สังเกตกันไหมครับว่า ส่วนมากความต้องการในการซื้อคอนโดของคนเราเนี้ย มักจะมาเป็นสเต็ปๆ ครับ นั่นก็คือเรียนจบ ทำงานไปก่อน แล้วค่อยมีความคิดจะซื้อคอนโด
ซึ่งก็ไม่แปลกใจฮะ ที่คนส่วนใหญ่จะต้องมีสเต็ปแบบนี้ เพราะคอนโด เป็นสินทรัพย์ที่ต้องใช้เงินเยอะ ดังนั้น ถ้าไม่ได้มาจากมรดกตกทอดหรือพ่อแม่ใจดีซื้อให้เป็นของขวัญ การจะมีคอนโดสักห้องเป็นของตัวเองจึงต้องอาศัยสเต็ปตามนี้ฮะ
เมื่อเราทำงานไปสักพักและอยากจะครอบครองคอนโดสักห้องเป็นของตัวเอง คำถามที่ตามมาก็คือ แล้วเราจะสามารถซื้อคอนโดในระดับราคาไหนกันนะ? และเราจะรู้ได้ไงว่าเงินเดือนของเรานั้นเหมาะสมหรือยัง ที่จะผ่อนคอนโด
วันนี้ผมเลยอยากมาพูดถึงในหัวข้อที่เหล่ามนุษย์เงินเดือนควรทราบก่อนที่จะคิดซื้อคอนโดกันครับ ว่าฐานเงินเดือนเท่านี้ เหมาะกับคอนโดราคาเท่าไหร่? และที่สำคัญเลยก็คือค่างวดในการผ่อนชำระในแต่ละเดือนของเราจะเป็นเท่าไหร่กันนะ
จริงๆ คำถามเหล่านี้ธนาคารเค้าสามารถตอบคุณได้อยู่แล้วนะ? แต่ใครที่ไม่กล้าไปถาม หรือไม่สะดวก ไม่เป็นไรครับ เพราะเราสามารถประเมินด้วยแบบง่ายๆ ได้ด้วยตัวเองเลย
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าคุณเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือมีงานประจำ ก็ต้องขอแสดงความยินดีด้วยฮะ เพราะส่วนใหญ่ เหล่ามนุษย์เงินเดือนมักจะได้รับการพิจารณาจากธนาคารง่ายกว่าคนที่มีอาชีพอิสระอยู่แล้ว และขั้นตอนการขอกู้ก็ค่อนข้างง่ายด้วย
เนื่องจากมนุษย์เงินเดือนมีหลักฐานที่มาของรายได้แน่นอน ทั้งในเรื่องของจำนวนและความสม่ำเสมอของรายได้ ยิ่งถ้าเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ไม่มีประวัติการติดเครดิตบูโร และจัดเตรียมเอกสารในการขอกู้ถูกต้องก็น่าจะขอกู้ผ่านได้แบบง่ายๆ เลย แต่เรื่องการจะกู้ได้มากน้อยแค่ไหน อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับงวดผ่อนชำระสูงสุดที่เราจะสามารถผ่อนได้ครับ อันนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับกับรายได้และหนี้สินที่อยู่ระหว่างการผ่อนชำระของเราอีกทีด้วย
พิจารณาเงินเดือน และความสามารถในการผ่อนสูงสุดต่อเดือน
ปกติแล้วธนาคารจะเค้าจะมีการกำหนดเงื่อนไขของผู้กู้ให้สามารถแบกรับภาระหนี้ได้ที่ 40% ของรายได้ต่อเดือนของลูกหนี้ ในการคำนวณงวดผ่อนชำระสูงสุดที่ผู้กู้จะสามารถชำระได้
สมมุตินางสาว A มีเงินเดือนอยู่ที่ 30,000 บาท/เดือน เรามีวิธีคิดดังนี้ครับ
30,000 x 40% = 12,000
ตัวเลข 12,000 ที่ได้มาก็คือจำนวน 40% ของรายได้ ของนางสาวเอ นั่นเอง ซึ่งเท่ากับว่านางสาวเอสามารถแบกรับค่างวดในการผ่อนชำระต่อเดือนได้ประมาณ 12,000 บาท
เราได้จำนวนผ่อนชำระต่องวดสูงสุดแล้วใช่ไหมครับ ทีนี้เรามาดูกันว่าเงินเดือนเท่านี้ จะสามารถได้วงเงินกู้สูงสุดเท่าไหร่
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะครับว่า อัตราขั้นต่ำของเงินผ่อนชำระต่องวดที่ธนาคารใช้คำนวณประมาณการผ่อนต่อเดือนของผู้กู้ โดยเริ่มต้นประมาณล้านละ 7,000 บาท
ซึ่งหลักการประเมินวงเงินกู้เบื้องต้นแบบง่ายๆ ก็คือ เราจะคิดจากจำนวนเงินที่ผู้กู้มีความสามารถผ่อนได้ในแต่ละงวดในอัตราส่วน จำนวนเงินผ่อนต่องวด 7,000 บาท ต่อยอดหนี้ 1 ล้านบาท
ใครงง มาดูตัวอย่างวิธีคิดกันครับ
นางสาวเอ มีเงินเดือน 30,000 บาท มีความสามารถในการผ่อนชำระสูงสุด 12,000 บาทต่อเดือน
วิธีคิดวงเงินกู้สูงสุดของการกู้ซื้อคอนโดของนางสาวเอ
12,000 x 150 = 1,800,000 บาท
เท่ากับว่านางสาวเอ มีความสามารถในการผ่อนชำระต่องวดสูงสุด 12,000 บาท จะสามารถขอวงเงินกู้ได้สูงสุด 1,800,000 บาท
อันนี้เป็นแค่วิธีคร่าวๆ ที่เราสามารถคำนวณเองได้ง่ายๆ นะครับ ซึ่งความเป็นจริงแล้ววงเงินกู้และยอดผ่อนชำระต่อเดือนที่ธนาคารเค้าจะคำนวณให้เราเนี้ย ก็อาจจะคลาดเคลื่อนไปจากวิธีที่ผมแนะนำได้นะ ส่วนหนึ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญก็คือ "หลักทรัพย์ค้ำประกัน" นั่นเองครับ
ขอทิ้งท้ายด้วยตารางเปรียบเทียบจำนวนเงินผ่อนชำระบ้าน และวงเงินกู้ซื้อบ้าน-คอนโดสูงสุดง่ายๆ มาฝากทุกคนกันด้วยครับผม
ทั้งนี้ขอเตือนทุกคนว่า ไม่ควรที่จะฝืนภาระหนี้โดยเด็กขาด หากจำนวนเงินผ่อนแต่ละเดือนที่เราแบกรับมีจำนวนสูงมากเกินไป อาจจะเกิดปัญหาตามมาทีหลังและไม่สามารถแบกรับภาระการผ่อนชำระค่างวดแก่ธนาคารได้ ทางที่ดีผมแนะนำว่าประเมินตัวเองกันเบื้องต้นกันก่อนดีกว่าครับผม
วันเวลาช่างผันผ่านไปรวดเร็วจริงๆ เผลอแป๊บเดียว "Supalai Lite ท่าพระ–วงเวียนใหญ่" ก็ก่อร่างสร้างเสร็จ พร้อมย้ายกระเป๋าเข้าอยู่ เรียบร้อย
ผมชอบการเล่นคำ ‘คูคต’ เป็น ‘Cool โคตร’ มาก มันคือการเปลี่ยนมุมมองต่อทำเลให้ดู ‘เท่ห์’ ขึ้น เพราะไหนๆ ‘Noble’ ก็ตั้งใจจะเปลี่ยนโฉมทำเลนี้ในทาง ‘กายภาพ’ อยู่แล้ว การมีลูกเล่นกับ ‘ชื่อ’ ด้วย ก็ยิ่งเสริมส่งให้มงลงไปอีก
เมื่อได้ข่าวว่า "ป้าศุ" กำลังจะเปิดแผงขาย อีกหนึ่งโครงการใหม่แถวรถไฟฟ้าภาษีเจริญ หลังจากได้ยินแว่วๆมานาน "Supalai Loft สถานีภาษีเจริญ" นั่นเอง มือก็รีบคว้ากุญแจรถ เตรียมบึ่งไปดูอย่างทันทีทันใด แต่ทว่า สมอง ก็ได้ส่งสัญญาณมาเตือน
การมาของน้องน้ำเงิน ก็ทำให้การไปมาหาสู่ของคนทั้งสองฝั่งกรุงนั้นกระชับมิตรกันได้ง่ายขึ้น เมื่อการคมนาคมดี คอนโดก็ต้องมีมันเป็นของคู่กัน วันนี้ขอหยุดไว้ที่สถานีภาษีเจริญครับ ผมจะพามาดูอีกโครงการใหม่ล่าสุดจากโกวศุ ที่เพิ่งเข้ามาเสริมทัพความดีงามของทำเลด้วยการบุกเปิดโครงการใหม่กันอีกครั้งกับโครงการ "Supalai Loft สถานีภาษีเจริญ"
แบรนด์ใหม่ที่เค้าเลือกใช้ในพอร์ตใหม่ของตัวเองครั้งนี้คือแบรนด์ "FLEXI" และหนึ่งในโครงการใหม่แบรนด์นี้ที่กำลังเห็นเป็นรูปเป็นร่างแล้วก็คือ "เฟล็กซี่ รัตนาธิเบศร์ (Flexi Rattanathibet)" นี่แหละครับ
ปีนี้ เอพี ก็เปิดประเดิมปีเสือด้วยการส่งคอนโดใหม่จากแบรนด์ Aspire มาถึง 3 ทำเลเด่น ทั้งปิ่นเกล้า-อรุณอมรินทร์, รัชโยธิน, สุขุมวิท-พระราม 4 ทั้ง 3 ทำเลใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมต้องมาเดินเตร็ดเตร่อยู่ที่นี่ครับ เพราะเมื่อมองย้อนไปแล้ว กลับนึกขึ้นได้ว่า เห้ย มันมีโครงการจาก "แอสปาย" อยู่โครงการหนึ่งที่เรายังไม่เคยได้ไปสำรวจทำเลเลยนี่นา!! โครงการนั้นก็คือ Aspire รัตนาธิเบศร์ เวสต์ตัน นั่นเองครับ
ชวนไปดู "IKEA" กลางเมืองเวียนนา สาขาแรกในโลกที่ไร้ที่จอดรถกับคอนเซ็ปต์ความเป็น "เพื่อนบ้าน"
วันนี้เราเลยจะพาทุกคนหาอะไรอร่อยๆ ที่ฝั่งธนฯ กันบ้างครับ เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารที่คนฝั่งธนฯ แสนจะภูมิใจ เรียกว่าโด่งดัง และเป็นอีกร้านที่เหล่านักชิมน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดีอย่าง "ฮ้อเจี๊ยะ ติ่มซำนึ่งสด" ร้านเด็ดฝั่งธนฯ ที่คนฝั่งไหนก็ห้ามพลาด นี่แหนะ ให้มันรู้ไปซิ ว่าฝั่งธนไม่ได้ดังแค่รถถังงง
ล้วนๆ เปิดเมนูหน้าร้านเจอ 'แซลมอนซาชิมิ 6 ชิ้น 119 บาท' (ราคาต้องบวกแวทอีก 7% นะ) ซูชิเนื้อ 39 บาท อิคุระ คำละ 39 บาท!!
เพื่อน ๆ เคยนึกสงสัยกันมั้ยครับ ว่าทำไมเดี๋ยวนี้อาคารส่วนใหญ่ถึงหันมาใช้โครงสร้างเหล็กกันเต็มไปหมด แล้วอายุการใช้งานอาคารโครงสร้างเหล็กนี่มันอยู่ได้นานกี่ปี?
แบรนด์ Aspire ยังคงเดินหน้าตามเทรนด์มาโดยตลอด ด้วยจุดยืน "LIVE AS YOU ASPIRE อิสระในทุกมิติของชีวิต" สะท้อนภาพให้เห็นได้ชัดผ่าน 3 Influencers ที่เปรียบเสมือนตัวแทนของคนรุ่นใหม่ได้แบบเจนจัดและชัดเจน
ฟินสุด หยุดไม่อยู่ เพราะได้หม่ำของใหม่กันอีกล้าววว เหลือเชื่อนะ Oreo Cookies นี่อายุ 110 ปีแล้วนะ!! เรียกได้ว่าเป็นคุ้กกี้ที่อยู่ครองใจสายหวานมานานจริมๆ ฉลองครบรอบ 110 ปี ทางคริสปี้ ครีม เลยส่งความอร่อยใหม่ กับการคอลแลปส์ครั้งสำคัญเพื่อร่วมฉลองครบรอบของคุ้กกี้ในตำนานเสียหน่อย