ท่ามกลาง Co-Working Space มากมายในบ้านเรา เท่าที่ผมเห็นผ่านตามาโดยมากแล้วจะเน้นไปที่รูปลักษณ์เรียบง่ายทันสมัยครับ
แต่พอลองข้ามไปดูอีกซีกโลกหนึ่ง ยังมีพื้นที่ Co-Working Space ที่ใช้ตึกเก่ามาปรับใหม่ให้ดูคลาสซี่เหมือนกับเราได้นั่งทำงานท่ามกลางบรรยากาศของความหรูหราและทันสมัยในยุค Renaissance ยังไงยังงั้น
ชื่อของ "NeueHouse Bradbury" เป็นที่รู้จักอยู่แล้วล่ะสำหรับใครที่อาศัยอยู่ในลอสแองเจลิส หรือคนที่เป็นคอหนังเองก็อาจจะพอรู้สึกคุ้นตาอยู่บ้างเพราะตัวอาคารเค้าก็แอบแวบไปแวบมาอยู่ในหนังหลายเรื่องเหมือนกัน ดังๆ หน่อยก็ Blade Runner ครับ
อาคาร "Bradbury Building" เป็นอาคารสูง 5 ชั้น สไตล์ Renaissance Revival ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 1893 แล้ว และ "NeueHouse Bradbury" เองก็ซ่อนตัวอยู่บนชั้นสองของอาคาร ถือเป็น local lanmark ในย่านเลยก็ว่าได้
"Bradbury Building" เป็น Private Workspack ที่เห็นปุ๊บต้องร้องว้าวปั๊บเลย เพราะพื้นที่ทำงานแห่งนี้ให้กลิ่นอายของความคลาสสิกกับความทันสมัยแบบลงตัวมากๆ เหมือนเราได้นั่งทำงานท่ามกลางประวัติศาสตร์ยังไงยังงั้น
จะว่าไปพื้นที่ทำงานแห่งนี้นอกจากจะให้ฟีลสุดคลาสซี่แล้ว ยังเหมาะกับคนทำงานมีสไตล์ในทุกๆ สาขาอาชีพไปเลยครับ
พื้นที่ทำงานในอุดมคติแห่งนี้ออกแบบภายใต้แนวคิด Home of the New : Ideas, Connections, Conversations และ Experiences ออกแบบมาอย่างซับซ้อนแต่ก็สะดวกสบาย แน่นอนว่ามาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นมากกว่าสิ่งที่เห็นในสำนักงาน
พื้นที่กว่า 2,323 ตารางเมตรแห่งนี้มีฟังก์ชันต่างๆ เสริมเข้ามาเพียบครับ ไม่ว่าจะเป็น Communal Work Areas, Private Studios, Conference Rooms, Phone Booths, Lounges, Wellness Room และ Cafe and Bar รวมไปถึง Common Gallery & Atelier workspace ด้วย คือมันไม่ใช่แค่พื้นที่สำหรับนั่งทำงานแล้วนะเนี่ย!
ผนังด้านนอกจะก่อด้วยอิฐ หินทราย และดินเผา ส่วนล็อบบี้แคบๆ จะนำให้เราไปสู่ห้องโถงใหญ่ที่สว่างไสว มาพร้อมกับงานเหล็กสุดวิจิตรและลิฟต์กรงนก ทั้งหมดอยู่ในบรรยากาศ Lofty Victorian Icon ที่มีส่วนผสมของความ Modern and Fresh เห็นแล้วเหมือนหลุดเข้ามาในหนังธีมมาเฟียยุคก่อนเบาๆ 5555
ส่วนหลังคาด้านบนนั้นเป็นสกายไลท์ที่ช่วยให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาในพื้นที่โถงกลางได้เต็มที่ครับ น่าสนใจตรงที่เค้ายังเก็บรักษาโครงสร้างเก่าไว้หมด อย่างบันไดกรุหินอ่อนจากอิตาลี เฟรมหน้าต่างไม้โอ๊ก ลิฟต์สุดคลาสสิก เตาผิงอิฐ หรือฝ้าโครงสร้างไม้ก็ยังมีอยู่
การตกแต่งภายในของ "Bradbury Building" นั้นต้องพูดว่าเน้นไปที่ความเรียบง่ายและเงียบสงบหรือเปล่านะ เพราะด้วยความที่เค้าอยากจะให้มันคลิกเข้ากับภาพประวัติศาสตร์ที่มีมายาวนานด้วยแล้ว การตกแต่งภายในเลยเน้นไปที่รายละเอียดดั้งเดิมที่มีลักษณะเฉพาะซะเยอะ ทั้งพื้นแบบแวร์ซายส์ปาเกต์ ม่านลินิน กับเฟอร์นิเจอร์ทรงโค้งจาก Orior แบรนด์ชื่อดังสัญชาติไอริช
นอกจากนี้แล้วแต่ละห้องยังตกแต่งด้วยงานศิลปะหมุนเวียนจากแกลเลอรี่ในท้องถิ่นด้วยครับ ภาพที่ใช้ตกแต่งในบริเวณต่างๆ เองก็เป็นภาพถ่ายจากช่างภาพ Steven Vaughan ด้วย เหมือนเป็นมิวเซียมย่อยๆ เลยเหมือนกัน
เก๋ตรงสำหรับโซน Cafe and Bar ของเค้า คนที่เป็นสมาชิก NeueHouse co-working สามารถเอนจอยกับเครื่องดื่มต่างๆ ได้ด้วย เสิร์ฟกาแฟในช่วงเช้า และค็อกเทลในช่วงเย็น เป็นตัวอย่างของ Private workspace ที่รองรับทั้งการทำงานหรือแม้กระทั่งปาร์ตี้ได้ในตัวจริงๆ
ต้องยอมรับนะว่าเดี๋ยวนี้การเข้าออฟฟิศอาจไม่ได้ตอบโจทย์แล้ว การทำงานใน workspace ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานกลับเป็นที่นิยมมากกว่า
อย่าง "Bradbury Building" เองด้วยความที่ตั้งอยู่ในสถานที่ที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางวัฒนธรรม การเป็นไอคอนิกแห่งดาวน์ทาวน์ลอสแองเจลิสจึงไม่ใช่สิ่งที่น่าแปลกใจนักเลยครับ
Tag :
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ