ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2019 ข่าวที่น่าจะทำให้สถาปนิกและคนทั่วโลกต้องใจหายแวบและอาจเสียน้ำตา ก็คือข่าวที่ว่าเกิดเหตุไฟไหม้มหาวิหารนอเทรอดาม (Notre Dame) นี่แหละครับ
สถานที่แห่งนี้เป็นศาสนสถานอายุ 850 ปีในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ถือว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ต้องไปเยือนสักครั้งในชีวิต
นั่นเพราะผลงานการก่อสร้างที่แสนจะยิ่งใหญ่อลังการแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1991 แถมยังตั้งตระหง่านท้าทายห้วงเวลามายาวนานหลายศตวรรษ
พอเกิดเพลิงไหม้ขึ้นเลยสร้างความตกใจและความเสียดายให้กับคนทั่วโลก เป็น Breaking News ที่ทุกสื่อให้ความสนใจ ตัวศาสนสถานอายุหลายศตวรรษแห่งนี้ได้รับความเสียหายจากเพลิงไหม้ เพราะโครงสร้างส่วนใหญ่ทำจากไม้
ผ่านไปนานหลายปี ตอนนี้มีอัพเดตถึงแผนการซ่อมแซมบูรณะตัวอาคารกันแล้วครับ
ขั้นตอนแรกภายใต้แผนการซ่อมแซม ก็คือการรื้อชิ้นส่วนนั่งร้านเก่าน้ำหนัก 300 ตัน ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกติดตั้งเอาไว้สำหรับโครงการปรับปรุงซ่อมแซมในช่วงก่อนเกิดเพลิงไหม้
และในระหว่างนั้นทางฝรั่งเศสก็จัดงานประกวดแข่งขันด้านการออกแบบเพื่อพัฒนาสภาพแวดล้อมหรือบริเวณโดยรอบมหาวิหารขึ้นมาใหม่ด้วยครับ
ล่าสุดเมื่อไม่กี่วันมานี้ทางคณะกรรมการก็ได้ประกาศรางวัลผู้ชนะเลิศอันดับหนึ่งมาแล้ว
เป็นโปรเจกต์การออกแบบที่พัฒนาโดยภูมิสถาปนิก Bas Smets, บริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมและผังเมือง GRAU และบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านมรดกทางสถาปัตยกรรม Neufville-Gayet
ซึ่งแผนปรับโฉมมหาวิหาร Notre Dame หลังไฟไหม้ ก็กลับมาใหม่พร้อมฟังก์ชั่นเพื่อคนเมืองโดยเฉพาะครับ
สำหรับการออกแบบพื้นที่โดยรอบตัวมหาวิหารของทีมนี้ พ้อยท์หลักของเค้าคือการเชื่อมโยงสถานที่ทางประวัติศาสตร์ให้เข้ากับแม่น้ำแซนที่ล้อมตัวมหาวิหารเอาไว้ให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น
ส่วนพื้นที่ของจัตุรัสที่อยู่ทางด้านหน้าของมหาวิหารเองก็จะมีการออกแบบให้เป็นพื้นที่เปิดโล่ง ด้านหน้าของอาคารจึงจะสูงเด่นขึ้นกว่าเดิม
ขาดไม่ได้คือการเพิ่มต้นไม้สีเขียวเอาไว้เพื่อล้อมตัวอาคาร จุดประสงค์เพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับให้ร่มเงา
ส่วนทางด้านหลังของมหาวิหารนั้นทางทีมจะรวมเข้ากับสวนที่อยู่ติดกัน จากนั้นปรับให้เป็นสวนสาธารณะริมแม่น้ำขนาดใหญ่ ยาว 400 เมตร
เห็นว่าจะมีการปลูกต้นไม้ใหม่เพิ่มอีก 131 ต้นด้วยนะ ไม่แปลกใจเลยถ้าในอนาคตพื้นที่บริเวณนี้จะเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่ร่มรื่นเหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองปารีส
นอกจากพื้นที่สีเขียวแล้ว อีกจุดที่ทำมาเพื่อเอาใจนักท่องเที่ยวคือการที่ทีมเตรียมติดตั้งระบบระบายความร้อนด้วยการใช้ม่านน้ำความหนาเพียง 5 มิลลิเมตรด้วยครับ ตรงนี้จะช่วยลดอุณหภูมิได้หลายองศา แถมทำให้กำแพงรอบมหาวิหารเกิดการสะท้อนแสง กลายเป็น spot สำหรับเอาไว้ถ่ายรูปสวยๆ ได้ด้วย
ในภาพรวมของโปรเจกต์ปรับปรุงสภาพแวดล้อมในส่วนนี้เห็นว่าแพลนเอาไว้ว่าจะเริ่มในปี 2024 แล้วเสร็จในปี 2027
หลังจากการก่อสร้างเสร็จสิ้น น่าจะทำให้พื้นที่นี้กลายเป็นแลนด์มาร์กทางประวัติศาสตร์ที่ปรับตัวเองให้เข้ากับวิถีคนเมืองได้อีกจุดหนึ่ง และแน่นอนว่านักท่องเที่ยวทั้งหลายต้องไม่พลาดที่จะแวะไปเยือนมหาวิหาร Notre Dame โฉมใหม่แห่งนี้ด้วยครับ
ส่วนใครอยากแอบดูก่อนหน้าโดยไม่ต้องนั่งไทม์แมชชีนก็สามารถกดดูแบบจำลอง 3 มิติของโปรเจกต์นี้ได้ก่อนเลยที่นี่ https://bit.ly/3obdhY4
Tag :
เคยมีคนถามผมว่า "สมัยนี้ ยังสามารถสร้างคอนโดที่ไม่ใกล้รถไฟฟ้าได้ไหม?" ได้สิ เพราะแม้ว่าความใกล้ รถไฟฟ้า จะเป็น 1 ในปัจจัยหลักที่สำคัญมาก แต่มันก็ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ "ขาย" ได้อยู่อีก
จะมีคอนโดปล่อยเช่าอยู่อันนึง ที่แม้แต่ตอนโควิดก็ไม่มีผลอะไร มีคนเช่าตลอดๆ แทบไม่มีช่วงว่าง บางครั้งคือ คนเก่าย้ายออกตอนเช้า ตอนเย็นคนใหม่ใส่หน้ากากอนามัยขนของเข้าอยู่ต่อเลย
หลังจากที่ผมถ่ายรูปห้องตัวอย่างใน Sales Gallery เสร็จ ผมก็หันไปบอกกับคุณบี ที่มาด้วยกัน เชื่อไหมว่า แป๊บๆ เดี๋ยวก็ Sold Out!!
หน้าร้อนซัมเมอร์มันก็ต้องคู่กับทะเล ผมฝันไว้เสมอนะว่าอยากมีคอนโดตากอากาศ แต่ปัญหาก็คือคอนโดติดทะเลส่วนใหญ่มีราคาแรงมาก
หลังจากปล่อย "KLOS Ratchada" ไปไม่นาน "Frasers Property" ก็ได้ฤกษ์เตรียมผุดคอนโดแบรนด์ KLOS แห่งที่ 2 ต่อทันทีครับ
นับตั้งแต่เมืองเริ่มขยายตัวออก พื้นที่ที่หลายคนเคยมองข้ามก็กลายเป็นว่าเริ่มเนื้อหอมขึ้นเรื่อยๆ
"Osaka Expo 2025" ตำนานบทใหม่ของญี่ปุ่น เปลี่ยนเกาะเทียมธรรมดาให้กลายเป็นเมืองขนาดย่อม
เทรนด์อาคารอนุรักษ์พลังงานยังคงมีมาให้เห็นกันเรื่อยๆ และล้ำหน้ามากขึ้นทุกวันๆ และหนึ่งในโปรเจ็คที่น่าตื่นตาตื่นใจและควรค่าให้หยิบมาพูดถึงกันในวันนี้คือ "505 State Street" ครับ
ในวินาทีที่ผมย่างเท้าเข้ามาชมห้องตัวอย่างของโครงการ "Amatara Residences Rayong" (อมาธารา เรสซิเดนเซส ระยอง) บอกตามตรงว่าแอบคิดลึกๆ ในใจว่า 'นี่มันอีกระดับของที่พักตากอากาศแล้ว'
หลังจากสร้างเสียงฮือฮาแก่ชาวโลกจากโครงการ The Line เมืองภายใต้กำแพงยักษ์จากประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งโครงการนี้เป็นอยู่ภายใต้โครงการ Neom ซึ่งเป็นโครงการที่ทางซาอุฯ หมายมั่นให้เป็นเมืองใหม่ที่มาจากโลกอนาคตนั่นเอง แต่มันจะหยุดอยู่แค่ The Line ไม่ได้ครับ เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งอนาคต ความล้ำจะต้องไปสุดกว่านี้ ล่าสุดทาง Neom ส่งอีก Golf Community มาเพิ่มอีก!!
เรากำลังจะมีสวนสนุกธีม Dragon Ball แห่งแรกของโลกแล้วครับ! แถมยังการันตีว่าใหญ่กว่าดิสนีย์แลนด์ด้วย!
ร้อนๆ แบบนี้ ถ้าได้เครื่องดื่มเย็นๆ สักแก้วดับร้อนนี่บอกเลยว่าสดชื่นมากกกกก ยิ่งถ้าได้เครื่องดื่มสไตล์ไทยๆ นี่แหละตอบโจทย์เลย!!!!