เป็นข่าวใหญ่ที่ผมถึงกลับตาโพลงเมื่อคืนที่ผ่านมาเลยครับ เพราะเจ้าพ่อ Facebook อย่างพี่มาร์ก (Mark Zuckerberg) ประกาศรีแบรนด์ทิ้งท้ายในงานใหญ่ประจำปี Connect 2021
โดยจะเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่จากเดิม Facebook เป็น "Meta" ซึ่งในภาษากรีกมีความหมายว่า "เหนือกว่า" เพื่อปรับทิศทางธุรกิจเข้าสู่โลก Metaverse อย่างเต็มตัว!!!
อย่าเพิ่งตกใจกันไปนะครับ เพราะเบื้องต้นการเปลี่ยนชื่อครั้งนี้จะเปลี่ยนแค่ชื่อบริษัทเท่านั้น ทางด้าน Facebook ที่เพื่อน ๆ ใช้งานอยู่นี้ยังใช้ชื่อเดิมอยู่นะ
ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ก็เพื่อเป็นการสื่อถึงภาพลักษณ์ของบริษัท ที่จะไม่ได้โฟกัสที่การผลิตโซเชียลมีเดียเหมือนที่ผ่านมาอีกต่อไปอีกต่อไป
แต่เป็นการเตรียมตัวพัฒนาไปสู่โลกของ Metaverse ที่จะเชื่อมต่อคนจากทุกมุมโลกในรูปแบบโลกเสมือน ประมาณหนังเรื่อง Player Ready One อะไรประมาณนั้น
ถ้ายังนึกไม่ออก คอนโดติดดอย ของเราเคยทำบทความ "Metaverse คืออะไร ติดดอยสรุปให้ รู้ครบในโพสเดียว!!!" ตามไปอ่านกันได้ที่ คลิก!!!
อธิบายย่อ ๆ ก็คือโลกเสมือนที่เราสามารถเข้าไปทำกิจกรรมต่างๆร่วมกันกับเพื่อนได้ ไม่ใช่ชื่อแอปพลิเคชั่นใหม่ แต่เป็นโลกอีกใบที่เราสารถสร้างตัวต้นได้!
และเมื่อมีตัวต้น เราก็สามารถผลิต ซื้อ-ขาย ครอบครองสินทรัพย์ (NFT Assets) ในนั้นได้ด้วย ซึ่งในอนาคตอาจจะเป็นบ้าน เป็นอาคาร หรือเมืองทั้งเมืองในโลกเสมือนก็เป็นได้
"Meta" สะเทือนโลกยังไง
บอกตามตรงว่าตอนนี้ยังไม่สะเทือนหรอกครับ เทียบเป็นแผ่นดินไหวก็ยังเบา ๆ ไม่รู้สึกตัวเลยด้วยซ้ำ แต่อนาคตนี่แหละ 'สึนามิ' ยังเรียกพี่เลย
เพราะแค่ "Meta" ที่พี่มาร์กเพิ่งเปลี่ยนชื่อก็ได้นิยามไว้ว่าเหมือนเป็นโลกอนาคตของ interface และจะเป็น vision ใหม่ต่อไปเพื่อสร้างจินตนาการ
ซึ่งมันจะเป็นจุดเปลี่ยนของโลกที่สามารถสร้างโอกาสให้กับผู้ใช้ในการใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นครีเอเตอร์, นักพัฒนา, นักธุรกิจ และอื่น ๆ อีกมากมาย
โดยในงาน Connect 2021 ที่ผ่านมา พี่มาร์กก็ได้ยกตัวอย่าง Horizon Workroom ออฟฟิศแห่งอนาคตที่ได้เปิดตัวไปหลายเดือนก่อน
ซึ่งความว๊าวก็คือเค้าเพิ่มแนวคิดใหม่ ‘Horizon Home’ บ้านที่เหนือจินตนาการ ออกแบบตัวอวตารหรือเจอเพื่อน ๆ ได้ด้วยเทคโนโลยี AR และ VR ด้วยนะ
อีกหน่อยเราก็จะสามารถมีปฎิสมัพันธ์กับโลกภายนอกได้อย่างอิสระแม้อยู่แค่ที่บ้าน จะเล่นกีฬา เข้าคลาสเรียน ทดลองผ่าตัดห็ทำได้หมด หรือจะเป็น virtual marketplace (ตลาดเสมือนจริง) ที่คาดว่าจะเปิดตัวปี 2022 ก็เช่นกัน
ทิศทางธุรกิจของ "Meta"
อย่างที่ได้บอกไปตอนต้นครับว่าการเปลี่ยนจาก Facebook มาเป็น Meta ในครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนชื่อบริษัทเท่านั้น ด้านทิศทางธุกิจยังคงต้องจับตาต่อไป
แต่ล่าสุดเห็นว่ามีการประกาศรับสมัครพนักงานใหม่สำหรับฝ่าย Metaverse จำนวนมากถึง 10,000 คนเลยทีเดียว เยอะม๊ากกกกกกกกกกกกก!!!
นอกจากนี้ Meta ยังทุ่มเงินลงทุนไปอีกกว่า 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อโปรแกรมสำหรับผู้สร้าง AR และ VR โดยเฉพาะด้วยนะ
ส่วนตัวแล้วผมเชื่อว่าการแข่งขันในธุรกิจโซเชียลมีเดียน่าจะเดือดมากขึ้นไปอีก Meta ค่ายเดียวก็ทุ่มขนาดนี้ แต่ยังมีอีกหลาบบริษัทที่ซุ่มทำรอเปิดตัวกันอยู่เหมือนกัน
ส่วนด้านผลิตภัณฑ์นั้น นอกจากแว่นกันแดดที่พัฒนาร่วมกับ Rayban แล้ว ตอนนี้ Facebook เองก็กำลังพัฒนาแว่น AR ที่มีความสามารถสูงอยู่
รวมถึงพัฒนา 'ริสแบนด์ EMG' ซึ่งเป็นกำไลข้อมือที่เราแค่ใส่ไว้ ก็สามารถพิมหรือหยิบจับสิ่งของในโลกเสมือนได้ เมื่อมาใช้คู่กันแล้วนั่นแหละ "พีค" ของจริงเลย 55555
สรุป "เรียกข้าว่า Meta"
ทั้งหมดทั้งมวลที่ผมเล่ามานั้น... ตอนนี้พวกเราก็สามารถใช้งาน และท่องโลกโซเชียลมีเดียผ่านทาง Facebook ได้เหมือนเดิมที่ผ่านมานั่นแหละ
เพียงแต่บริษัทใหญ่เค้าประกาศเปลี่ยนชื่อเป็น "Mata" เพื่อเปิดมุมมองว่าเค้าจะไม่หยุดแค่โซเชี่ยวมีเดียแบบเดิม ๆ ละนะ จะเตรียมพร้อมก้าวไปสู่โลกแห่ง Metaverse แล้ว
ทั้งนี้ส่วนหนึ่งที่เค้ายังไม่เปิดโลกเสมือน Metaverse ให้เราใช้งานกันก็เพราะมันยังเป็นเทคโนโลยีในอนาคตด้วย หลายสิ่งหลายอย่างยังไม่พร้อมที่จะใช้งานได้จริง
รวมไปถึงการเข้าสู่โลกเสมือนใบใหม่นี้ต้องใช้เครื่องมือและอุปกรณ์พิเศษ ไม่ได้ใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนที่ใคร ๆ ก็มี คงต้องใช้เวลาเพื่อพัฒนาให้อุปกรณ์มีราคาน่ารักเข้าถึงง่ายกว่านี้หน่อย
ผมว่าภายในไม่กี่ปีข้างหน้านี่แหละ โลกเสมือน Metaverse น่าจะเป็นรูปเป็นร่าง และมีอุปกรณ์ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ออกมาให้เลือกหลายเจ้าเลยทีเดียว
ซึ่งเมื่อมารวมกับเทคโนโลยี Blockchain ความมาแรงของ Crypto currency กับ NFT บอกเลยว่า Metaverse จะเข้ามาผสมผสานทุกอย่างเข้าด้วยกันอย่างแน่นอนครับผม
สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนอยากตามไปดูพี่มาร์กแบบเต็ม ๆ ก็ตามไปดูได้เลยที่ คลิก!!! ลุ๊ยยยยยย :)
เคยมีคนถามผมว่า "สมัยนี้ ยังสามารถสร้างคอนโดที่ไม่ใกล้รถไฟฟ้าได้ไหม?" ได้สิ เพราะแม้ว่าความใกล้ รถไฟฟ้า จะเป็น 1 ในปัจจัยหลักที่สำคัญมาก แต่มันก็ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ "ขาย" ได้อยู่อีก
จะมีคอนโดปล่อยเช่าอยู่อันนึง ที่แม้แต่ตอนโควิดก็ไม่มีผลอะไร มีคนเช่าตลอดๆ แทบไม่มีช่วงว่าง บางครั้งคือ คนเก่าย้ายออกตอนเช้า ตอนเย็นคนใหม่ใส่หน้ากากอนามัยขนของเข้าอยู่ต่อเลย
หลังจากที่ผมถ่ายรูปห้องตัวอย่างใน Sales Gallery เสร็จ ผมก็หันไปบอกกับคุณบี ที่มาด้วยกัน เชื่อไหมว่า แป๊บๆ เดี๋ยวก็ Sold Out!!
หน้าร้อนซัมเมอร์มันก็ต้องคู่กับทะเล ผมฝันไว้เสมอนะว่าอยากมีคอนโดตากอากาศ แต่ปัญหาก็คือคอนโดติดทะเลส่วนใหญ่มีราคาแรงมาก
หลังจากปล่อย "KLOS Ratchada" ไปไม่นาน "Frasers Property" ก็ได้ฤกษ์เตรียมผุดคอนโดแบรนด์ KLOS แห่งที่ 2 ต่อทันทีครับ
นับตั้งแต่เมืองเริ่มขยายตัวออก พื้นที่ที่หลายคนเคยมองข้ามก็กลายเป็นว่าเริ่มเนื้อหอมขึ้นเรื่อยๆ
"Osaka Expo 2025" ตำนานบทใหม่ของญี่ปุ่น เปลี่ยนเกาะเทียมธรรมดาให้กลายเป็นเมืองขนาดย่อม
เทรนด์อาคารอนุรักษ์พลังงานยังคงมีมาให้เห็นกันเรื่อยๆ และล้ำหน้ามากขึ้นทุกวันๆ และหนึ่งในโปรเจ็คที่น่าตื่นตาตื่นใจและควรค่าให้หยิบมาพูดถึงกันในวันนี้คือ "505 State Street" ครับ
ในวินาทีที่ผมย่างเท้าเข้ามาชมห้องตัวอย่างของโครงการ "Amatara Residences Rayong" (อมาธารา เรสซิเดนเซส ระยอง) บอกตามตรงว่าแอบคิดลึกๆ ในใจว่า 'นี่มันอีกระดับของที่พักตากอากาศแล้ว'
หลังจากสร้างเสียงฮือฮาแก่ชาวโลกจากโครงการ The Line เมืองภายใต้กำแพงยักษ์จากประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งโครงการนี้เป็นอยู่ภายใต้โครงการ Neom ซึ่งเป็นโครงการที่ทางซาอุฯ หมายมั่นให้เป็นเมืองใหม่ที่มาจากโลกอนาคตนั่นเอง แต่มันจะหยุดอยู่แค่ The Line ไม่ได้ครับ เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งอนาคต ความล้ำจะต้องไปสุดกว่านี้ ล่าสุดทาง Neom ส่งอีก Golf Community มาเพิ่มอีก!!
เรากำลังจะมีสวนสนุกธีม Dragon Ball แห่งแรกของโลกแล้วครับ! แถมยังการันตีว่าใหญ่กว่าดิสนีย์แลนด์ด้วย!
ร้อนๆ แบบนี้ ถ้าได้เครื่องดื่มเย็นๆ สักแก้วดับร้อนนี่บอกเลยว่าสดชื่นมากกกกก ยิ่งถ้าได้เครื่องดื่มสไตล์ไทยๆ นี่แหละตอบโจทย์เลย!!!!