ไปต่อหรือพอแค่นี้? ปัญหาหนักใจสำหรับคนที่ผ่อนบ้านไม่ไหว ทำอย่างไรได้บ้าง

ไปต่อหรือพอแค่นี้? ปัญหาหนักใจสำหรับคนที่ผ่อนบ้านไม่ไหว ทำอย่างไรได้บ้าง

Home   /   ติดดอยมีเงิน

โซน : 15 Oct 2021   17:14

F_20211006_020

 

        ฝันร้ายสำหรับคนผ่อนบ้านคงหนีไม่พ้นวิกฤตสภาพคล่องทางการเงิน บางคนกว่าจะยื่นกู้ผ่าน กว่าจะจัดการจนถึงขั้นผ่อนบ้าน ก็ฟันฝ่ามาหลายอุปสรรคแล้ว

        คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ ที่หากวันหนึ่ง บ้านที่เป็นความฝันของเรา จะสลายลงไปในพริบตาเนื่องจากวิกฤตทางการเงินที่ทำให้ไม่สามารถแบกรับภาระหนี้สินไหว ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทุกคนมีโอกาสจะเจอได้ แม้กระทั่งคนที่ตอนนี้ยังคงสบายๆ ไม่มีปัญหา ในอนาคต ก็อาจจะเผชิญปัญหาเช่นนี้ได้เหมือนกัน

        ผมเชื่อว่าช่วงนี้คงมีคนกำลังเผชิญวิกฤตนี้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนครับ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในช่วงนี้ ส่งผลให้หลายๆ คนขาดรายได้ หรือมีรายได้ที่น้อยลงกว่าเดิม ปัญหาที่ตามมาของคนมีหนี้ คงหนีไม่พ้นการตั้งคำถามว่า ควรไปต่อ หรือ พอแค่นี้ ในภาวะที่การเงินมีปัญหา

        บ้านจะโดนยึดไหม? จะเสียเครดิตหรือเปล่า? จะถูกฟ้องร้องหรือไม่? ฯลฯ คำถามเหล่านี้จะเริ่มถาโถมเข้ามาทันทีครับ ซึ่งวันนี้เราจะมาหาทางออกร่วมกัน และเจาะปัญหาว่า หากวันหนึ่งเราต้องมาพบเจอสถานการณ์ที่เหมือนเป็นฝันร้ายแบบนี้ ควรจะเลือกทางไหนดีให้เสียหายน้อยที่สุด หรือ กรณีที่ไม่ทันแล้วโดนฟ้อง หรือ กำลังจะโดนยึดแล้ว ก็ยังมีทางออกครับ ว่าแต่จะมีทางออกไหนย้าง มาดูกันฮะ

 

F_20211006_024

 

        ประเมินสถานการณ์ตัวเองก่อน

        ขั้นแรกที่ผมแนะนำสำหรับคนที่กำลังเผชิญปัญหานี้คือให้ตั้งสติก่อนครับ รู้ว่าเห้ย เจอแบบนี้ใครๆ ก็เครียดทั้งนั้น แต่สิ่งที่สำคัญคือตั้งสติ แล้วมาประเมินปัญหาที่เราเจอก่อน เมื่อรายได้ที่เคยได้รับในแต่ละเดือนลดน้อยลง แนะนำให้เราเริ่มลิสต์รายจ่ายของตัวเองก่อน หลังจากเราลิสต์รายจ่ายตัวเองปุ๊บ เราก็จะรู้ว่าเงินที่เราเหลือเนี้ย มันจะพอกับภาระ "หนี้" ของเราไหม? ถ้าไม่ถึง!! มันขาดเหลือเท่าไหร่ อันนี้แทบจะเป็นวิธีเบสิคที่บางคน ไม่ค่อยทำครับ 

        อ่ะทีนี้พอเรารู้แล้วว่าเราขาดสภาพคล่อง เหลือเงินไม่ครอบคลุมภาระหนี้เท่าไหร่ปุ๊บ ทีนี้ก็จะวางแผนในสเต็ปต่อไปง่ายนั่นเอง หรือบางคน ที่พอเช็คลิสต์รายจ่ายแล้ว อาจจะสามารถตัดรายการที่ไม่จำเป็นได้ อันนี้บางคนอาจจะสามารถแก้ปัญหาได้ตั้งแต่ Process นี้เลยก็ได้นะ แต่ใครที่หักรายการค่าใช้จ่ายบางส่วนออกไปแล้ว แต่เงินก็ยังไม่พอใช้หนี้อยู่ดี อย่าเครียดครับ ไปที่สเต็ปถัดไปก่อน

 

        ติดต่อธนาคารเพื่อขอประนอมหนี้

        บอกแล้วครับว่าให้ตั้งสติ อย่าเพิ่งเครียด เพราะกรณีนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ดังนั้นธนาคารเค้าเลยมีมาตรการให้เราสามารถประนอมหนี้ได้ กรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ซึ่งหลังจากที่เราประเมินตัวเองเบื้องต้นแล้วว่า ยังไงเราก็ไม่มีกำลังในการผ่อนต่อไหวแน่ๆ ให้เราติดต่อธนาคารเจ้าของหนี้และทำการปรึกษาเลยครับ 

 

F_20211006_021

 

        ซึ่งส่วนมาก ธนาคารจะแนะนำเราก็จะมีประมาณนี้

        1.ขอผ่อนชำระยอดหนี้ค้าง 

        ลูกหนี้สามารถขอผ่อนชำระคืนยอดหนี้ที่ค้างได้นานสูงสุด 36 เดือนติดต่อกัน อันนี้เราสามารถแบ่งวิธีย่อยออกมาได้อีกนะ เช่น ให้เราทำการเฉลี่ยหนี้ที่ค้างชำระทั้งหมดออกมาเป็นงวดๆ แต่ละงวดให้เท่ากัน แล้วผ่อนคืนติดต่อกันทุกงวด หรือ เราจะขอจ่ายทั้งหมดเป็นเงินก้อนตามเวลาที่เราตกลง หรือแบ่งจ่ายเงินก้อนเป็นงวดก็ได้

        2. ยื่นขอขยายระยะเวลาในการผ่อนชำระ 

        ในฐานะที่เราเป็นลูกหนี้ เราสามารถขอเค้าเพื่อขยายระยะเวลากู้เงินต่อไปได้ถึง 30 ปี ซึ่งอันนี้จะดีตรงที่มันจะลดเงินค่างวดจองเราให้น้อยลง ซึ่งอาจจะช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายสำหรับคนที่กำลังประสบปัญหานี้ได้ แต่!! ข้อนี้ก็มีเงื่อนไขอีกครับ คือไม่ใช่ว่าทุกคนนะ ที่จะขอยื่นขยายระยะเวลาในการผ่อนได้ เงื่อนไขคืออายุของเราที่เป็นผู้กู้ เมื่อรวมกับระยะเวลาที่เราขอขยายแล้วจะต้องไปเกิน 70 ปีและหากมีดอกเบี้ยที่ค้างต้องชำระให้หมดก่อนนะครับ

         3. ขอกู้เพิ่มเพื่อชำระดอกเบี้ยที่เราค้างชำระ

        ถ้าหากเราไม่สามารถชำระดอกเบี้ยที่ค้างทั้งหมดได้ เราสามารถขอกู้เพิ่มเพื่อชำระดอกเบี้ยที่ค้างชำระพร้อมกับขยายระยะเวลากู้เงินได้ แต่ข้อนี้ก็มีเงื่อนไขอีกครับว่าเราจะต้องชำระเงินงวดให้ปกติและสม่ำเสมอ อย่างน้อย 3 เดือนก่อน ส่วนวงเงินที่เราขอกู้เพิ่มเมื่อรวมกับเงินต้นคงเหลือ จะเพิ่มขึ้นได้ไม่เกิน 25% ของเงินงวดเดิมนะ

        4. ขอชำระแต่ดอกเบี้ย

        เราสามารถขอผ่อนชำระแค่ดอกเบี้ยรายเดือนได้นะครับ เผื่อใครยังไม่รู้ แต่ว่าไม่ใช่ว่าทุกคนจะแจ้งธนาคารขอชำระแค่ดอกเบี้ยได้นะ ทางออกนี้เหมาะสำหรับคนที่มีประวัติการจ่ายหนี้ที่ดี หรือตรงเวลาเท่านั้น ซึ่งจะมีระยะเวลาผ่อนผันชำระจะให้ได้นานสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน และขอได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นนะครับ

        5. ขอชำระต่ำกว่าเงินงวดปกติ

        เวลาที่เราขอผ่อนผันชำระเงินงวดต่ำกว่าปกติ เค้าจะกำหนดให้จำนวนเงินที่เราจะต้องชำระ มากกว่าดอกเบี้ยในแต่ละเดือนตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป และระยะเวลาผ่อนชำระนานสูงสุดไม่เกิน 2 ปีและขอดำเนินการได้เพียงครั้งเดียวเหมือนข้อ 4 เลยครับ

        6. ขอลดอัตราดอกเบี้ยเป็นกรณีพิเศษ

        เคสนี้คือการขอผ่อนผันในกรณีที่หากเราถูกปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงขึ้นจากอัตราปกติ ให้เราทำการขดลดอัตราดอกเบี้ยในวันที่ชำระเงินได้เลยครับ ถ้าหากว่าเราชำระได้ตามเงื่อนไข คือเราชำระหนี้ที่ค้างทั้งหมดได้ในวันเดียว แต่อันนี้เค้าจะรวมทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยค้างเลยนะ หรือว่าเราจะชำระเป็นเงินก้อนก็ได้นะ แต่ว่าจะต้องแบ่งจ่ายเป็นจำนวนเท่าๆ กัน 3 งวดครับ

        7 .ขอโอนบ้านให้ธนาคารเป็นการชั่วคราว

        อย่าเพิ่งตกใจครับ มันไม่ได้หมายถึงเราให้คืนบ้านให้ธนาคารหรือโดนยึด หลายคนพอบอกแบบนี้กังวลไม่น้อยเลย อันนี้ถือเป็นวิธีการปรับโครงสร้างหนี้รูปแบบหนึ่ง คือถ้าเกิดว่าพิจารณาแล้วว่าเราไปต่อไม่ไหว ผ่อนต่อไม่ไหวจริงๆ เราสามารถโอนเงินให้แก่ธนาคารหรือสถาบันการเงินแล้วค่อยไปขอซื้อคืนทีหลังเอา ซึ่งธนาคารก็จะจะรับโอนหลักประกันโดยหักกลบลบหนี้ในจำนวนไม่เกิน 90% ของมูลค่าหลักประกัน ถ้าเกิดมีหนี้ส่วนเกิน ก็ให้เราจ่ายให้เสร็จภายในวันโอน 

        พอเป็นวิธีนี้หลายคนก็จะกังวลกันใช่ไหมว่า เอ้าแล้วเราจะไปอยู่ไหนอ่ะ ในเมื่อโอนบ้านให้ธนาคารแล้ว? คำตอบคือ อยู่ในบ้านนั่นแหละครับไม่ต้องไปไหน วิธีนี้มีข้อดีคือเรายังสามารถอาศัยอยู่ในบ้านได้ซึ่งเราจะต้องจ่ายเงินให้ธนาคาร อารมณ์เหมือนธนาคารปล่อยเช่าให้เราต่อ ซึ่งก็ไม่ต้องห่วง เพราะค่าเช่าจะต่ำกว่าอัตราผ่อนชำระหนี้เดิม ซึ่งตอนเราซื้อคืนเราก็ยังสามารถขอสินเชื่อกับธนาคารได้อยู่นะ

        8. ขอให้ธนาคารชะลอฟ้อง

        ข้อนี้สำหรับคนที่ค้างชำระมานานจนธนาคารฟ้องบังคับจำนองแล้ว แม้สถานการณ์นี้จะอยู่ในสภาวะตึงเครียดแต่ก็ยังพอหาทางออกได้อยู่ครับ คือเรายังสามารถเจรจากับทางธนาคารให้ชะลอฟ้องไปก่อนได้ แต่ก็ต้องแลกมากับเงื่อนไขที่เยอะหน่อยนะครับ อย่างเราต้องชำระเงินติดต่อกันให้ทันงวดภายใน 6 เดือน แล้วผ่อนต่อตามสัญญาเดิม หรือขอจ่ายแต่ดอกเบี้ยประจำเดือน ซึ่งห้ามผิดนัดไม่เกิน 12 เดือน พอครบกำหนดตามระยะเวลาที่เราขอผ่อนผันและที่ผ่านมาเราชำระหนี้ตามข้อตกลงโดยที่ไม่ขาดส่ง ทางธนาคารก็จะคำนวณเงินงวดใหม่ที่ลูกหนี้ต้องชำระต่อ

         9. ขอให้ธนาคารถอนฟ้อง

        การขอประนอมหนี้แบบนี้มีเงื่อนไขคือเมื่อเราถูกฟ้องจะต้องมาติดต่อชำระหนี้ให้ทันงวดและไม่มีดอกเบี้ยค้าง พร้อมทั้งชำระค่าธรรมเนียมศาลและค่าใช้จ่ายอื่นให้ครบถ้วน ถึงจะถอนฟ้องได้ครับ

        10. ขอให้ชะลอการขายทอดตลาด

        กรณีนี้สำหรับคนที่โดนธนาคารยึดไปแล้วและรอการขายทอดตลาด อันนี้เราก็ยังสามารถไปเจรจาต่อรองให้ธนาคารชะลอการขายไว้ก่อนได้นะ แต่อันนี้ก็ต้องคำนึงก่อนครับว่าเราจะจ่ายทั้ง ธรรมเนียมศาล ค่าใช้จ่ายต่างๆ ในชั้นฟ้องคดีและบังคับคดี หลังจากนี้ก็ต้องชำระหนี้ติดต่อกันไม่น้อยกว่า 6 งวด โดยหนี้ที่เหลือต้องไม่เกินร้อยละ 80 ของราคาประเมินหลักประกันใหม่ก่อนแล้วค่อยให้ลูกหนี้ทำสัญญากู้ใหม่

      11. ขอยอมความกับธนาคาร

        ถ้าสมมุติข้อบนๆ ไม่ทันแล้ว เพราะตอนนี้โดนฟ้องคดีไปเรียบร้อยแล้ว เอ้า ก็ยังมีทางออกฮะ ให้เราขอยอมความกับทางธนาคารไปเลย ซึ่งก็ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในส่วนของการดำเนินคดีและค่าทนายความด้วยนะ แต่ก็จะมีเงื่อนไขอีกก็คือ เราจะต้องชำระหนี้ทั้งหมดและจำนองภายในระยะเวลาที่กำหนด หรือขอผ่อนชำระใหม่แบ่งเบาภาระใน 1-2 ปีแรก แล้วค่อยไปปรับเพิ่มเงินงวดสูงขึ้นจนชำระหนี้เสร็จสิ้นนั่นเองครับ

        12. ขอชะลอการยึดทรัพย์

        กรณีที่เราถูกศาลพิพากษาแล้ว เราอาจจะไปขอชะลอการยึดทรัพย์ไปก่อนได้ครับ ซึ่งเช่นเคยเราต้องจ่ายค่าธรรมเนียมศาล ค่าดำเนินคดี ค่าทนาย ค่าเดินทางของทนาย โดยเราต้องชำระหนี้หมดและถอนจำนองภายในเวลาไม่เกิน 3 เดือน ซึ่งต้องชำระหนี้บางส่วนก่อนตามจำนวนที่เราตกลงไว้ ถ้าราคาประเมินหลักประกันสูงกว่ายอดหนี้เกินร้อยละ 80 อาจทำสัญญากู้ใหม่ได้เมื่อได้ชำระหนี้ตามข้อตกลงกับสถาบันการเงินหรือธนาคารที่เราได้ติดต่อกันแล้วไม่น้อยกว่า 6 งวด

        13. ขอเปลี่ยนตัวลูกหนี้

        ข้อนี้ก็เช่นเดียวกับข้อบนเลยๆ คือเราจะต้องชำระค่าธรรมเนียมศาล และค่าใช้จ่ายใน Process การฟ้องคดีและบังคับคดีให้หมดก่อนนะ ทีนี้ลูกหนี้เดิมจะต้องทำตามขั้นตอนที่เคยไปขอประนอมหนี้ไว้ จากนั้นจึงค่อยไปให้ผู้กู้รายใหม่ยื่นคำขอกู้ต่อไป ตามสัญญากู้ใหม่หรือกู้เพิ่ม

 

F_20211006_022

 

        ทั้งหมดนี้ ต้องบอกเลยว่าผมไม่ได้นั่งเทียนเขียนมาเองนะครับ เพราะทั้ง 13 ที่ผมยกมาบอกเล่าล้วนเป็นข้อมูลจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. ที่เค้าได้ทำการแนะนำไว้แล้ว 

        ยิ่งช่วงโควิดแบบใครที่กำลังเผชิญปัญหาอยู่ก็อย่าเพิ่งท้อนะครับ ทุกปัญหามีทางออกเสมอ ตั้งสติ ใจเย็นๆ และลองประเมินสถานการณ์ของตัวเองก่อน

        จากทั้งหมดที่ผมยกมานี้ เห็นได้ชัดเจนมากๆ ครับว่าแม้ปัญหาในการผ่อนของเราจะอยู่ในขั้นตอนไหน ก็ยังคงมีทางออกครับ ตั้งแต่เริ่มจะผ่อนไม่ไหว ไปจนถึงขั้นฟ้องร้องเลย ใครที่ประสบปัญหาตรงไหน ก็แนะนำว่าให้ตั้งสติก่อน จากนั้นก็เข้าไปปรึกษาธนาคารเลยครับ บางคนพอแบกรับภาระหนี้ไม่ไหว ก็อย่าเพิ่งหนีหายไปดื้อๆ นะครับ ให้รีบติดต่อขอประนอมหนี้เบื้องต้นไว้ได้เลย จากปัญหาเล็กๆ จะได้ไม่ต้องลุกลามเป็นเรื่องใหญ่เนอะ 

F_20211006_025

F_20211006_023

 

 

Tag : ผ่อนบ้านไม่ไหว | ประนอมหนี้บ้าน |



ติดดอยแนะนำ

ติดดอยรีวิว

ทำไม "Supalai Premier สามเสน-ราชวัตร" ยังไงก็ขายหมด

เคยมีคนถามผมว่า "สมัยนี้ ยังสามารถสร้างคอนโดที่ไม่ใกล้รถไฟฟ้าได้ไหม?" ได้สิ เพราะแม้ว่าความใกล้ รถไฟฟ้า จะเป็น 1 ในปัจจัยหลักที่สำคัญมาก แต่มันก็ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ "ขาย" ได้อยู่อีก

หนึ่งในคอนโดที่ปล่อยเช่าดีมาก ตอนเช้าย้ายออก ตอนบ่ายย้ายเข้าเลย

จะมีคอนโดปล่อยเช่าอยู่อันนึง ที่แม้แต่ตอนโควิดก็ไม่มีผลอะไร มีคนเช่าตลอดๆ แทบไม่มีช่วงว่าง บางครั้งคือ คนเก่าย้ายออกตอนเช้า ตอนเย็นคนใหม่ใส่หน้ากากอนามัยขนของเข้าอยู่ต่อเลย

"Kave Wonderland" คอนโดแดนมหัศจรรย์ เพราะอยู่ที่นี่ก็เหมือนได้อยู่สวนสนุกทุกวันไปเลย!

หลังจากที่ผมถ่ายรูปห้องตัวอย่างใน Sales Gallery เสร็จ ผมก็หันไปบอกกับคุณบี ที่มาด้วยกัน เชื่อไหมว่า แป๊บๆ เดี๋ยวก็ Sold Out!!


ติดดอยโร้ดทู

“Lumpini SeaView Cha-am" คอนโดใหม่ใกล้หาดชะอำแค่ 200 เมตร!!!

หน้าร้อนซัมเมอร์มันก็ต้องคู่กับทะเล ผมฝันไว้เสมอนะว่าอยากมีคอนโดตากอากาศ แต่ปัญหาก็คือคอนโดติดทะเลส่วนใหญ่มีราคาแรงมาก

"KLOS Ramintra - Fashion" คอนโดที่มี Fashion Island เป็นเพื่อนบ้าน

หลังจากปล่อย "KLOS Ratchada" ไปไม่นาน "Frasers Property" ก็ได้ฤกษ์เตรียมผุดคอนโดแบรนด์ KLOS แห่งที่ 2 ต่อทันทีครับ

"MUSE สะพานใหม่" ลงจอยทำเลสุดฮอต จองที่ติดรถไฟฟ้า

นับตั้งแต่เมืองเริ่มขยายตัวออก พื้นที่ที่หลายคนเคยมองข้ามก็กลายเป็นว่าเริ่มเนื้อหอมขึ้นเรื่อยๆ


ติดดอยสไตล์

"Osaka Expo 2025" ตำนานบทใหม่ของญี่ปุ่น เปลี่ยนเกาะเทียมธรรมดาให้กลายเป็นเมืองขนาดย่อม

"Osaka Expo 2025" ตำนานบทใหม่ของญี่ปุ่น เปลี่ยนเกาะเทียมธรรมดาให้กลายเป็นเมืองขนาดย่อม

เปิดตัว "505 State Street" ตึกระฟ้าที่ใช้พลังงานไฟฟ้าล้วนแห่งแรกใน New York

เทรนด์อาคารอนุรักษ์พลังงานยังคงมีมาให้เห็นกันเรื่อยๆ และล้ำหน้ามากขึ้นทุกวันๆ และหนึ่งในโปรเจ็คที่น่าตื่นตาตื่นใจและควรค่าให้หยิบมาพูดถึงกันในวันนี้คือ "505 State Street" ครับ

สัมผัสชีวิตเหนือระกับ ที่โครงการ "Amatara Residences Rayong" พูลวิลล่า สไตล์คอนโด วิวทะเล จาก Grande Asset

ในวินาทีที่ผมย่างเท้าเข้ามาชมห้องตัวอย่างของโครงการ "Amatara Residences Rayong" (อมาธารา เรสซิเดนเซส ระยอง) บอกตามตรงว่าแอบคิดลึกๆ ในใจว่า 'นี่มันอีกระดับของที่พักตากอากาศแล้ว'

ที่นี่ซาอุฯ!! "Gidori" โครงการ Golf Community สุดไฮเทค มาพร้อมอาคารทรงแปลกจาก NEOM

หลังจากสร้างเสียงฮือฮาแก่ชาวโลกจากโครงการ The Line เมืองภายใต้กำแพงยักษ์จากประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งโครงการนี้เป็นอยู่ภายใต้โครงการ Neom ซึ่งเป็นโครงการที่ทางซาอุฯ หมายมั่นให้เป็นเมืองใหม่ที่มาจากโลกอนาคตนั่นเอง แต่มันจะหยุดอยู่แค่ The Line ไม่ได้ครับ เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งอนาคต ความล้ำจะต้องไปสุดกว่านี้ ล่าสุดทาง Neom ส่งอีก Golf Community มาเพิ่มอีก!!

มาแล้ว! สวนสนุก Dragon Ball แห่งแรกของโลก งานนี้การันตีใหญ่กว่าดิสนีย์แลนด์!

เรากำลังจะมีสวนสนุกธีม Dragon Ball แห่งแรกของโลกแล้วครับ! แถมยังการันตีว่าใหญ่กว่าดิสนีย์แลนด์ด้วย!

ร้อนนี้แวะมาดับร้อนกับเครื่องดื่มจาก คริสปี้ ครีม กับ THAI SELECTION PERFECT TOGETHER ฟินแบบไทยๆ กับรสชาติที่เราคุ้นเคย

ร้อนๆ แบบนี้ ถ้าได้เครื่องดื่มเย็นๆ สักแก้วดับร้อนนี่บอกเลยว่าสดชื่นมากกกกก ยิ่งถ้าได้เครื่องดื่มสไตล์ไทยๆ นี่แหละตอบโจทย์เลย!!!!


© 2018 CONDOTIDDOI

ME ESTATE CO.,LTD
92/21 HOLLYWOOD STREET CENTER
PHAYATHAI RD. RACHATEVEE
BANGKOK 10400 THAILAND

02-656-6776
condotiddoi@gmail.com

CONTACT US

CONDOTIDDOI

CONDOTIDDOI

CONDOTIDDOI

085-546-4694

info.condotiddoi@gmail.com

Copyright www.condotiddoi.com © 2018
web design & programming by www.smilephp.com