นห้องักล้างและห้อง Baby และห้องนอนอีกห้อง 

        ผมชอบที่โครงการนี้เค้ามีห้องเยอะจุใจเลย ที่สำคัญชอบการออกแบบพื้นที่สำหรับครอบครัว แม้คนสมัยนี้จะรักการมีพื้นที่ส่วนตัวมากแค่ไหน แต่พื้นที่สำหรับครอบครัวก็ยังสำคัญอยู่ ชั้นล่างเลยจัดเต็มไปเลย สำหรับครอบครัว ชั้นบนก็มีพื้นที่สำหรับผ่อนคลาย ชอบตรงที่จะมีห้องพิเศษๆ เพิ่มมาด้วย แล้วแต่ว่าเราจะเอาไปดีไซน์เป็นห้องอะไรอีกที

        โครงการนี้เป็นโครงการใหม่โคตรๆ เลยฮะ แม้จะเป็นโครงการแนวราบโครงการแรกของ The Nestฯ แต่ผมว่าเค้าทำออกมาได้ดีมากๆ เลยนะ ยิ่งได้ทำเลดี ยิ่งมีชัยมากขึ้นไปอีก

        ใครกำลังหาบ้านที่เหมาะกับการอยู่เป็นครอบครัว แต่ก็ยังมีพื้นที่สำหรับความเป็นส่วนตัวอยู่แนะนำให้ขับรถเข้ามาชมบ้านตัวอย่างกันได้ฮะ โครงการนี้เค้าเริ่มต้นที่ 16.9 - 25 ลบ.* (ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2565) ตอนนี้เค้าเปิดขายอย่างเป็นทางการแล้วด้วยนะ ใครสนใจสามารถเข้าไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ของโครงการได้เลยฮะ คลิก 

        วันนี้ขอลาไปก่อน ส่วนคราวหน้าผมจะพาไปเคาะบ้านโครงการไหนอีกจับตาดูกันให้ดีๆ เลยฮะ ปีนี้ยังมีมาเรื่อยๆ แน่นอน คนอยากมีบ้านห้ามพลาดเด็ดขาดฮะ!!