ปีนี้เป็นปีที่ต้องมานั่งลุ้นจริงๆ ฮะว่าสถานการณ์โควิดจะฟื้นตัวได้เมื่อไหร่ เพราะหากสถานการณ์โควิดดีขึ้น สถานการณ์ทางเศรษฐกิจก็จะฟื้นตัวได้ตามลำดับ ทั้งนี้ก็รวมถึงสถานการณ์ของตลาดอสังหาฯ ด้วย ล่าสุดครับ ผมมีข้อมูลคาดการตลาดอสังหาฯ ของ ลุมพินี วิสดอม มาฝากกันด้วย

        เค้าบอกว่าแนวโน้มตลาดอสังหาช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ว่า มีแนวโน้มที่ดีขึ้นกว่าช่วงครึ่งแรกของปี 2564 เนื่องจากผู้ประกอบการมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ช่วงครึ่งหลังของปี 2564 หลังจากที่เลื่อนการเปิดตัวโครงการใหม่หลายโครงการในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 ผลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของCOVID-19 ที่มีความรุนแรงตั้งแต่เดือนเมษายน จนถึงปัจจุบัน  

        ซึ่งทาง ลุมพินี วิสดอม ได้มีผลสำรวจ โดยคาดว่าหากรัฐสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ภายในไตรมาสสามของปี 2564 จะทำให้ผู้ประกอบการอสังหาทยอยเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงปลายไตรมาสสามและไตรมาสสี่ คาดว่าทั้งปี 2564 จะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ประมาณ 52,000-60,000 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 265,000-300,000 ล้านบาท หรือหดตัวประมาณ 5% ถึงขยายตัว 8% ในปี 2564 เทียบกับปี 2563  

        แต่!!  หากรัฐบาลไม่สามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาด ได้ภายในปี 2564 นี้ คาดว่าตลาดที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล จะมีจำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยที่เปิดตัวใหม่อยู่ที่ประมาณ 45,000-52,000 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 225,000-265,000 ล้านบาท หรือหดตัว 5% ถึง 20% ซึ่งเป็นการหดตัวต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันจากปี 2563 

        เรามาดูอสังหาช่วงครึ่งปีแรกกันบ้างครับ เค้าบอกว่าที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวนทั้งหมด 23,551 หน่วย ซึ่งลดลง 18% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2563 คิดเป็นมูลค่า 130,051 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 จำนวนหน่วยการเปิดตัวลดลง แต่มูลค่าสูงขึ้นเนื่องจากมีการเปิดตัวโครงการ The Forestias  ซึ่งเป็นโครงการที่มีมูลค่าสูงถึง 45,000 ล้านบาท ของแมกโนเลียฯ  ในไตรมาสสองของปี  ทำให้มูลค่าการเปิดตัวโครงการอสังหาโดยรวมในครึ่งแรกของปี 2564 สูง เมื่อเทียบกับจำนวนหน่วยที่เปิดที่ลดลง  

        ในขณะที่การเปิดตัวโครงการบ้านพักอาศัยในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 มีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2563 แต่ยังคงมีจำนวนหน่วยและมูลค่าที่มากกว่าอาคารชุด คิดเป็นสัดส่วน 61% ของหน่วยเปิดตัวทั้งหมด โดยมีการเปิดตัวโครงการบ้านพักอาศัยจำนวน 14,316 หน่วย มูลค่า 74,435 ล้านบาท ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 หดตัว 28% และ 18% ตามลำดับเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 แม้การเปิดตัวจะหดตัวลงแต่บ้านพักอาศัยยังมีอัตราขายได้เฉลี่ย 13% ซึ่งใกล้เคียงกับอัตราขายได้ในปี 2563 

        อีกทั้ง ลุมพินี วิสดอม ยังได้คาดว่าหน่วยคงค้างในตลาดที่อยู่อาศัยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 มีแนวโน้มทรงตัวจากสิ้นปี 2563 โดยมีจำนวนทั้งหมดประมาณ 222,000 หน่วย อาจต้องใช้เวลาในการขายประมาณ 51 เดือนเพื่อระบายหน่วยคงค้างทั้งหมด 

        อย่างไรก็ตาม ถ้ารัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ในไตรมาสสามของปี 2564 รวมถึงสามารถเร่งนำเข้าและฉีดวัคซีนได้ตามแผนที่วางไว้ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในประเทศ ในขณะที่ภาคการส่งออกและภาคการผลิตยังคงสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐสามารถดำเนินการได้ตามแผน ผนวกกับอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในอัตราต่ำ เป็นปัจจัยที่ อาจทำให้สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยมีโอกาสกลับมาฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว