ถ้าจะพูดว่า "Joint Venture" คือโอกาสใหม่ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็ดูจะไม่เกินจริงไปนักครับ

        เพราะพูดไปแล้วอนาคตของวงการพัฒนาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยของบ้านเรานั้น เข้าสู่ยุคที่ต้องหันมาพึ่งพาทุนหนุนจากต่างชาติมากขึ้นแล้ว

        และการเข้ามาของ "Joint Venture" ก็คือจิ๊กซอว์ของการเติบโตอย่างรวดเร็วของดีเวลลอปเปอร์หลายๆ เจ้าในเมืองไทย และพอว่ามาจนถึงตรงนี้ ผมลองนึกๆ ดูก็รู้สึกว่าจะมีกลุ่มบริษัทต่างชาติหลายเจ้าเข้ามาจับมือกันกับฝั่งบ้านเราให้เพียบเลยเหมือนกันนะ

        ถ้าพูดถึงในโซนเอเชีย พันธมิตรธุรกิจอย่างกลุ่มจีนและฮ่องกงเองก็นับว่าอยู่ในอันดับต้นๆ ของการแท็กทีมกันในหลายๆ โครงการเหมือนกัน

        หนึ่งในกลุ่มบริษัทที่เราจะได้ยินชื่อกันบ่อยในการเข้ามามีบทบาทกับโครงการต่างๆ ในบ้านเราค่อนข้างมาก ผมว่าน่าจะหนีไม่พ้น "ฮ่องกง แลนด์" นี่แหละครับ

        เป็นหนึ่งในกลุ่มทุนหนาที่ร่วมทุนพัฒนาโครงการดังๆ หรูๆ เพียบเลย แถมที่มาที่ไปของเค้าก็น่าสนใจไปแพ้กันนะ

        รู้จัก "ฮ่องกง แลนด์"

        “ฮ่องกง แลนด์” เข้ามาลุยอสังหาฯ ในไทยด้วยเม็ดเงินจำนวนมหาศาลและแน่นอนว่าเป็นพันธมิตรที่ดีกับดีเวลลอปเปอร์บ้านเราหลายๆ เจ้าครับ แถมยังคว้าโครงการใหญ่ๆ ในบ้านเราไปได้เยอะทีเดียว

        เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทที่ "บุกหนัก" ไม่ยอมใครเลยเหมือนกัน

        ย้อนกลับไป "ฮ่องกง แลนด์" เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศอังกฤษ ก่อนที่จะเข้าจดทะเบียนที่สิงคโปร์และเบอร์มิวดาในเวลาต่อมา

        ความขึ้นชื่อของเค้าคือเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกในด้านการลงทุน บริหารจัดการ และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1889 และในปัจจุบันก็เป็นสมาชิกในกลุ่มจาร์ดีน แมธทีสัน (Jardine Matheson Group) ครับ

        และกลุ่มธุรกิจพัฒนาบริหารและลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในเครือ Jardine Matheson Group นั้นก็มีอสังหาริมทรัพย์สำคัญจำนวนมากมายทั้งในฮ่องกงและประเทศอื่นๆ อยู่ในบัญชีสินทรัพย์ของบริษัทอีกเพียบเลยนะ

        ฮ่องกง แลนด์ เป็นเจ้าของและบริหารจัดการพื้นที่กว่า 850,000 ตร.ม. ของสำนักงานระดับไพร์มและอสังหาริมทรัพย์ค้าปลีกระดับหรูในเมืองสำคัญต่างๆ ในเอเชีย โดยเฉพาะในฮ่องกง สิงคโปร์ ปักกิ่ง และจาการ์ตา เป็นบริษัทต้นๆ ที่มีคุณสมบัติดึงดูดบริษัทชั้นนำของโลกและแบรนด์หรูต่างๆ มากมายเลยล่ะ

        ธุรกิจหลักของบริษัท

        หลักๆ แล้วธุรกิจของ "ฮ่องกง แลนด์" จะแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทครับ

        1. อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ เป็นเจ้าของและบริหารพื้นที่สำนักงานของอาคาร CBD ในฮ่องกงรวมไปถึงอาคารสำนักงานสำคัญต่างๆ อีกหลายพื้นที่ในเอเชีย

        2. อสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย กลุ่มนี้จะเน้นลงทุนในส่วนของอาคารที่พักอาศัยระดับหรูสำหรับตลาดบนเท่านั้น

        3. อสังหาริมทรัพย์โครงสร้างพื้นฐาน ใน 4 พื้นที่สำคัญ นั่นก็คือ Tradeport Hong Kong ซึ่งเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าของเอเชีย, Hong Kong Developments เน้นสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินทรัพย์ที่อยู่ในมือบริษัท, Asia Container Terminals ท่าเรือ คอนเทนเนอร์ชั้นนำในแถบภาคใต้ของจีน และสุดท้ายคือ Tangerang-Merak Toll Road ถนนแบบเก็บค่าผ่านทางในอินโดนีเซียครับผม

        แต่แน่นอนว่าทางนี้เค้าแตกไลน์ขยายกลุ่มธุรกิจออกไปอีกนะ ไม่ว่าจะเป็นการเป็นเจ้าของและให้บริการพื้นที่สำนักงานในอาคาร CBD ของฮ่องกงและจีน บริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ในเอเชียที่อยู่นอกฮ่องกงและจีน กับในเรื่องของการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ครับ

        โครงการร่วมทุนในไทย

        ขึ้นชื่อในเรื่องของการลงทุนในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แบบนี้ พี่ไทยมีหรือจะพลาด

        แต่บอกก่อนว่าสำหรับการร่วมทุนของทางฮ่องกงแลนด์นั้นเค้าจะเน้นไปที่โครงการที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบ และแนวสูง ระดับไฮเอนด์ รวมไปถึงอาคารสำนักงาน รีเทล ระดับหรูเท่านั้นนะครับ

        แต่ถึงอย่างนั้นเค้าไม่ได้จำกัดว่าตัวเองต้องลงทุนกับพันธมิตรเดิมเท่านั้น ยังคงมองหาโอกาสในการลงทุนกับพันธมิตรรายใหม่อย่างต่อเนื่องเหมือนกัน

        ในส่วนของโครงการร่วมทุนบ้านเราก็มีทั้ง Investment Properties และ Development Properties เลยครับ

• จี.เอส. พร็อพเพอร์ตี้ แมนเนจเม้นท์ 

        พัฒนาศูนย์การค้าเกษรพลาซ่า ปี 2544

• สิงห์ เอสเตท หรือ S

        พัฒนาโครงการ THE ESSE Sukhumvit 36 ปี 2560

• พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค มี 2 โครงการ

        เลค เลเจ้นด์ แจ้งวัฒนะ คฤหาสน์หรูติดทะเลสาบเปิดตัวเมื่อปี 2563

        เลค เลเจ้นด์ บางนา-สุวรรณภูมิ มีแผนเปิดตัวตุลาคม 2564

• กลุ่มเซ็นทรัลฯ

        ประกาศพัฒนา Mixed-use บนที่ดินสถานฑูตอังกฤษเดิมช่วงปี 2564

• โนเบิล

        The Embassy at Wireless โครงการระดับซูเปอร์ลักชัวรี่บนทำเลถนนวิทยุ เลื่อนเปิดตัวจากช่วงไตรมาส 2/2564 ออกไปก่อนแต่เห็นว่าจะเปิดในปีนี้แน่ๆ ครับ

        ความสำเร็จบอกระดับความมั่นคง

        คงต้องพูดว่า "ฮ่องกง แลนด์" เป็นหนึ่งในบริษัทที่ประสบความสำเร็จในเรื่องของการลงทุนและบริหารจัดการพื้นที่อาคารสำนักงานรวมไปถึงพื้นที่เชิงพาณิชย์ในเมืองใหญ่ทั้งหลาย แถมยังมีแผนร่วมลงทุนในอาคารสำนักงานในสิงคโปร์ ศูนย์การค้าในย่านหวังฟูจิ่งของกรุงปักกิ่ง และอาคารสำนักงานใจกลางเมืองจาการ์ตาของอินโดนีเซีย รวมเป็นพื้นที่อีก 165,000 ตารางเมตรด้วย

        นอกจากนี้ "ฮ่องกง แลนด์" ยังมีการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยคุณภาพ พื้นที่เชิงพาณิชย์และโครงการแบบมิกซ์ยูสอีกหลายแห่ง ทั้งในประเทศจีน และประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

        อาจจะด้วยความมหาศาลของทุนจีน ทั้งฝั่งผู้ซื้อและนักลงทุนก็แฮปปี้กันไปครับ ฮ่องกงเองเข้ามาซื้ออสังหาฯ ในบ้านเราเพราะได้ลงทุน ถือเป็นการกระจายความเสี่ยงเพื่อให้มีหลักทรัพย์ในต่างประเทศ

        บวกกับไทยเองมีจุดเด่นในเรื่องของการพัฒนาอินฟราสตรักเจอร์ที่ชัดเจน วงการอสังหาฯ ก็ไปได้เรื่อยๆ (แต่ช่วงปีสองปีมานี้ติดโควิดเลยทุลักทุเลไปหน่อย อันนี้ก็กระทบกันทุกที่ครับไม่ใช่เฉพาะแค่ที่ไทย)

        ข้อดีของบริษัทจีนก็ตรงนี้แหละ มีทุนหนาและแข็งแกร่งที่สุดในปฐพี ค่อนข้างแน่ใจได้ว่าหากเข้ามาทำอสังหาฯ ในระดับซิตี้ก็สามารถขายหมดได้ในเวลาอันรวดเร็วแน่นอน

        ที่น่าสนใจคือหลายปีมานี้ไม่ใช่แค่ไทยที่เวลคัมจีนแล้วครับ หลายๆ ประเทศในยุโรปก็เวลคัมไม่ต่างกันนะ

        ความยิ่งใหญ่ของกำลังซื้อจีนในยุคนี้ถือว่ามีบทบาทกับเรามากขึ้นเรื่อยๆ ฉายชัดออกมาในมุมมองของการพัฒนาอสังหาฯ ก็มีให้เห็นอยู่เยอะ ดูได้จากโครงการใหญ่ๆ ทั้งหลายในช่วงนี้นี่แหละครับ

        ไม่แปลกใจ ที่ใครๆ ก็อยาก "จับมือ" ด้วย