ช่วงนี้หนังผีไทยเริ่มมีมาให้เห็นหน้าค่าตากันแล้วครับหลังจากห่างหายจากจอเงินกันไปพักใหญ่ ผมเองก็รู้สึกว่า เอ...หรือยุครุ่งเรืองของหนังผีไทยจะกลับมาแล้วจริงๆ นะ
พูดถึง genre ของหนังบ้านเราที่ถูกยกขึ้นหิ้งเลยก็ต้องหนังผีหรือเปล่า สมัยก่อนหนังผีบ้านเราอยู่ในยุครุ่งเรืองจริง ออกมาปีๆ หนึ่งนี่ก็หลายเรื่อง และก็มีอีกหลายเรื่องที่ถูกยกขึ้นหิ้ง
ความสยองก็ส่วนหนึ่ง ความสะพรึงในการสร้างคาแรคเตอร์ก็อีกส่วนหนึ่ง แต่ที่ต้องยอมรับเลยก็คือวิธีการเล่าเรื่องของหนังครับ
หนังผีไทยบ้านเรานอกจากจะมีผีโผล่มาให้คนสยองขนหัวลุกจนเป็นภาพติดตากันแล้ว วิธีการดำเนินเรื่องหรือการใส่ประเด็นปัญหาต่างๆ เข้าไปในตัวหนังก็เป็นที่น่าพูดถึงเหมือนกัน
กลายเป็นว่าหนังผี ไม่ได้มีดีแค่ตุ้งแช่
ก่อนหน้านี้ผมเห็นกระแสของหนังผีเริ่มกลับมาอีกครั้งเมื่อหนังผี (กึ่งวิทยาศาสตร์) ของไทยเข้าฉายในแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งชื่อดังอย่าง Netflix ซึ่งก็คือเรื่อง Ghost Lab
ผมเองก็ตื่นเต้นมาก เพราะรู้สึกว่าตัวพล็อตน่าสนใจ ก็เลยไปดูมา ซึ่งก็ยอมรับว่าพล็อตดีจริงๆ แต่มันก็มีบางจุดที่รู้สึกน่าเสียดาย กระทั่งไม่กี่วันก่อนหน้านี้ที่อีกหนึ่งหนังผีแต่เป็นหนังผีลงโรงอย่าง "ร่างทรง" ปล่อยทีเซอร์ออกมาให้ได้ชมกัน
โอ้โห ถ้าใครได้ดูคิดว่าก็น่าจะรู้ถึงสัญญาณการกลับมาของยุครุ่งเรืองของหนังผีได้เลยแหละ ผมดูแล้วก็ชอบมากครับ จากนั้นก็เผลอย้อนกลับไปนึกถึงกลิ่นอายความสยองขวัญที่ฝากไว้บนจอของหนังผีบ้านเราขึ้นมาได้ซะงั้น
ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ (2547)
กำกับโดย บรรจง ปิสัญธนะกูล และ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ
หนังผีไทยในตำนานที่ฮอลลีวู้ดถึงกลับต้องนำไปรีเมค ต้นฉบับความสยองและซิกเนเจอร์ผีขี่คอที่แสนติดตา เชื่อว่าถ้าคืนนี้เราเลือกเปิดมาดูอีกครั้ง ความรู้สึกน่ากลัวนั้นก็จะยังอยู่กับเราเหมือนเดิมแม้จะผ่านมาสิบกว่าปีแล้วก็ตาม
เนื้อเรื่องเต็มไปด้วยความระทึกขวัญผ่านเสียงชัตเตอร์และรูปถ่ายติดวิญญาณที่โผล่มาในทุกช่วงของหนัง เนื้อเรื่องของธรรม์และเจน คู่รักคู่หนึ่งที่เผลอขับรถชนหญิงสาวนิรนาม ทำให้หลังจากนั้นธรรม์ต้องเจอกับเรื่องราวประหลาดในรูปถ่ายของเขาที่มีใบหน้าผู้หญิงติดมาพร้อมกับวิญญาณของเจ้าหล่อน เฮ้อ แค่คิดถึงสตอรี่ก็นึกถึงวันคืนเก่าๆ ที่ต้องนอนคุมโปงแล้วล่ะครับ
เปนชู้กับผี (2549)
กำกับโดย วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง
อีกหนึ่งตำนานความสยองที่คนพูดถึงกันมานาน นวลจัน สาวตั้งครรภ์เดินทางไปตามหาสามีที่หายตัวไปของเธอ และขอเข้าพักในคฤหาสน์ของแม่ม่ายอย่างรัญจวน ซึ่งต่อมานวลจันได้ค้นพบว่าในคฤหาสน์นี้มีเรื่องราวอันน่ากลัวซุกซ่อนอยู่
สำหรับหนังเรื่องนี้นอกจากความสยองขวัญแล้วยังต้องพูดว่าคาแรคเตอร์โดดเด่นมากครับ การทำให้เรารู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลของบรรดาผู้พักอาศัยในคฤหาสน์แห่งนี้ทำให้คนดูลุ้นและตื่นเต้นอยากหาคำตอบไปพร้อมกับตัวเอกจริงๆ ไม่แปลกใจที่ว่าทำไมเปนชู้กับผีถึงถูกจัดให้ขึ้นหิ้งหนังผีดีเด่นล่ะนะ
ลัดดาแลนด์ (2554)
กำกับโดย โสภณ ศักดาพิศิษฏ์
หนังผีไทยอีกเรื่องที่ต้องยอมรับเลยว่า "น่ากลัวมาก" ก็คือลัดดาแลนด์นี่แหละ เรื่องราวพูดถึงครอบครัวหนึ่งในหมู่บ้านลัดดาแลนด์ที่หวังจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่แล้วสมาชิกในครอบครัวกลับต้องเจอเรื่องราวแปลกประหลาดชวนสยองจนความสัมพันธ์ในครอบครัวร้าวฉาน
เรื่องนี้ที่คนจดจำได้ดีนอกจากความสยองของผีมะขิ่นก็คือประเด็นทางสังคมนี่แหละครับ การต้องแบกรับปัญหาในครอบครัวเพราะไม่อยากให้คนอื่นต้องเจอความลำบากเหมือนตัวเอง การต้องวิ่งเข้าหาแรงกดดันจากสังคม รวมไปถึงความสัมพันธ์ของครอบครัวที่เกิดปัญหาทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนึ่งในหนังผีในใจของหลายๆ คนเลยล่ะ
บอดี้..ศพ#19 (2550)
กำกับโดย ปวีณ ภูริจิตปัญญา
ขออวยยศหน่อยแล้วกัน เพราะส่วนตัวผมชอบเรื่องนี้มากกกก เป็นหนังผีกึ่งสอบสวนกับประโยคติดหู "ชื่อดาราราย ตามหาให้เจอ!" เล่นเอาจำได้ไม่ลืมเลือนจริงๆ ตัวหนังพูดถึง ชล นักศึกษาคณะวิศวะกับพี่สาวนักศึกษาแพทย์ที่อาศัยอยู่ด้วยกัน วันหนึ่งชลรู้สึกว่ามีบางสิ่งแปลกๆ หลังจากที่เขาได้ฝันถึงหญิงสาวที่โดนฆาตรกรรมอย่างโหดร้ายจนเขาต้องไปพบจิตแพทย์ โยงใยไปถึงตู้เก็บศพหมายเลข 19 ที่โรงพยาบาลกับความลับที่ถูกเปิดเผย
เอาจริงผีในเรื่องไม่น่ากลัวเลยครับเพราะเป็นผีซีจีที่ให้พูดตามตรงก็คือไม่ได้โดดเด่นอะไร แต่สิ่งที่ทำให้หนังมันดีคือบทกับการใช้หลักจิตวิทยาเข้ามาเสริมนี่แหละ นอกจากประโยคดารารายแล้วก็ต้องเป็นเพลงคิดถึงเธอทุกที (ที่อยู่คนเดียว) ในเวอร์ชันที่ได้เสียงของแพท-สุธาสินีมาสร้างความหลอนเหงาๆ ให้ เล่นเอาคนดูจำได้ไม่ลืมเลือน แล้วการฟังเพลงนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป 555
บุปผาราตรี (2546)
กำกับโดย ยุทธเลิศ สิปปภาค
ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จักชื่อนี้ บุปผา หญิงสาวที่ถูกคนในครอบครัวล่วงละเมิดทางเพศมาตั้งแต่เด็ก พอโตมาก็ถูกชายหนุ่มหลอกให้รักแล้วฟันทิ้งอีก สุดท้ายบุปผาเลยตัดสินใจทำแท้งแต่ดันตกเลือดตายอนาถคาหอพักห้อง 609 ออสการ์อพาร์ทเม้นต์ ที่มาของความสยอง
สำหรับบุปผาราตรีนั้นนอกจากเรื่องความสยองแล้วแน่นอนว่ามุ่งประเด็นไปที่สังคมชายเป็นใหญ่ การที่เพศหญิงต้องถูกกดขี่ข่มเหง ซึ่งสุดท้ายแล้วก็มีแค่เพียงชีวิตหลังความตายเท่านั้นที่ทำให้ผู้หญิงคนนี้มีอำนาจขึ้นมาได้เหนือบรรดาผู้ชายทั้งหมด
นางนาก (2542)
กำกับโดย นนทรีย์ นิมิบุตร
ไม่ว่าจะสร้างออกมาอีกกี่เวอร์ชั่น แต่นางนากเวอร์ชั่น 2542 ก็คือ the best อยู่ดีครับ การจับตำนานความน่ากลัวของผีนางนากที่ออกอาละวาดชาวบ้านในย่านพระโขนงคือความเบสิกที่ใครๆ ก็รู้จักกันดี คงไม่ต้องเล่ามากว่าเรื่องราวมันเป็นยังไงเนอะ
หนังสื่อความหมายตั้งแต่ต้นจนจบถึงการต้องทำหน้าที่แม่และเมียในแบบฉบับของหญิงไทยในอุดมคติ อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดีต่อสามีผู้เป็นที่รัก ต่อให้ตายไปก็ยังต้องทำหน้าที่เหล่านี้อยู่ สุดท้ายก็กลายเป็นโศกนาฏกรรมความรักที่คนไม่ลืมเลือน
เด็กหอ (2549)
กำกับโดย ทรงยศ สุขมากอนันต์
เด็กหอคือหนังผีที่เลือกหยิบเอาบรรยากาศชีวิตในโรงเรียนประจำมาสร้างเป็นหนังของความสยอง สมัยนั้นยังไม่มีใครทำเลยมั้งกับไอ้เรื่องความน่ากลัวในโรงเรียนเนี่ย
ตัวหนังเล่าผ่านเด็กชายที่คิดว่าตัวเองไร้ตัวตน ครอบครัวก็จับส่งมาอยู่โรงเรียนประจำ แต่เขาก็ได้พบกับมิตรภาพระหว่างเพื่อนกับวิเชียร พร้อมกันนั้นก็มีความลึกลับจากครูปราณีเข้ามาทำให้คนสงสัย หนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงการที่ผู้ใหญ่เลือกซุกปัญหาไว้ใต้พรม ความห่างเหินของครูและนักเรียนในระบบการศึกษาไทยได้เป็นอย่างดีครับ
ร่างทรง (2564)
กำกับโดย บรรจง ปิสัญธนะกูล
โปรเจ็คต์ยักษ์ใหญ่ของหนังผีไทย การกลับมาทำหนังสยองขวัญในรอบ 14 ปีของโต้ง บรรจง พร้อมกับได้ผู้กำกับจาก The Wailing มานั่งแท่นโปรดิวเซอรให้ด้วย ทีเซอร์แรกปล่อยออกมาก็เรียกเสียงฮือฮาให้คนได้เพียบเลยครับ เพราะหยิบเอาคติความเชื่อทั้งหลายของไทยเข้ามาไว้ในซีนเดียวพร้อมการถ่ายแบบฟุตเทจในช่วงสุดท้ายที่เรียกได้ว่า "น้อยแต่มาก" ที่แท้
ร่างทรงเป็นหนังที่จะพาผู้ชมไปติดตามเรื่องราวการสืบทอดทายาทร่างทรงของครอบครัวหนึ่งในภาคอีสานของไทย ที่เห็นว่าคุณโต้งและทีมเขียนบทเค้าเดินทางไปพบร่างทรงตัวจริงมากกว่า 30 คนทั่วประเทศ ใช้เวลาไปเกือบ 1 ปีเต็มก่อนที่จะพัฒนามาเป็นบทภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดความลึกลับของร่างทรงให้ออกมาครบถ้วนสมบูรณ์
ชื่อโต้งซะอย่างไม่น่าทำให้ผิดหวัง แต่คราวนี้ร่วมมือกับผู้กำกับดังจากเกาหลี (ที่หนังของเค้าแต่ละเรื่องสนุกมากจริงๆ ครับ คอนเฟิร์ม) น่าสนใจว่า "ร่างทรง" อาจเดินทางไปได้ไกลในระดับสากลเกินหน้าชัตเตอร์ก็ได้ ใครจะไปรู้
Tag :
“โอ้โห ได้วิวนี้เลยเรอะ คอนโดอยู่ตรงนี้เลยจริงดิ นี่มันอยู่ท่ามกลางดง รีสอร์ท โรงแรม เลยนะ“ ผมเผลอหลุดปากออกมา เมื่อได้เห็นภาพโครงการครั้งแรก
"LIFE สาทร - นราธิวาส 22"...นี่น่าจะเป็น คอนโด LIFE ที่มีคนสนใจมากที่สุดในปี 2025
"KAVALON" พัฒนาโดย "เจ้าพ่อแคมปัสคอนโด" แห่งยุคอย่าง AssetWise ซึ่งนี่ก็เป็นโครงการที่ 6 แล้ว ในโซน ม.กรุงเทพ รังสิต
ในที่สุดที่ดินตรงหัวมุมพญาไท ต้นซอยรางน้ำ ที่ล้อมรั้วกันที่ไว้นานน๊านนานแล้วก็ลุ้นกันอยู่เป็นปีว่าจะขึ้นโปรเจกต์อะไร สรุปวันนี้ก็ได้ออกหัวออกก้อยแล้วในที่สุดครับ
ถ้าใครแวะไปสีลมจะเห็นได้ว่าเดิมทีมันมีที่ดินว่างติด BTS ศาลาแดง บริเวณข้าง Silom Complex อยู่
เอ๊ะ!! ปีนี้แบรนด์ 'Life' จาก AP มาติดๆ กันเลยแหะ!!
วันนี้มีโอกาสได้เข้าไปร่วมฟังเสวนาในหัวข้อ 'อยู่สูงอย่างมั่นใจอาคาร SC ปลอดภัย 100%'
"MX27" ช่วง "อโศก-พร้อมพงษ์" นี่มันดงโรงแรมชัดๆ
เหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา แม้ว่าจุดศูนย์กลางจะอยู่ที่ประเทศเมียนมาร์ แต่แผ่นดินไหวครั้งนี้ กลับรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้ถึงกรุงเทพมหานคร ที่อยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางไกลนับพันกิโลเมตร
เมื่อคนซาก็ได้เวลาไปกิน "CHICHA San Chen" ชานมไต้หวันฉบับออริจิ้นเทียบเท่ามิชลิน 3 ดาว!
วันก่อนไปเจอคาเฟ่หนึ่งมาครับ ชื่อร้านว่า Second Cafe Wanglang ไม่ใกล้ไม่ไกล อยู่ตรอกวัดระฆัง ตรงวังหลังนี่เอง
เปิดประสบการณ์ "Pavilion Luncheon Experience" เซ็ตอาหารไทยเบาๆ 4 ที่จากโรงแรม Dusit Thani Bangkok