ช่วงนี้กระแสการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังมาแรงเลยครับ แต่เพื่อน ๆ รู้มั้ยครับช่องทางลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น มีมากกว่าการลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีนะ
หนึ่งในช่องทางที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ "โทเคนดิจิทัล" (Digital Token) ซึ่งถือเป็นการลงทุนรูปแบบใหม่ที่วงการอสังหาเรากำลังจะเข้าไปลงสนามเลย
ใช่แล้วครับ... รูปแบบการลงทุนใหม่ที่ผมจะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จัดกันในวันนี้ก็คือ 'โทเคนดิจิทัลประเภทที่อ้างอิงหรือมีกระแสรายรับจากอสังหาริมทรัพย์' หรือ 'Real Estate-Backed ICO' นั่นเอง
โดยโทเคนดิจิทัลประเภทนี้จะมีความคล้ายคลึงกับ 'ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์' (REITs) ตรงที่ทรัพย์ทรัพย์อ้างอิงเกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์เหมือนกัน
แต่ Real Estate-Backed ICO มีการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนและสัญญาอัจฉริยะเข้ามาใช้ จึงมีความปลอดภัยสูง โปร่งใส ตรวจสอบได้ และซื้อขายเปลี่ยนมือได้ตลอดเวลาตามเงื่อนไขที่กำหนดโดยศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล
สรุปง่าย ๆ 'Real estate-backed ICO' ก็คืออีกทางเลือกในการระดมทุนนั่นแหละ เป็นการออกเสนอขายโทเคนต่อประชาชน โดยมีอสังหาริมทรัพย์เป็นทรัพย์สินอ้างอิงหรืออ้างอิงกระแสรายรับจากโครงการอสังหาริมทรัพย์
ซึ่งสินทรัพย์ที่อ้างอิงนั้นอาจเป็น (1) อสังหาริมทรัพย์ (2) หุ้นของบริษัทที่ถือครองอสังหาริมทรัพย์ไม่น้อยกว่า 75% ของสิทธิออกเสียงของ บริษัทนั้น หรือ (3) สิทธิการเช่าในอสังหาริมทรัพย์นั้น
โดยอสังหาริมทรัพย์ที่อ้างอิงต้องสร้างแล้วเสร็จ 100% และเป็นการลงทุนที่มีมูลค่าไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าโครงการ หรือไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท
ซึ่งทรัพย์สินนั้นจะมี ทรัสตี (Trustee) ดูแลเก็บรักษาทรัพย์สินและติดตามการจัดการทรัพย์สินให้เป็นไปตามหนังสือชี้ชวนเพื่อให้ผู้ถือโทเคนได้รับสิทธิตามที่ระบุในหนังสือชี้ชวนนั่นเองครับ
แม้ในประเทศไทย Real Estate-backed ICO อาจจะเพิ่งเริ่มต้นและแปลกใหม่ แต่จริง ๆ แล้วเป็นที่นิยมมากในต่างประเทศนะครับ
ผมขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพกันมากขึ้นอีกนิด เคสที่โด่งดังก็คือการแปลงมูลค่าของโรงแรมหรู เดอะเซนต์รีจิส แอสเพน รีสอร์ท (The St. Regis Aspen Resort) ในรัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐฯ
เค้าเสนอขายในรูปแบบโทเคนชื่อว่า แอสเพนคอยน์ (Aspen Coin) จนประสบความสำเร็จอย่างมากซึ่งระดมทุนจากผู้ซื้อโทเคนได้มากถึง 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 550 ล้านบาท)
ซึ่งสิ่งที่ทำให้เค้าประสบความสำเร็จมากก็เพราะ การขายแบบนี้ช่วยให้ผู้ซื้อโทเคนแอสเพนคอยน์รู้สึกสบายใจกับการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีอยู่จริง จับต้องได้
ไม่ใช่แค่ตัวเลขดิจิทัลลอย ๆ เท่านั้น แต่ยังได้รับส่วนแบ่งผลกำไรจากการดำเนินธุรกิจของโรงแรมแห่งนี้ด้วยนะ ฟังดูดีใช่มั้ยล่ะ 55555
แล้ว Real Estate-backed ICO ต่างจาก REITs และ Cryptocurrency ยังไง?
อย่างที่ผมบอกไปในตอนต้นนะครับ เมื่อมองถึงหลักการลงทุนใน Real Estate-backed ICO แล้วอาจจะมีความคล้ายคลึงกับทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs)
แต่ความแตกต่างกันคือกอง REITs จะเป็นการมอบเงินของเราให้ผู้ดูแลทรัสต์หรือทรัสตีนำไปลงทุนในธุรกิจที่ทำข้อตกลงกันไว้ อาจจะมีการซื้อ ขาย เช่า ตามแต่ผู้จัดการกองทรัสต์จะดำเนินการ เมื่อเกิดดอกออกผลเราจะได้รับส่วนแบ่งผลกำไรจากการลงทุนนั้นซึ่งมีลักษณะเป็น Active Trust
ในขณะที่ Real Estate-backed ICO คือการลงทุนในทรัพย์สินที่ระบุไว้อย่างชัดเจนในหนังสือชี้ชวน โดยทรัสตีมีหน้าที่ติดตามดูแลการบริหารจัดการทรัพย์สินของผู้ออกโทเคนดิจิทัลให้เป็นไปตามที่กำหนดในหนังสือชี้ชวนเท่านั้น ซึ่งมีลักษณะเป็น Passive Trust
หรือหากจะเปรียบเทียบระหว่างโทเคนดิจิทัลกับเงินคริปโท (Cryptocurrency) การลงทุนกับคอยน์หรือเงินคริปโทเคอร์เรนซีสกุลต่าง ๆ ก็คล้ายกับการซื้อขายสกุลเงินตามปกติ ซึ่งมีราคาขึ้นลงตามความผันผวนในตลาดคริปโท และมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบถึงค่าเงินสกุลนั้นๆ มากมาย
ส่วนการลงทุนในโทเคนดิจิทัลอาจเปรียบได้กับการลงทุนในหลักทรัพย์บางประเภท ซึ่งผู้ถือโทเคนดิจิทัลจะได้รับผลตอบแทนจากส่วนแบ่งรายได้ตามอัตราที่กำหนดไว้ในหนังสือชี้ชวน นอกจากนี้ ผู้ถือโทเคนยังสามารถซื้อขายโทเคนดังกล่าวในตลาดรองซึ่งอาจได้กำไรจากส่วนต่างของราคาซื้อขาย โดยราคาโทเคนจะขึ้นลงตามราคาตลาด (market price) นั่นเองครับ
แล้ว Real Estate-backed ICO ต่างจากการซื้อขายหุ้น IPO ยังไง?
สิ่งที่ผมรู้สึกว่าต่างกันอย่างเห็นได้ชัดที่สุดก็คือการซื้อขายโทเคนดิจิทัลทำได้ง่ายกว่าการซื้อขายหุ้นมากเลยครับ ทั้งนี้ก็เพราะเพื่อน ๆ สามารถทำผ่านแอปพลิเคชันได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องรอให้ตลาดเปิด
อีกทั้งการเปิดพอร์ตและ wallet สำหรับเก็บโทเคนก็สามารถทำผ่านแอปพลิเคชันด้วยตนเองได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามแม้เพื่อน ๆ จะลงทะเบียนได้ง่าย แต่ก็ต้องผ่านขั้นตอน KYC หรือ Know Your Customer สำหรับการยืนยันตัวตนของลูกค้าด้วยนะครับ
เพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน การติดสินบน หรือคดีทุจริตใดๆ องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้การซื้อขายโทเคนดิจิทัลสะดวก ปลอดภัย แทบไม่มีข้อจำกัดใด ๆ เลย และทำให้ผู้ใช้สมาร์ตโฟนทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างเท่าเทียมกันนั่นเอง
ยังไม่หมดแค่นั้น... ที่พิเศษสุดคือโทเคนของบางบริษัทยังสามารถกำหนดเงื่อนไขสิทธิประโยชน์ที่มากกว่าส่วนแบ่งรายได้ให้แก่ผู้ถือโทเคนอีกด้วยนะเออ ยกตัวอย่างก็เช่นการให้สิทธิการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินที่ออกโทเคนได้บางส่วน หรือประโยชน์ใช้สอยอื่น ๆ ซึ่งทำให้ผู้ถือโทเคนได้รับประโยชน์ที่จับต้องได้จริงจากทรัพย์สิน มากกว่าแค่การถือครองมูลค่าในรูปแบบข้อมูลดิจิทัลไว้เท่านั้นครับ
มาสรุปกันเลยดีกว่า Real Estate-Backed ICO น่าลงทุนไหม?
ก่อนอื่นต้องย้ำกันก่อนนะครับว่า "การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง" การลงทุนในโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนที่มีอสังหาริมทรัพย์หรือกระแสรายรับจากอสังหาริมทรัพย์เป็นทรัพย์สินอ้างอิง (Real Estate-Backed ICO) ก็เช่นกันครับ
ซึ่งความเสี่ยงที่ว่าผู้ลงทุนก็ต้องศึกษาข้อมูลให้ดี และอ่านหนังสือชี้ชวนกันให้เรียบร้อย ซึ่งถ้ายอมรับในเงื่อนไขและยอมรับความเสี่ยงได้ Real Estate-Backed ICO ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางการลงทุนที่นักลงทุนไม่ควรมองข้ามครับ
โดยเฉพาะนักลงทุนหน้าใหม่หรือประชาชนทั่วไปที่อาจไม่มีเงินทุนเริ่มต้นมากนักยิ่งน่าสนเลยครับ ถ้ายังไม่รู้จะเลือกลงทุนยังไง ก็พุ่งเป้าไปดูกับโทเคนดิจิทัลขององค์กรธุรกิจที่มั่นคงและมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีก่อนก็ได้
ซึ่งไม่ว่าจะเลือกลงทุนที่ไหน ยังไง Real Estate-Backed ICO ก็มีการอ้างอิงทรัพย์สินที่ชัดเจนมากกว่าการลงทุนในคริปโทสกุลเงินต่าง ๆ ที่มีความผันผวนและมีความเสี่ยงสูงอยู่ดีครับ
สุดท้ายที่อยากบอกก็คือ Real Estate-Backed ICO นั้นเป็นสิ่งที่เราเชื่อมั่นและมั่นใจในการลงทุนได้อย่างแน่นอน เพราะการซื้อขายโทเคนดิจิทัลในประเทศไทยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต.
ทั้งนี้ก็เพื่อคุ้มครองนักลงทุนให้สามารถลงทุนในโทเคนดิจิทัลได้อย่างชัดเจน โปร่งใส และถูกต้องตามกฎหมายทุกขั้นตอน เพราะงั้นใครที่เป็นนักลงทุนหน้าใหม่ก็มั่นใจว่าการลงทุนของคุณจะปลอดภัยและไม่ถูกฉ้อโกงแน่นอนครับผม
Tag : Real Estate-Backed ICO | Cryptocurrency | สินทรัพย์ดิจิทัล
เพิ่งเคยเจอ คอนโดที่มีน้ำตกสูง 18 ม. เป็นส่วนกลาง!! จัดเป็น “Ideo” ที่ไม่ทำให้รุ่นพี่เสียหน้าจริงๆ ”ส่วนกลาง“ สวยงามตามแบบฉบับ ”Ananda“
เปิดห้องตัวอย่าง ‘KingsQuare Residence’ คอนโด Super Luxury ของ ’สหพัฒน์‘ ที่คิดทุกเม็ด แบบสมราคา
"The Standard Residences Phuket Bang Tao" เป็น 1 ในโครงการที่ผมรอยลโฉมมากที่สุดในปีนี้ เพราะนี่คือ โครงการที่เกิดจากการเขย่ามือร่วมกันของ 2 เจ้ายุทธจักรระดับโลก
ผุดอีกหนึ่งโครงการของย่านพระราม 9 NUE Epic Asoke-Rama 9 (นิว อีปิค อโศก-พระราม 9) นี่คือคอนโดที่จะมายืนเคียงคู่ถนนดินแดง ที่ผมบอกเลยว่า น่าจะเป็นที่ดินผืนสุดท้ายแล้วของย่านนี่แล้วนะ!!
จริงๆ เพจเราเคยลงข้อมูลคร่าวๆ กับเค้าเอาไว้ด้วย แต่ยังไม่ได้เจาะลึกอะไรมาก เพราะยังไม่ได้มีข้อมูลอะไรมากมายเลย จวบจนวันนี้ ก็ยังไม่ได้ข้อมูลเพิ่มนะ5555 แค่ชื่อโครงการนี่ผมยังไม่แน่ใจเลยนะว่า 'พี่สิบหมื่น' เค้าจะเคาะแบรนด์ไหนมาลง ตอนนี้เรารู้ๆ กันในนามของ 'แสนสิริ เจริญนคร 29/2' กันก่อนอ่ะแหละ แต่กว่าจะได้ข้อมูลเพิ่มเติม นี่เห็นข่าวว่ามีการเคลียร์พื้นที่เตรียมสร้างละ ผมเลยหยิบมาเจาะเรื่องทำเลก่อนดีกว่า เอาไว้อ่านเล่นๆ ระหว่างรอพี่สิบหมื่นปล่อยดีเทลมา
ถนนปั้น สาทร เตรียมพร้อมรับอีกหนึ่งความไอคอนิกที่จะมาเติมเต็มซอยสีลม 19 ให้กระหึ่มอีกครั้งแล้วครับ
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
เคยมีคนบอกว่า เวลาจะเลือกซื้อบ้านหรือคอนโด สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องพิจารณาคือเรื่อง 'การบริการหลังการขาย'
ผมคิดว่าแบรนด์อายุเยอะๆ ในไทยที่ปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยได้เก่งมีอยู่ไม่กี่แบรนด์ครับ และหนึ่งในแบรนด์ที่เข้ามาในหัวเวลาคิดถึงเรื่องนี้ ถ้าไม่ใช่ขายหัวเราะ-มหาสนุก ก็ต้องเป็น "ไปรษณีย์ไทย" นี่แหละ
เดือนสุดท้ายของไตรมาสแล้วนะครับ ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ
การมีบ้านเดี๋ยวนี้มันยาก... หรือใครจะเถียงว่าไม่จริง 55555
life in plastic it's fantastic!! คริสปี้ครีม ฉลอง 65 ปี บาร์บี้!! ด้วย “Krispy Kreme x Barbie” สาวกบาร์บี้ไม่ควรพลาด!!