หลังจากได้ mRNA จิ้มแขน ความมั่นใจในการออกตะลุยนั่งกินข้าวที่ร้านของผมก็เต็มเปี่ยม สารภาพตามตรงว่าโคตรคิดถึงบรรยากาศก่อน Lockdown นึกถึงการได้เจอเพื่อน นั่งพูดคุยสารทุกย์สุขดิบ พร้อมจิบกาแฟดีๆ สักแก้ว

        หลังจากคลาย Lockdown และบรรยากาศหลายๆ อย่างค่อนข้างโอเค และดูปลอดภัย ผมและเพื่อนๆ นึกเหมือนกัน คืออยากออกมาเจอ มากินข้าว ที่ร้านอาหารชิลๆ สักร้าน โจทย์ของเราไม่มีอะไรมาก ขอร้านที่บรรยากาศดีๆ 

        เป็นความบังเอิญที่ผมได้มาเจอกับ Tsai Eatery Cafe &  restaurant เห็นรูปสะดุดตาเพราะบรรยากาศร้านติดแม่น้ำ เลยไม่รีรอหาข้อมูล และพบว่า เออ น่าสนใจแฮะ มันเป็นร้านคาเฟ่เปิดใหม่อยู่แถวๆ คลองสาน ไม่ไกลจากสะพานพุทธเท่าไหร่ น่าลอง

        ผมจัดการนัดแนะเพื่อนๆ เราใช้การนั่งรถไฟฟ้าและใช้บริการแท็กซี่เข้ามาที่ร้านต่อ รถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดคือสนามไชย และ สถานีคลองสาน แล้วแต่สะดวก แต่ทั้งสองสถานีนี้ก็ยังต้องต่อรถอีกนะ เพราะตัวร้านอยู่ในซอย สมเด็จเจ้าพระยา3 ไม่ไกลจากรถไฟฟ้ามาก แต่ให้เดินก็ไม่ไหว นั่งรถกันมาเถอะ

        ทันทีที่มาถึงก็ต้องตะลึงเล็กน้อย เพราะลานจอดรถของร้านแน่นขนัด บ่งบอกได้ถึงความฮอตของที่นี่ แม้จะเป็นคาเฟ่เปิดใหม่ แต่คงมีชื่อเสียงพอตัวสำหรับเหล่า Cafe Hopping

        พวกผมมาในวันศุกร์ที่ช่วงบ่ายๆ แทบไม่อยากคิดว่าหากนัดมาเจอกันช่วงวันเสาร์อาทิตย์คงต้องรอโต๊ะกันนาน โชคดีที่มาถึงก็ได้โต๊ะนั่งเลย คือในร้านจะมีโต๊ะที่ติดแม่น้ำด้วยนะ แต่โชคร้ายที่วันนี้เราไม่ได้โต๊ะติดริมแม่น้ำ เพราะเต็มหมดแล้ว

        ร้านนี้เป็นร้านอาหารกึ่งคาเฟ่มากกว่า ร้านกว้างขวาง มีโต๊ะให้นั่งเยอะ มีทั้ง Indoor และ Outdoor ด้วยความที่ติดแม่น้ำ แม้จะนั่งที่โซน  Outdoor ก็ไม่ร้อน บวกกับไทรต้นใหญ่เป็นที่กำบังแดดได้เป็นอย่างดี

        ทางร้านตกแต่งน่ารัก เรือนกระจกสีเขียว กลมกลืนและให้บรรยากาศดูวินเทจ ฟีลเหมือนนั่งในสวน ไทรต้นใหญ่กลางร้านเป็นแกนกลางที่ทำให้บรรยากาศดูร่มรื่น และโดดเด่น ซึ่งเป็นที่มาของชื่อคาเฟ่แห่งนี้

        หลังจากเราได้โต๊ะ พนักงานยื่นเมนูให้ พร้อมขอโทษขอโพยว่า "ขอโทษทีครับ เมนูเหลืออยู่เล่มเดียว" เราพอเข้าใจได้เพราะลูกค้าแน่นทั้งร้านจนใครที่มาหลังเราต้องนั่งรอให้โต๊ะว่าง

        เมนูที่ร้านมีเยอะ ทั้งอาหารคาว และ อาหารหวาน เราลงมติเป็นเอกฉันท์ว่าวันนี้จะทานอาหารแนวอิตาเลี่ยนเบาๆ เลยเลือกสั่ง Appertizer มาเป็น Fishs&Ships , Calamari สั่ง Main Coures เป็น Salmon grilled Hollandaise Sauce กับ Chicken steak stuffed with cheese และตบด้วยพาสต้าสักจานอย่าง Fettuccine alfredo truffle oil 

        ส่วนเครื่องดื่มผมสั่งเป็น Tsai Coffee ส่วนเพื่อนๆ อีกสองคนสั่งเป็น Yuzu Coffee และ Banoffee shake

        เรารออาหารไม่นานมากนัก ทีแรกแอบคิดว่าน่าจะรอนานเพราะลูกค้าแน่นโต๊ะสรุปเราได้ทุกเมนูมาเสิร์ฟถึงโต๊ะในเวลาไม่ถึง 30 นาที ถือว่าได้ค่อนข้างไวนะ เดี๋ยวจะรีวิวสั้นๆ แต่ละเมนูให้อ่าน

        Fishs&Ships จานนี้ให้เยอะมาก อยากแนะนำว่าถ้าใครมาคนเดียว สั่งพวกเมนู Appertizer เลยครับ เพราะมันได้เยอะ แถมราคาน่ารักอีก ปลาเนื้อนุ่มทอดกับแป้งและเกล็ดขนมปัง ตัวซอสรสชาติทั่วไปเราไม่ได้ว้าวมากนัก แต่ก็อย่างว่าแหละ Fishs&Ships รสชาติมันก็ต้องประมาณนี้อยู่แล้ว แต่เราประทับใจมากที่มันเยอะ กินจานนี้คนเดียวก็อิ่มแล้ว 

        Calamari โห จานนี้คือพระเอกเลย เพราะซอสวาซาบิเด็ดมาก เปรี้ยวอมหวาน ได้วาซาบิติดลิ้นกำลังพอดี ไม่ฉุน คนที่ไม่ชอบวาซาบิก็กินได้ เพราะได้แค่กลิ่นเล็กๆ น้อยๆ เด็กก็ทานได้นะ เหนือสิ่งอื่นใดคือปลาหมึกดีมาก หันเป็นแว่นๆ วงๆ ทอดกรอบๆ กลิ่นไม่คาว ชิ้นใหญ่ ให้เยอะด้วย จานนี้อร่อยมาก จนขอเบิ้ลน้ำจิ้มวาซาบิ ปล. ขอเพิ่มซอสได้เลย ใครสั่งจานนี้ต้องเบิ้ลๆ 

        Salmon grilled Hollandaise Sauce แซลมอนเนื้อพอดี เสิร์ฟมาพร้อมมันบดและซอส ตัวซอสรสชาติเค็มๆ หวานๆ เราไม่รู้เหมือนกันว่าเขาทำมากจากอะไร แต่จานนี้หน้าตาสวยงามดี5555 แซลมอนกริลมาหอมพริกไทยดำ มีรสชาติเหลือติดลิ้นเล็กน้อย ทานจิ้มซอสก็อร่อย ตัดแซลมอนกินอย่างเดียวก็ฟินแล้ว จานนี้ส่วนตัวผมไม่ได้อะไรมากนัก แต่เพื่อนผมที่เป็นสาวกนักทานปลายกนิ้วให้ บอกว่าอร่อยมากกก

        Chicken steak stuffed with cheese จานนี้แอบได้คะแนนรั้งท้าย เรารู้สึกเหมือนกันทุกคนว่าไก่จืดชืดไปหน่อย ซอสก็เหมือนซอสมะเขือเทศทั่วไป ทีแรกเราคาดหวังว่าไก่จะถูกหมักกับซอส และมีรสชาติมากกว่านี้ แต่ยังมีข้อดีคือได้กลิ่นความหอมของสมุนไพร อันนี้เราว่ามันดูเป็นเมนูคลีนๆ ไปหน่อย ไม่ค่อยเหมาะกับสาวกผงชูรสอย่างพวกเรา5555

        Fettuccine alfredo truffle oil อันนี้ให้เป็นพระรอง อันดับสองจากซอสวาซาบิที่เรารัก เส้นพาสต้านิ่มกำลังดี ถูกผัดเคล้ากับ truffle oil รสชาติละมุน ไม่เลี่ยนเลย จานนี้เรารักมาก มันจะออกมันๆ เค็มๆ แต่ใดๆ คือหอม ได้เห็ดจริงๆ ไม่ได้ป่นรวมมากับซอสนะ โรยมาด้วยเบค่อนกรอบๆ โคตรได้ จ้วงกันจนหมดเป็นจานแรก 

        Tsai Coffee อันนี้ผมสั่งมาเพราะคิดว่าคงเป็นสูตรของร้าน มันเป็นกาแฟคล้ายๆ คาปูชิโน่เย็น กาแฟที่มาพร้อมฟองนมนุ่มๆ โปะลงบนแก้ว ทางร้านราดคาราเมลมาให้ด้วย กาแฟไม่เข้มมากนัก ดื่มแล้วไม่ต้องกลัวใจสั่นใดๆ แต่ก็ไม่ตื่นเหมือนกัน555 รสชาติถือว่าทั่วๆไป ไม่หวานมากเท่าไหร่ซึ่งก็ดีแล้วแหละเพราะผมไม่ชอบทานกาแฟหวานๆ

        Yuzu Coffee โห แก้วนี้สวยมาก น้ำส้มเข้มข้นที่ก้นแก้ว และกาแฟดำแยกเลเยอร์ชัดเจน มีพวกเบอรี่และผลไม้ด้านบนเล็กน้อย เพื่อนผมบอกว่าดื่มแล้วสดชื่นมาก แต่แก้วนี้เหมาะจะเป็นกาแฟแก้วที่สองของวัน เพราะความเป็นกาแฟนั้นไม่เข้มมากนัก เจอจางกับน้ำส้มแล้วออกมากำลังดีเลย ส่วน Banoffee shake เป็นเมนูในโหมดสมูทตี้ ต้องชื่นชมจริงๆ ว่าร้านนี้เค้าทำเมนูออกมาหน้าตาดีมากจริงๆ เพื่อนผมบอกว่าอร่อยนะ สดชื่น เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของคนไม่ดื่มกาแฟได้ดีเลย

        หลังทานกันเสร็จได้ข้อสรุปกันแล้วว่า ตกหลุมรักร้านนี้เข้าแล้วสิ เพราะนอกจากร้านจะสวย เดินทางมาง่าย อาหารยังอร่อยถูกปากอีก ไม่ได้แค่ตกแต่งร้านให้มาถ่ายรูปอย่างเดียว แต่อาหารแต่ละอย่างของร้านอยู่ในมาตรฐานคำว่าอร่อยเลยแหละ แถมราคาก็ไม่แพงด้วยหลักร้อยต้นๆ เอง เออจบอกว่าอาหารอ่ะมีให้เลือกเยอะนะครับ พวกอาหารไทยก็มี ต้มนำ ส้มตำ ก็มี ขนมก็มี เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็มีเช่นกัน เมนูตัดเต็มมากกก 

        ปล.แต่ทางร้านมี Service charge 10% และ Vat 7% ด้วยนะ 

        เอาเป็นว่าใครกำลังมองหาร้านคาเฟ่หรือร้านอาหารดีๆ วิวสวยๆ ราคาไม่แพงมากในกรุงเทพสักร้าน Tsai Eatery Cafe &  restaurant  เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ ที่อยากให้ลองมาสัมผัสกันครับ

        พิกัด ซอยสมเด็จเจ้าพระยา 3 

        Google Maps 

        เปิดทุกวัน 10.00-23.00น.

        มีที่จอดรถหน้าร้าน