กลายเป็นประเด็นขึ้นมาทันทีฮะ เพราะหลังจาก สผ. ออกนโยบายรับมือกับภาวะโลกร้อน ด้วยการกำหนดและปรับเกณฑ์บางเงื่อนไขแนวทางป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม บางส่วน ผ่านการจัดทำ “รายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม” หรือติดๆ หูกันว่า EIA นั่นแหละ

        โดยประเด็นที่ทำให้วงการอสังหารร้อนแรงขึ้นมากเพราะ เกณฑ์ใหม่ EIA มีการห้ามอาคารสูง หรืออาคารขนาดใหญ่ สร้างบังทิศทางแสงแดดและทิศทางลม ที่ทำให้บริเวณบ้านข้างเคียง หรือชุมชนย่านนั้น ๆ ไม่มีกระแสลมพัดผ่านเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าของบ้านและคนในชุมชนสามารถร้องเรียนคัดค้านการขึ้นโครงการใหม่นั้น ๆ ได้

        ซึ่งเจ้าของอาคารสามารถใช้แบบจำลอง 3D เพื่อแสดงให้เห็นว่าเงาของอาคารนั้นๆ ตกสะท้อนทอดยาวไปยังทิศทางใด ขณะที่เจ้าของโครงการที่จะก่อสร้างอาคารใหม่ ต้องประมวลทั้งปีว่า “ทิศทางลม” ในทำเลนั้น ๆ จะไปในทิศทางไหน

        ทั้งนี้ สผ.ได้จัดทำเอกสารเผยแพร่ แนวทางการศึกษาและการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านการบดบังแสงอาทิตย์ และด้านการเปลี่ยนแปลงของลม จากการก่อสร้างอาคาร สำหรับรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการอาคาร การจัดสรรที่ดิน และบริการชุมชน ไปเมื่อเดือนมีนาคม 2564 ที่ผ่านมา

        ก็ตามสเต็ปครับ มีสมาคมออกมาค้านเกณฑ์นี้ไปแล้วนะ ได้แก่ สมาคมอาคารชุดไทย, สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ซึ่งทั้งสามสมาคมนี้ไม่เห็นด้วยกับเกณฑ์ใหม่ของ สผ. ซึ่งก็ไม่นิ่งดูดายครับ มีการเปิดรับฟังเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. โดยทั้งสามสมาคมขอทบทวนการบังคับใช้เกณฑ์ การจัดทำรูปเล่มเพื่อประกอบการยื่นขอ EIAตามเกณฑ์แนวทางการศึกษาและการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ด้านการบดบังแสงอาทิตย์ และด้านการเปลี่ยนแปลงของลม จากการก่อสร้างอาคารตามนโยบาย สผ.นั้น

        พร้อมขอชะลอการบังคับใช้เกณฑ์ดังกล่าว เนื่องจากไม่ได้รับทราบว่า มีการเปิดรับฟังเสียงผู้ประกอบการ จึงเกรงว่าจะสร้างผลกระทบต่อการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ภายในชุมชนที่ต้องทำอีไอเอเปิดรับฟังเสียงของคนในชุมชน ภายใต้แบบจำลอง 3Dและอาจนำมาซึ่งการคัดค้านห้ามก่อสร้างอาคาร หรืออาจจะใช้ดุลพินิจนำมาประกอบการพิจารณาว่า อนุญาตหรือไม่อนุญาต เนื่องจากคอนโดจะต้องอยู่กลางชุมชนใหญ่ที่มีความเจริญ แม้จะมีต้นทุนที่ดินสูงก็ตาม

        เอาเป็นว่าเกณฑ์ใหม่ จะออกมาเป็นยังไง จะได้ประกาศใช้หรือไม่ ต้องตามต่อจริงๆ ครับ เพราะถ้ามีเกณฑ์บังคับใช้ขึ้นมา คงเปลี่ยนวงการอสังหาไปไม่น้อยเลยทีเดียว