เราอยู่กับโควิดกันมา 2 ปีแล้วครับ ประเทศไทยเกิดการระบาดระลอกใหญ่ๆ จนถึงปัจจุบันด้วยกัน 3 ครั้ง
ในช่วงสองครั้งแรก สถานการณ์ยังดูผ่อนคลาย และไม่ได้ตึงเครียดเท่ากับครั้งนี้ เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันไม่ได้พุ่งสูงมากนัก
ช่วงครั้งแรกเนี้ย เรายังตื่นเต้นกับการ Work From Home หันมาปลูกต้นไม้ฟอกอากาศ เต้น Tik Tok กดสั่งหม้อทอดไร้น้ำมัน ฯลฯ ส่วนครั้งที่สอง เป็นการระบาดที่มีผู้ติดเชื้อสูงขึ้นมาจากรอบแรกแต่ก็ยังไม่สูงมากเท่ารอบที่ 3
ส่วนการระบาดครั้งที่ 3 เป็นการระบาดที่เริ่มมีความรุนแรงมากขึ้น โดยเริ่มมีการระบาดตั้งแต่เดือนเมษายน การระบาดครั้งนี้เริ่มน่ากลัวเนื่องจากเชื้อเริ่มกลายพันธุ์ ลงปอดง่าย มีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่าสองครั้งแรก
การระบาดรอบนี้ทำให้คน ประเทศที่ประชาชนมีการเอนเตอร์เทนตัวเองเก่งสุดๆ ก็ไปไม่เป็นเหมือนกันครับ การเสพย์ข่าวแบบนี้ทุกวันทำให้เกิดความเครียดกันมากขึ้นจริงๆ นะ
ช่วงนี้จะเห็นได้ชัดว่าคนไทยมีความเครียดสูงมากขึ้นจากเดิม ทั้งข่าวโควิด และปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งความเครียดนี่ไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้ามนะครับ เพราะมันสามารถแปรเปลี่ยนเป็นสิ่งอื่นได้อีกมาก ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ
เมื่อมีความเครียดโปรดรู้ไว้ว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียว อย่าเก็บความเครียดและความเศร้าไว้คนเดียว วันนี้ติดดอยขอแนะนำ 7 ช่องทางออนไลน์ระบายความในใจกันเถอะ
1.RAKSA
แอพนี้ไม่ใช่แอพใหม่แต่อย่างใดครับ "รักษา" เป็นแอพที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกสบายแก่ผู้ป่วย สำหรับคนที่อยู่คนเดียวแล้วป่วยแต่ก็ไม่สามารถไปหาหมอได้ด้วยตัวเองไหว ดังนั้นแอพนี้จึงสามารถเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในด้านนี้ได้เป็นอย่างดี โดยในแอพจะมีเหล่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายโรงพยาบาล ที่ได้รับใบอนุญาต มาคอยวินิจฉัยโรคให้กับเรานั่นเองครับ
ข้อดีของแอพรักษาคือมีทีมแพทย์ผู้รักษาเกี่ยวกับทางด้านจิตเวชย์ด้วยครับ เพราะฉะนั้น ใครที่กำลังรู้สึกแย่ๆ หรือรู้สึกว่าตัวเองต้องการที่ปรึกษาทางด้านนี้ ก็สามารถใช้แอพ RAKSA ในการติดต่อกับคุณหมอเฉพาะทางได้อีกด้วยครับ
2.Ooca
อูก้า เป็นหนึ่งในแอพที่ได้รับความนิยมมากครับ แอพนี้เป็นแอพที่สร้างมาสำหรับการปรึกษาจิตแพทย์ออนไลน์โดยเฉพาะ โดยจะเป็นการเข้าพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาผ่านทาง Video Call ข้อดีคือแอพนี้สามารถใช้ได้ทั้งบนมือถือ และ คอมพิวเตอร์อีกด้วยครับ โดยก่อนที่เราจะเข้าพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา เค้ายังมีให้เราทำแบบประเมินความเครียดก่อนด้วยนะ
โดยการเข้ารับการรักษาผ่านแอพอูก้า จะต้องเสียเงินนะครับ ไม่ฟรีเน้อ โดยอัตราค่าบริการสำหรับการปรึกษานักจิตวิทจะอยู่ที่ 1,000 บาท และ การปรึกษาจิตแพทย์จะอยู่ที่ 1,500 บาท ต่อ 30 นาที
ถือว่าสะดวกมากครับ หากใครเคยไปพบหมอหรือจิตแพทย์ตามโรงพยาบาลของรัฐ น่าจะทราบดีว่าบางทีต้องคิวเป็นเดือนๆ ครั้นจะไปรักษากับเอกชนก็อาจจะสูงเกินไป ซึ่งหากเราอยู่ในสภาวะที่ต้องได้รับคำปรึกษาอย่างเร่งด่วน Ooca จึงเป็นแอพที่ตอบโจทย์มากๆ นั่นเอง
3. Mental Health Check Up
Mental Health Check Up เป็นแอพจากกรมสุขภาพจิต แอพนี้เป็นแอพที่สร้างมาเพื่อให้ประชาชนได้ประเมินสุขภาพจิตเบื้องต้น และคัดกรองความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพจิตโดยสามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว
ซึ่งในแอพจะมีการประเมินสุขภาพจิตแบบต่างๆ ทั้ง ดัชนีความสุข, ความเครียด, ภาวะซึมเศร้า, ความฉลาดทางอารมณ์หรือ EQ, ภาวะติดสุรา, ภาวะความจำ, ภาวะติดเกม, ภาวะหมดไฟในการทำงาน, พลังสุขภาพจิต RQ
แม้จะไม่ใช้เว็บที่ใช้รักษาหรือติดต่อจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาโดยตรง แต่แอพนี้ก็สามารถช่วยประเมินเบื้อต้นเพื่อเป็นการตัดสินใจในการเข้ารับการรักษาได้นั่นเองครับ ที่สำคัญแอพนี้ยังเป็นแอพฟรีด้วยนะ
4. APPEER
เมื่อพูดถึงโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงโด่งดังในด้านการรักษาสุภาพจิตใจแล้ว "โรงพยาบาลศรีธัญญา" น่าจะเป็นชื่อแรกๆ ที่หลายๆ คนนึกถึง แอพนี้เป็นแอพที่ทาง รพ. ศรีธัญญา ร่วมมือกับสมาคมสายใยครอบครัว, กรมสุขภาพจิต และ มูลนิธิไฟเซอร์ประเทศไทย ครับ
โดยแอพนี้จะรวมเอากิจกรรมความเคลื่อนไหวต่างๆ รวมถึงการประเมินตัวเองเบื้องต้น อีกทั้งยังสามารถปรึกษาสุขภาพจิตได้แบบฟรีๆ ด้วยนะ
5. Wysa
แอพนี้เป็นแอพแชทบอทครับ โดยบอทที่คุยกับเราเนี้ยจะสามารถประมวลบทสนทนาและสามารถโต้ตอบเราได้ ซึ่งเราสามารถเลือกหัวข้อในการคุยได้ด้วยนะ เช่น ปัญหาเรื่องการนอนไม่หลับ การวิตกกังวล ภาวะหมดไฟ ความมั่นใจ LGBTQ+ เป็นต้น
การโต้ตอบนี้ยังเป็นไปตามหลักการจัดการความเครียดและซึมเศร้าได้ด้วยครับ โดยการคุยกับบอทแบบนี้จะสามารถทำให้ผู้สนทนาอย่างเราเนี้ย มีความรู้สึกสงบ และมีสภาวะจิตที่เป็นสุข
6. Mindfit
แอพ Mindfit เป็นอีกแอพที่พัฒนาโดยโรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ โดยแอพนี้มีการร่วมมือกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านด้านโรคซึมเศร้า โดยมีจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น, ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับเปลี่ยนความคิดทัศนคติและพฤติกรรม และพยาบาลจิตเวช
ในแอพจะมีให้เราทำการประเมินพลังใจ 9 ข้อ และมีกิจกรรมให้เลือกทำเพื่อลกความเศร้าด้วยครับ เป็นแอพนี้มีทั้งการประเมิน และแนวทางปฏิบัติด้วย
7, Stop, Breathe & Think
แอพนี้น่ารักมากๆ ครับ โดยตัวแอพจะเป็นแอพที่ชวยดูแลสุขภาพจิตของเรา โดยการชวนเราไปทำกิจกรรมต่างๆ อย่างเช่นการฝึกการหายใจซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการควบคุมระดับความเครียด การนั่งสมาธิ เป็นต้น
ที่ดีอีกอย่างหนึ่งก็คือแอพนี้เค้าสามารถติดตามดูพัฒนาการของเราได้ ด้วยการทำ Mood Tracker ซึ่งก็คือการบันทึกอารมณ์ของเราในแต่ละวันนั่นเอง
เป็นอีกแอพหน้าตาน่ารักน่าใช้ แถมยังสามารถเช็คพัฒนาการทางด้านอารมณ์ของเราได้ด้วย ใครที่อยากลองบันทึกอารมณ์ตัวเอง รวมถึงอยากหากิจกรรมที่ช่วยเรื่องสุขภาพจิตแนะนำลยครับสำหรับแอพ Stop, Breathe & Think
ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ภาวะทางจิตใจและอารมณ์สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนครับ ยิ่งในช่วงสถานการณ์แบบนี้ ที่อาจจะกระตุ้นอารมณ์เศร้า หงอย เครียดของเราให้ทวีคูณขึ้นไปอีก
หากเศร้า อย่าปล่อยไว้คนเดียว มาหาวิธีจัดการกันดีกว่า ในช่วงที่ออกไปพบหมดลำบาก แอพเหล่านี้อาจจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดในช่วงนี้ก็ได้เนอะ
หรือใครเศร้าไม่รู้จะระบายปัญหานี้กับใคร ลองคุยกับพี่หมี คอนโดติดดอย กันได้นะครับผม
Tag :
เคยมีคนถามผมว่า "สมัยนี้ ยังสามารถสร้างคอนโดที่ไม่ใกล้รถไฟฟ้าได้ไหม?" ได้สิ เพราะแม้ว่าความใกล้ รถไฟฟ้า จะเป็น 1 ในปัจจัยหลักที่สำคัญมาก แต่มันก็ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ "ขาย" ได้อยู่อีก
จะมีคอนโดปล่อยเช่าอยู่อันนึง ที่แม้แต่ตอนโควิดก็ไม่มีผลอะไร มีคนเช่าตลอดๆ แทบไม่มีช่วงว่าง บางครั้งคือ คนเก่าย้ายออกตอนเช้า ตอนเย็นคนใหม่ใส่หน้ากากอนามัยขนของเข้าอยู่ต่อเลย
หลังจากที่ผมถ่ายรูปห้องตัวอย่างใน Sales Gallery เสร็จ ผมก็หันไปบอกกับคุณบี ที่มาด้วยกัน เชื่อไหมว่า แป๊บๆ เดี๋ยวก็ Sold Out!!
หลังจากปล่อย "KLOS Ratchada" ไปไม่นาน "Frasers Property" ก็ได้ฤกษ์เตรียมผุดคอนโดแบรนด์ KLOS แห่งที่ 2 ต่อทันทีครับ
นับตั้งแต่เมืองเริ่มขยายตัวออก พื้นที่ที่หลายคนเคยมองข้ามก็กลายเป็นว่าเริ่มเนื้อหอมขึ้นเรื่อยๆ
ตัวจริง Comeback แล้วจ้าาา พี่สิบหมื่น หรือ แสนสิริ ส่งคอนโดใหม่ บุกย่านสวนพลู กับโครงการ HAUS Nang Linchee (เฮ้าส์ นางลิ้นจี่) ตอนนี้ล้อมไวนิลเรียบร้อยแล้วด้วย
"Osaka Expo 2025" ตำนานบทใหม่ของญี่ปุ่น เปลี่ยนเกาะเทียมธรรมดาให้กลายเป็นเมืองขนาดย่อม
เทรนด์อาคารอนุรักษ์พลังงานยังคงมีมาให้เห็นกันเรื่อยๆ และล้ำหน้ามากขึ้นทุกวันๆ และหนึ่งในโปรเจ็คที่น่าตื่นตาตื่นใจและควรค่าให้หยิบมาพูดถึงกันในวันนี้คือ "505 State Street" ครับ
ในวินาทีที่ผมย่างเท้าเข้ามาชมห้องตัวอย่างของโครงการ "Amatara Residences Rayong" (อมาธารา เรสซิเดนเซส ระยอง) บอกตามตรงว่าแอบคิดลึกๆ ในใจว่า 'นี่มันอีกระดับของที่พักตากอากาศแล้ว'
หลังจากสร้างเสียงฮือฮาแก่ชาวโลกจากโครงการ The Line เมืองภายใต้กำแพงยักษ์จากประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งโครงการนี้เป็นอยู่ภายใต้โครงการ Neom ซึ่งเป็นโครงการที่ทางซาอุฯ หมายมั่นให้เป็นเมืองใหม่ที่มาจากโลกอนาคตนั่นเอง แต่มันจะหยุดอยู่แค่ The Line ไม่ได้ครับ เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งอนาคต ความล้ำจะต้องไปสุดกว่านี้ ล่าสุดทาง Neom ส่งอีก Golf Community มาเพิ่มอีก!!
เรากำลังจะมีสวนสนุกธีม Dragon Ball แห่งแรกของโลกแล้วครับ! แถมยังการันตีว่าใหญ่กว่าดิสนีย์แลนด์ด้วย!
ร้อนๆ แบบนี้ ถ้าได้เครื่องดื่มเย็นๆ สักแก้วดับร้อนนี่บอกเลยว่าสดชื่นมากกกกก ยิ่งถ้าได้เครื่องดื่มสไตล์ไทยๆ นี่แหละตอบโจทย์เลย!!!!