บ่อยครั้งที่จินตนาการในวัยเด็ก กลายเป็นจุดกำเนิดของวิวัฒนการและเทคโนโลยีในอนาคตหลายๆ อย่าง เช่น สมัยก่อนเราเคยคิดว่าจะสามารถนั่งอยู่บนรถที่ไม่ต้องมีคนขับ หรือ เราสามารถสื่อสารกับคนทั้งโลกได้บนเครื่องมือสี่เหลี่ยมเท่าฝ่ามือ ฯลฯ 

        เมื่อไม่กี่วันก่อนผมเพิ่งเข้าไปดูคลิปใน Youtube เกี่ยวกับ The Line เมืองอัจฉริยะของซาอุดิอาระเบีย ที่มีความน่าตื่นตาตื่นใจของเค้าคือ ทุกๆ  อย่างเหมือนหลุดทะลุมาจากหนังไซไฟล้ำๆ 

        แล้วก็ค้นพบว่าแนวคิดของเค้าเนี้ย เป็นแนวคิดที่สานฝันจินตนาการในวัยเด็กของใครหลายๆ คนเหมือนกันนะ แต่ดึงออกมาได้น่าสนใจและเป็นรูปธรรมมากขึ้น

        The Line เป็นเมืองแห่งอนาคตที่ถูกเผยโดย เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน อัล-ซาอูด (Mohammed bin Salman Al-Saud) มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งซาอุดีอาระเบีย

        ความน่าสนใจคือโครงการนี้ถูกดีไซน์มาด้วยแปลนตึกขนาดใหญ่ โครงสร้างตึกขนาดใหญ่ความยาว 170 กิโลเมตร ความกว้างแค่ 200 เมตร แต่มีความสูงถึง 500 เมตร (ความสูงจากระดับน้ำทะเล) ซึ่งสูงกว่าหอไอเฟลเสียอีก มาพร้อมเนื้อที่ใช้สอยรวมกัน 34 ตารางกิโลเมตร รองรับประชากร 9 ล้านคน!! หรือพูดง่ายๆ ก็คือมันคือเมืองในกำแพงนั่นแหละฮะ โดยโครงการนี้อยู่ภายใต้โครงการ Neom ซึ่งเป็นโครงการที่ถูกนำเสนอในปี 2021 ที่ผ่านมา

        แล้วโครงการ Neom มันคืออะไรล่ะ?

        โครงการ Neom เป็นโครงการที่ทางซาอุฯ หมายมั่นให้เป็นเมืองใหม่ที่มาจากโลกอนาคต โดยรูปแบบการก่อสร้างก็ต้องล้ำและท้าทายสมชื่อเมืองแห่งอนาคตแหละครับ โดยเป้าหมายคือการนำพาประเทศซาอุฯ สู่ยุคใหม่ที่ยั่งยืน โดยโครงการแห่งนี้จะตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซาอุดีอาระเบียบริเวณทะเลแดง เมืองนี้จะเป็นจุดหมายปลายทางและบ้านของคนที่มีความฝันอันยิ่งใหญ่และต้องการมีส่วนร่วมในการสร้างแม่แบบของความเป็นอยู่ที่ดี การทำธุรกิจที่เจริญรุ่งเรือง และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

        ว่ากันว่าเมืองแห่งนี้ถูกออกแบบให้มีประสิทธิภาพทางความเป็นอยู่และสิ่งแวดล้อมแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นสภาพภูมิอากาศที่ดีตลอดทั้งปี ธรรมชาติโดยรอบ และการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกด้วยระยะเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น พร้อมด้วยการคมนาคมอย่างรถไฟความเร็วสูงจากต้นทางไปยังปลายทางเพียง 20 นาที ซึ่งการคมนาคมเนี้ย น่าจะเป็นอีกเรื่องที่โดดเด่นมากๆ ในการผุดโครงการนี้ขึ้นมาเลยทีเดียว เพราะเค้าตั้งใจออกแบบให้การคมนาคมมันไร้รอยต่อ สามมิติ ขึ้นบน ลงล่าง ซ้ายและขวา (Zero Gravity Urbanism) 

        พึ่งพาน้ำมันน้อยลงและเน้นใช้พลังงานแบบระบบหมุนเวียน

        เรียกได้ว่าถ้ามันสำเร็จจริงๆ ภายในโครงการนี้จะเป็นโครงการ "ในฝัน" ที่หลายๆ คนปรารถนา ท่ามกลางวิกฤติพลังงานที่มีอยู่อย่างจำกัดของโลก แม้ซาอุดิอาระเบียจะเป็นหนึ่งในประเทศตะวันออกกลางที่มีแหล่งทรัพยากรล้ำค่าอย่างน้ำมันมากมาย แต่การมาของ The Line นั่นมุ่งหวังให้พึ่งพาน้ำมันน้อยลง และเน้นใช้พลังงานจากดวงอาทิตย์ที่มีอยู่อย่างเหลือเฟือในประเทศที่มีภูมิภาคเป็นทะเลทรายอย่างซาอุฯ

        โดยภายในอาคารจะถูกแบ่งเป็นสัดส่วนไม่ว่าจะเป็นพื้นที่อยู่อาศัย การศึกษา มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล สนามกีฬา โรงแรมที่พัก พื้นที่สำนักงาน พื้นที่สวนสาธารณะ อีกทั้งเมืองนี้จะกลายเป็นเมืองที่ปลอดคาร์บอน เพราะมีการกำจัดโครงสร้างพื้นฐานที่มีการใช้คาร์บอนสูงออกไป เช่น รถยนต์และถนน รวมไปถึงการควบคุมและการดำเนินงานของอุตสาหกรรมต่างq ให้ผสมผสานระหว่างธรรมชาติและพื้นที่เปิดกว้างให้มีบทบาทสำคัญในการทำให้คุณภาพอากาศบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น

        เรียกได้ว่าดูล้ำ ดูเหนือจินตนาการมากๆ ซึ่งหลายๆ คนก็มีการวิจารณ์และตั้งคำถามต่างๆ นานา ครับว่าสิ่งนี้จะสามารถเกิดขึ้นได้จริงๆ หรือไม่ หรือเป็นเพียงการ PR เพื่อภาพลักษณ์ของประเทศกันแน่? อย่างไรก็ตาม หากสิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้จริง ก็อาจจะเป็นเมืองต้นแบบให้แก่ประเทศอื่นๆ ได้เช่นกันฮะ