จะบอกว่าช่วงนี้การ์ตูนญี่ปุ่นกลับมาตีตลาดบ้านเราอีกครั้งอย่างฉูดฉาดอลังการก็ว่าได้ครับ เพราะเดี๋ยวนี้ผมเห็นหลายเพศหลายวัย ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็หันมาดูอนิเมะ อ่านมังงะกันทั้งนั้น

        เพราะอานิสงค์ของอนิเมะดังๆ ในกระแสหลายเรื่องหรือยังไงก็ไม่รู้ล่ะ แต่เดี๋ยวนี้คนแห่ซื้อมังงะและกู๊ดส์ของการ์ตูนเรื่องนั้นๆ กันให้เพียบ บางสำนักพิมพ์ถึงกลับขาดตลาด กลายเป็นของแรร์ ถูกอัพราคาในแอพส้มแบบเห็นแล้วต้องตาลุกวาวพร้อมกับตั้งคำถามว่า "นี่ปรากฏการณ์มังงะฟีเวอร์มันมาถึงจุดนี้ได้ยังไงกันน้อออ"

        ผมยังจำได้เมื่อช่วงงานหนังสือที่ผ่านมาที่สถานีกลางบางซื่อครับ ทันทีที่เปิดงานปุ๊บคนก็แห่กันวิ่งเข้างานตรงดิ่งไปยังชั้นลอยซึ่งเป็นชั้นที่รวมบูธมังงะกันแบบเอาเป็นเอาตาย คนรอต่อคิวจ่ายเงินกันนับร้อยก็มี

        เมื่อมังงะญี่ปุ่นกลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง แหล่งซื้อขายใหม่ๆ ก็ตามมา ผมเองก็อ่านมังงะอยู่นะ ถ้าถามว่าแหล่งซื้อหาที่ครบครันในกรุงเทพฯ คือที่ไหนก็น่าจะหนีไม่พ้น "อนิเมท" ครับ เพราะมีขายหมดทั้งมังงะภาษาไทยหรือภาษาญี่ปุ่น ซีดีเพลง กู๊ดส์ต่างๆ ก็เพียบ

        แต่จะเป็นยังไงถ้าเจ้าใหญ่เค้าเบนเข็มมาเล่นตลาดฝั่งนี้บ้างเหมือนกัน?

        ตอนแรกยังนับว่าแปลกใจอยู่เมื่อผมเห็น Kinokuniya (คิโนะคูนิยะ) ร้านหนังสือสัญชาติญี่ปุ่นที่มีสาขาในไทยออกมาประกาศว่าเตรียมเปิดโซนใหม่เอาใจเหล่าคนรักการ์ตูนโดยเฉพาะ

        เพราะถ้าใครเคยเข้าร้านสีน้ำเงินร้านนี้ก็จะพบว่าในร้านเค้าก็มีโซนขายมังงะทั้งทางฝั่งญี่ปุ่นและฝั่งตะวันตกอยู่นะ แต่ก็อาจจะไม่ได้ครอบคลุมขนาดนั้น พอบอกว่าจะเปิดโซนเฉพาะเลยนี่มันเลยชวนให้รู้สึกตื่นเต้นจริงๆ

        ดังนั้นงานนี้ผมไม่มีทางพลาดครับ หลังจากเปิดตัวกันไปเมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา ในที่สุดผมก็หาเวลาแวะไปดูให้เต็มๆ ตาได้เสียที

        สำหรับโซนใหม่ของคิโนะฯ นั้นตั้งอยู่ที่ชั้น 6 โซน I ของ CentralWorld หรือก็คือโซนอิเซตันเก่านั่นเอง เห็นแล้วร้องว้าว สวรรค์ (แห่งใหม่) ของคนรักหนังสือการ์ตูนจริงๆ

        ภายในร้านมีสินค้ามังงะและอนิเมะลิขสิทธิ์แท้ให้เลือกกันเพียบแบบตาลายกันไปเลย โดยในร้านจะแบ่งออกทั้งหมด 3 โซน 3 ภาษา (ภาษาไทย อังกฤษ และญี่ปุ่น) ครอบคลุมทุกความต้องการตามแบบฉบับร้านหนังสือของคิโนะฯ

        ส่วนมังงะที่วางขายกันก็มีทั้งเก่า-ใหม่ให้เลือกสรรครับ ไม่ว่าจะเป็นรายการหนังสือยอดฮิตอย่าง Spy x Family, Demon Slayer, Jujutsu Kaizen, Attack on Titan, Blue Period, Slam Dunk, Junji Ito, Sailor Moon, One Pieces ฯลฯ งานฝั่งตะวันตกอย่าง DC Comics หรือ Marvel Comic ก็มีนะ มาแรงสุดๆ ก็ต้อง Heartstopper ครับผม มีทั้งแปลไทยและภาษาอังกฤษต้นฉบับเลย

        และอย่างที่บอกไปว่าในร้านนอกจากจะขายมังงะแล้วยังมีกู๊ดส์ต่างๆ อีกเพียบ เห็นแล้วน่าซื้อทุกชิ้นเลย ที่ได้รับความสนใจสุดๆ น่าจะหนีไม่พ้นสินค้าของ Ghibli Studio ครับ มีโซนแยกให้ต่างหากด้วย อยากได้ไปหมดทุกอย่างงง

        ในร้านยังมีฟิกเกอร์วางจำหน่ายอีกหลากหลายรูปแบบ อะคิริกแสตน ตุ๊กตามากมาย (ที่มีชื่อเรียกเฉพาะต่างกันไป มันจู โทโมนุย นิโตตัน ฯลฯ สายติ่งต้องรู้) เครื่องเขียนคุณภาพสูงก็มีพร้อม เรียกได้ว่าใครได้ไปเดินจะต้องรู้สึกเพลินแน่ๆ

        แต่อารมณ์ในร้านมันจะดูสงบ อบอุ่น สบาย สวยงาม ตามแบบฉบับร้านคิโนะฯ นั่นแหละครับ แตกต่างจากอนิเมทที่ MBK ที่เป็นร้านแบบอนิเมะจ๋าเลย คือเน้นแสงสว่างกับเปิดเพลงประกอบอนิเมะลั่นร้านเพื่อให้เราสามารถเลือกมังงะได้อย่างฮึกเหิม ครึกครื้น 5555

        โซนใหม่ของคิโนะฯ นี้เค้ามาในธีมสวนหนังสือ หรือ “Garden Terrace Book Kiosk” เต็มไปด้วยสิ่งต่อเติมความฝัน จินตนาการ และความตื่นตาภายใต้โครงสร้างที่เปรียบเสมือนต้นไม้ที่มีกิ่งส่องแสงสว่าง แผ่กิ่งก้านนำคุณไปสู่โลกแห่งการ์ตูนและผลิตภัณฑ์ที่น่าดึงดูดใจ ใครมาก็ต้องชอบ!

        แต่เห็นว่าโซนการ์ตูนนี้เป็นเฟสแรกของ Kinokuniya Book Kiosk นะครับ เค้ายังแพลนจะมีเฟส 2 ที่เป็น Main Store เพิ่มเติมเข้ามาอีก คาดว่าจะเปิดให้บริการในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ และจะปิดให้บริการที่ชั้น 5 ที่เป็นร้านชั่วคราว เพื่อเปิดร้านครบทุกโซนอย่างเต็มรูปแบบที่ชั้น 6 (แต่ว่าตอนนี้ร้านหนังสือทั่วไปที่ชั้น 5 ก็ยังสามารถเดินได้อยู่นะ)

        เอาเป็นว่าเป็นแหล่งขายมังงะขนาดหญ่ายยยยยยอีกแห่งที่เพิ่มเข้ามาในลิสต์คอการ์ตูนแล้วล่ะครับ ช่วงวันหยุดคนไปเดินเยอะเหมือนกัน ใครจะไปเดินระวังถูกล่อลวงใจด้วยหนังสือและกู๊ดส์ทั้งหลายเหมือนผมล่ะ เพราะตอนแรกตั้งใจแค่จะไปดู ที่ไหนได้รู้ตัวอีกทีก็ควักเงินจ่ายไปซะแล้ว...