พีดีเฮ้าส์ เค้าออกมาเผยครับว่าสงครามราคาตลาดรับสร้างบ้านในกรุงเทพฯเดือดสุด ๆ จนตอนนี้ขอเร่งปรับกลยุทธ์หันรุกตลาดต่างจังหวัดเพื่อรองรับความต้องการบ้านหลังสองควบคู่ไปด้วย

        โดยจากการรวบรวมข้อมูลพบว่า ผู้บริโภคที่เคยวางแผนจะสร้างบ้านในช่วงครึ่งปีหลังส่วนใหญ่เลือกที่ชะลอการตัดสินใจปลูกสร้างบ้านออกไปก่อน ด้วยเหตุผลรอดูความชัดเจนของนโยบายภาครัฐในการบริหารจัดการโควิด-19 และมีความกังวลว่าเศรษฐกิจประเทศจะฟื้นตัวได้ช้า

        ซึ่งการที่คนต้องทำงานที่บ้านก็มีข้อดีตรงที่ทำให้ความต้องการสร้างบ้านหลังที่ 2 ในต่างจังหวัดขยายตัวขึ้นตามลำดับในช่วงปีนี้ และในอนาคตบริษัทจึงปรับกลยุทธ์ในการสื่อสารถึงความแตกต่างและมาตรฐานด้านการให้บริการก่อน-หลังการขาย 

        รวมไปถึงกระบวนการก่อสร้าง คุณภาพผลงานเมื่อสร้างแล้วเสร็จ และทีมงานผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าเป้าหมายเฉพาะกลุ่มมากขึ้น ภายใต้แบรนด์พีดีเฮ้าส์ ที่มีสาขาให้บริการทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งในต่างจังหวัด

        นอกจากนี้ ยังเพิ่มการให้บริการออกแบบ-ตกแต่งภายในและจัดสวนแบบครบวงจร ซึ่งจากการปรับกลยุทธ์แข่งขันดังกล่าว ส่งผลให้สามารถทำยอดขายบ้านในไตรมาส 3 คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 210 ล้านบาทเติบโตสวนทางกับตลาดที่ซบเซาและทำให้ยอดขาย 9 เดือนที่ผ่านมา มีมูลค่ารวมทุกสาขาเกือบ 800 ล้านบาท 

        โดยลูกค้าที่ใช้บริการสร้างบ้านจำแนกออกเป็นกลุ่มราคาบ้าน 2-3 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 18% กลุ่มราคาบ้าน 3-5 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 38% กลุ่มราคา 5-10 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 36% และกลุ่มราคาบ้าน 10 ล้านบาทขึ้นไป คิดเป็น 8% ครับผม