สิ่งหนึ่งที่ผมชอบมากของรัฐบาลต่างประเทศคือการที่เค้าหยิบจับเอาของเก่ามาทำให้มันดูใหม่ ประยุกต์สองขั้วทางวัฒนธรรมมาไว้ในที่เดียวกันอย่างลงตัวนี่แหละครับ
จะเห็นว่าสิ่งก่อสร้างนานปีของต่างประเทศเค้ามีการหยิบเอามาปรับโฉมให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบัน เป็นสเปซสาธารณะที่ประชากรในบ้านเมืองเค้าสามารถเข้าถึงได้
ไม่ใช่การสร้างอะไรสักอย่างขึ้นมาแล้วปล่อยให้มันตั้งอยู่อย่างนั้น ทำให้มันดูเข้าถึงยาก ห้ามใช้ทำโน่นทำนี่ สุดท้ายคนก็ไม่อยากเฉียดเข้าใกล้ กลายเป็นว่าร้างไปตามกาลเวลา
อย่างล่าสุดที่ผมไปเจอมาก็คือโปรเจ็คต์ของทางรัฐบาลฝรั่งเศสที่ขมวดรวมเอาห้องสมุดกับอาคารเก่ามารวมไว้ด้วยกันอย่างลงตั๊วววลงตัว
ถ้าพูดถึงห้องสมุดของฝรั่งเศส แน่นอนว่าคนที่พอจะคลุกคลีหรือสนใจในวงการนี้หน่อยล่ะก็จะต้องนึกถึง Bibliothèque Nationale de France หรือ National French Library ห้องสมุดแห่งชาติก่อนเป็นอันดับแรก
National French Library แจ่มแมวขนาดไหนนั้นก็ต้องบอกว่าที่นี่คือ 1 ในห้องสมุดที่มีขนาดใหญ่และทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยล่ะ
ในห้องสมุดสุดอลังหารอย่างกับหลุดมาจากโลกเวทมนต์ในแฮร์รี่ พอตเตอร์นี้เก็บเอกสารต่างๆ ไว้กว่า 20 ล้านฉบับ มีทรัพยากรสารสนเทศให้บริการกว่า 14 ล้านรายการ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ เอกสารต้นฉบับ แผนที่ หรือสื่อมัลติมีเดียก็มีหมด
ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นสถานที่เก็บรวบรวมสื่อรายการสำคัญและหายากของฝรั่งเศสเอาไว้อีกมากมาย
แต่ National French Library นั้นก็โยกย้ายมาแล้วหลายครั้งครับ สุดท้ายก็มาจบที่ปารีส และเพราะว่าหนังสือกับเอกสารทั้งหลายมันมีเยอะมากกกกกกอย่างที่บอกไป ทำให้เค้าต้องแบ่งไปไว้ในหลายสถานที่
และส่วนหนึ่งของห้องสมุดก็มาอยู่ที่ Richelieu ใกล้กันกับพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ อาคารเก่าแก่อายุกว่า 300 ปี และเพื่อให้ National French Library เป็นสถานที่สาธารณะของประชาชนภายใต้การดูแลของกระทรวงวัฒนธรรม รัฐบาลฝรั่งเศสจึงเริ่มต้นโปรเจ็คต์รีโนเวทขึ้นมา
โดยโปรเจ็คต์นี้เป็นหนึ่งในโปรเจ็คต์สำคัญที่นำโดยกระทรวงวัฒนธรรมและการสื่อสารของฝรั่งเศส ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงศึกษาธิการ อุดมศึกษา และการวิจัยแห่งชาติ สถาปนิกที่รับผิดชอบการปรับปรุงคือ Atelier Bruno Gaudin พร้อมด้วย EGIS, CASSO และ 8'18
ผู้ที่จะเข้ามาเยี่ยมเยียนสามารถเดินทางมาจากทางพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ไปยังโรงละครโอเปร่า ใกล้กับ Palais-Royal และ Comédie Française โดยทางเข้าสองทางบน Rue Vivienne และ Rue de Richelieu จะกลายเป็นจุดโฟกัสในเมืองที่เชื้อเชิญให้ผู้สัญจรได้เข้ามาค้นพบมรดกอันโดดเด่นใจกลางกรุงปารีสครับ
เป็นเวลากว่า 10 ปีในการรีโนเวทห้องสมุดอายุ 300 ปีแห่งนี้ ในภาพรวมคือการปรับปรุงในเรื่องของการคงความงดงามของประวัติศาสตร์และศิลปะ เก่าผสานใหม่เอาไว้ด้วยกัน
ช่วงแรกของงานเกิดขึ้นระหว่างปี 2011 - 2016 รวมถึงการปรับปรุงครึ่งหนึ่งของอาคารที่ตั้งอยู่ริมถนน Rue de Richelieu ซึ่งรวมถึงพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ ร้านหนังสือ คาเฟ่ พื้นที่การศึกษา และร้านค้าเชิงพาณิชย์ ตั้งแต่ปี 2017 - 2021 ได้มีการปรับปรุงพื้นที่ครึ่งหนึ่งของอาคารที่ตั้งอยู่ริมถนน Rue Vivienne รวมถึงแกลเลอรี Mazarine, The Oval Room, The King's Cabinet, The Vivienne Garden และพิพิธภัณฑ์
มีการสร้างคอลเลกชันโดยเฉพาะสำเนาของผลงานที่ตีพิมพ์ในฝรั่งเศสซึ่งเค้าต้องนำไปฝากไว้ตามกฎหมายอนุรักษ์และเผยแพร่ต่อสาธารณะ มีการจัดทำแคตตาล็อกอ้างอิงโดยการร่วมมือกับสถานประกอบการระดับชาติรวมไปถึงระดับนานาชาติ
เพราะว่าเผื่อใครไม่ทราบนะครับ ห้องสมุดแห่งนี้เค้าเก็บสะสมหนังสือ 1 เล่มจากทุกๆ สำนักพิมพ์ในฝรั่งเศสมาตั้งแต่ปี 1537 แถมยังมีพวกคอลเลคชันแผนที่ ภาพวาด แผ่นเพลง แผ่นเสียง เหรียญรางวัล และวัตถุโบราณอีกเพียบครับ
ถ้าถามว่าทำไมใช้เวลารีโนเวทไปร่วม 10 ปี ก็คงต้องบอกว่านี่เป็นโปรเจ็คยักษ์ใหญ่ของทางรัฐบาลฝรั่งเศสครับ เพราะว่า National French Library นั้นเป็นห้องสมุดที่มีขนาดใหญ่กว่า 58,000 ตร.ม. เรียกว่าสุดจะกว้างเลยทีเดียว
ยังไม่รวมไปถึงเอกสารต่างๆ ที่เก็บเอาไว้มากมายอย่างที่บอกไปข้างต้น ทำให้การรีโนเวทครั้งนี้ต้องเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆ ทำตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อย และล่าสุดก็พร้อมเปิดให้ประชาชนเข้าใช้ได้ในซัมเมอร์ปีหน้า หรือก็คือปี 2022 แล้ว (จริงๆ คือเปิดให้เข้าในปี 2017 รอบนึงแล้วล่ะ แต่ปีหน้าน่าจะฟูลออฟชั่น 555)
ส่วนภาพที่เอามาฝากกันนั้นเป็นภาพของช่างภาพ Franck Bohbot ที่ได้แบ่งปันภาพถ่ายกับทาง ArchDaily เป็นภาพของ National French Library พร้อมกับการตกแต่งพื้นที่ภายในที่ว่างเปล่าทั้งหมดก่อนการปรับปรุงใหม่ครับ
แค่เห็นก็รู้สึกอยากไปเยือนแล้วล่ะ ต่อให้ไม่ได้ไปอ่านหนังสือแต่ได้แวะไปดูด้วยตาจริงๆ สักหนผมก็ว่าคุ้มแล้วนะ
Credit: ArchDaily
Tag :
“โอ้โห ได้วิวนี้เลยเรอะ คอนโดอยู่ตรงนี้เลยจริงดิ นี่มันอยู่ท่ามกลางดง รีสอร์ท โรงแรม เลยนะ“ ผมเผลอหลุดปากออกมา เมื่อได้เห็นภาพโครงการครั้งแรก
"LIFE สาทร - นราธิวาส 22"...นี่น่าจะเป็น คอนโด LIFE ที่มีคนสนใจมากที่สุดในปี 2025
"KAVALON" พัฒนาโดย "เจ้าพ่อแคมปัสคอนโด" แห่งยุคอย่าง AssetWise ซึ่งนี่ก็เป็นโครงการที่ 6 แล้ว ในโซน ม.กรุงเทพ รังสิต
ในที่สุดที่ดินตรงหัวมุมพญาไท ต้นซอยรางน้ำ ที่ล้อมรั้วกันที่ไว้นานน๊านนานแล้วก็ลุ้นกันอยู่เป็นปีว่าจะขึ้นโปรเจกต์อะไร สรุปวันนี้ก็ได้ออกหัวออกก้อยแล้วในที่สุดครับ
ถ้าใครแวะไปสีลมจะเห็นได้ว่าเดิมทีมันมีที่ดินว่างติด BTS ศาลาแดง บริเวณข้าง Silom Complex อยู่
เอ๊ะ!! ปีนี้แบรนด์ 'Life' จาก AP มาติดๆ กันเลยแหะ!!
"MX27" ช่วง "อโศก-พร้อมพงษ์" นี่มันดงโรงแรมชัดๆ
เหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา แม้ว่าจุดศูนย์กลางจะอยู่ที่ประเทศเมียนมาร์ แต่แผ่นดินไหวครั้งนี้ กลับรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้ถึงกรุงเทพมหานคร ที่อยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางไกลนับพันกิโลเมตร
เมื่อคนซาก็ได้เวลาไปกิน "CHICHA San Chen" ชานมไต้หวันฉบับออริจิ้นเทียบเท่ามิชลิน 3 ดาว!
วันก่อนไปเจอคาเฟ่หนึ่งมาครับ ชื่อร้านว่า Second Cafe Wanglang ไม่ใกล้ไม่ไกล อยู่ตรอกวัดระฆัง ตรงวังหลังนี่เอง
เปิดประสบการณ์ "Pavilion Luncheon Experience" เซ็ตอาหารไทยเบาๆ 4 ที่จากโรงแรม Dusit Thani Bangkok
ใครจะไปอินช่วงเทศกาลเท่า 'คริสปี้ ครีม' ล่าสุดเข้าเดือนเมษายน ก็ส่งโดนัทและเครื่องดื่มแบบไทยๆ 4 รสชาติ ต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ กับ Thai Sweet Selection