การได้มาเยือน "Supalai Riva Grande" เวอร์ชั่นพร้อมโยกย้ายเข้าอยู่แล้ว ทำให้ 1 ในความฝันของผมตั้งแต่ละอ่อน สมหวังเสียที!!! 

        อาจจะดูเวอร์วังไปหน่อยเนอะ อิอิ เพราะโครงการ ก็ไม่ได้นานขนาดนั้น

        แต่นั่นก็เป็นเพราะว่า

        ก่อนจะมาเป็น "Supalai Riva Grande" ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตอนนี้

        ที่ดินตรงนี้นั้น เป็นอดีตโครงการใหญ่อันหนึ่งในสมัยก่อนของสหวิริยา "SV Garden" ซึ่งมียอดขายที่ดีเลย แต่ก็ล่มไปเพราะพิษเศรษฐกิจเมื่อปี 2540

        ต้องดำเนินการฟ้องร้องกันมากมาย (คุณแม่ผมก็ซื้อโครงการนี้เหมือนกัน ซึ่งเงินก็จมลงน้ำเรียบร้อย T-T)

        มันเป็นเรื่องที่ค้างคาในอดีตไง 5555 ผมเลยค่อนข้าง "อิน" เป็นพิเศษ เมื่อรู้ว่า "ป้าศุ"(ขออนุญาตเรียกด้วยความเคารพนะฮะ อิอิ) เข้ามาสานต่อ 

        อืม.. จะบอกว่าสานต่อ ก็ไม่เชิงแหะ เพราะ "ป้า" จัดการรื้อใหม่หมดแทบทุกอย่าง ไม่ใช้ของเก่า (สบายใจได้)

        ซึ่งก็เลยเป็นสาเหตุที่ใช้ระยะเวลาในการก่อร่างสร้างตัว ค่อนข้างพอตัว

        ตอนที่ทาง Supalai เปิดแผงให้จับจองเมื่อหลายปีก่อน ได้ออกมาเผยว่า ได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาด คนแห่แหนไปจองกันมากมาย ทำยอดขายได้สูงถึงกว่า 3500 ล้านบาท เกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ และถือเป็นโครงการที่มียอดขายสูงที่สุดในช่วงเปิดตัวของทาง Supalai เลย!!! (ณ ตอนนั้น) 

        ซึ่งเอาจริงๆ ผมไม่ค่อยแปลกใจเท่าไรนะ เพราะจัดว่าเป็นโครงการที่ "มีของ" ไม่น้อย 

        "คอนโดริมน้ำ" เป็นสิ่งที่อยู่ในฝัน ของใครหลายๆคน... ผมก็ด้วย ชอบริมน้ำมาก (บทความอาจจะเอนเอียงหน่อยนะครับ 555 อย่าว่ากันนะ) 

        แม้ที่นี่จะไม่ได้สวยสุดติ่ง รถไฟฟ้าก็ไม่ได้ใกล้ ควรมีรถใช้สอย แต่มันก็ยังได้ชื่อว่า "คอนโดริมน้ำ" 

        โครงการมีพื้นที่ยาวลึกจากถ.พระราม 3 ไปถึงริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ได้ทัศนียภาพของบางกระเจ้า ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ในการผลิตโอโซนให้กรุงเทพฯ 

        อีกจุดเด่นก็คือ "ทำเล"

        "Supalai Riva Grande" วางตัวเองอยู่ติด ถ.พระราม 3 ติดกับสำนักงานใหญ่ธ.กรุงศรี เซิชหาจาก "อากู๋" ได้เลย หาไม่ยาก

        "พระราม 3" จัดเป็นทำเลที่หลายคนชื่นชอบ

        ด้วยความที่ถนนแลดูกว้างขวาง ตึกสูงยังมีไม่มากนัก ไม่อึดอัด สะพานข้ามแยกหนีรถติดก็เยอะ(แต่รถก็ยังติดนะ 555) ใกล้ทางด่วน ไปไหนก็ง่าย

        ขับรถเข้าสาทร สีลม พระราม 4 ใช้เวลาไม่กี่นาทีเอง ออกไปวงแหวนอุตสาหกรรมก็สบาย จะ สุขุมวิท บางนา หรือท่าพระ ปิ่นเกล้า ก็ทะลุยาวๆง่ายๆทั้งนั้น

        คนมีรถ "เลิฟ" แน่นอน

        ยิ่งถ้ารถไฟฟ้าสายสีเทา เปิดหวูดให้บริการเมื่อไรล่ะก็ "พระราม 3" จะพุ่งไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ "ฟันธง"!!! (ขอยืมคำของอ.ลักษณ์มาใช้หน่อย อิอิ)

        ส่วนปัญหาหลักอย่างเรื่อง "ปากท้อง"

        ตลอดเส้นพระราม 3 จะมีร้านอาหาร . Community Mall อยู่เป็นระยะ มี "Central พระราม 3" เป็นแหล่งพึ่งพาให้เหล่า กระเพาะน้อยๆ ได้เป็นอย่างดี

        ที่สำคัญคือ "Terminal 21" ที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องมีร้านอร่อยๆเพียบ กำลังมาเสริมทัพเร็วๆนี้ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ปลายปีนี้คงได้ยลโฉม และไปฝากท้องกัน

        แถมหน้าคอนโด มี 7-Eleven ตั้งติดกันเลย มีกลุ่มร้านอาหาร , Cafe Amazon อยู่อีกด้วยนะ เรื่อง "ปากท้อง" หายห่วงแน่นอน

        และด้วยความที่ "ป้า" ตั้งราคาที่จัดว่า "ไม่แพง" (7x,xxxบ./ตร.ม.) สามารถเจาะเข้ากับตลาดชนชั้นกลางขึ้นไป ที่อยากมีคอนโดริมน้ำได้เป็นอย่างดี

        แล้วยอดขาย มันจะไม่ดีได้ไงล่ะ

        อะไรเนี่ย ทำไมมันเหมือนบทความกำลังจะจบ 555 ยังนะๆ ยังมีต่อ ไถต่อเลย

        "Supalai Riva Grande" เป็นคอนโดสไตล์รีสอร์ท 1 อาคาร 3 ทาวเวอร์ บนพื้นที่ดินขนาด 11-1-14 ไร่ ตึก A สูง 37 ชั้น ตึก B และ C สูง 36 ชั้น (รวมดาดฟ้า) มียูนิตพักอาศัยจำนวน 706 ยูนิต และร้านค้า 14 ยูนิต พื้นที่จอดรถ 130% ของจำนวนยูนิต

        ห้องพักอาศัย ขนาด 53.5 – 283 ตร.ม. แบบ 1-3 ห้องนอน ฝ้าเพดานสูง 2.65 ม. ราคาเริ่มต้น 4.59 ล้านบาท

        จริงๆมีแบบ 4 ห้องนอนด้วยนะ แต่หมดตั้งแต่ไก่โห่เลย ได้ยินมาว่า บางคนที่พลาด สอยไม่ทัน ถึงกับลงทุนซื้อ 2 ห้องมาต่อกันแทน!!! โว้ว เป็นการแก้ปัญหาที่ ไม่ทุนแน่นนี่ทำไม่ได้นะ อยากแก้ได้แบบนี้บ้างจังครับ อิอิ

        1 ห้องนอน จอดได้ 1 คัน , 2 ห้องนอน จอดได้ 1 คันแบบ Fix ที่ และ 3 ห้องนอน จะจอดได้ 2 คัน Fix ที่ 1 คัน

        พื้นที่จอดรถแบบ Fix จะรวมอยู่ในโฉนดให้แล้วเรียบร้อย 

        โครงการจะมีระบบ Elevator Control ลิฟท์ล็อกชั้น และประตูห้องเป็นระบบ Digital Door Lock

        มีการอัพเกรดหลายอย่าง เพื่อสอดคล้องกับยุค New Normal ด้วย เช่น ประตู Lobby เป็นแบบอัตโนมัติ ลดการสัมผัส และ ก่อนเข้าใช้พื้นที่ส่วนกลาง จะมีระบบ Face Scan

        ส่วนกลางโครงการ มีมาให้อย่างครบครัน อยู่ที่ชั้นแรก และ กระจายอยู่ชั้นดาดฟ้าทั้ง 3 ตึกนะ

        Fitness กว้างขวาง อยู่ด้านในสุด เทควิวสวน และแม่น้ำเต็มๆตาไปเลย

        Sauna & Steam , Aerobic พื้นที่ค่อนข้างเยอะทีเดียว เพียงพอต่อการใช้งานสบายๆ

        Board Room , Game Room ออกแบบมาได้น่าใช้งานอยู่นะ เป็นอีกโซนยอดฮิตที่คนจะมาใช้งานแน่

        Alice in Wonderland Kids’ Room โอ้โห ใครตั้งชื่อนะ 555 ผมชอบมากเลย ตั้งใจออกแบบมาให้เด็กมาเป็นอย่างดี ถูกใจเหล่าลูกหลานตัวจ้อยแน่นอน

        Snooker Room จู่ๆมือก็ล้วงกระเป๋าหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา... รู้ตัวอีกที ก็ถ่ายรูปไปแล้ว!! 555 สวยดีครับๆ 

        Rainbow Sky Lounge , The Riva Library , Theater และ Roof Garden ออกแบบมาได้สวยดี เทควิวกันได้เต็มๆ

        แค่เดินดูส่วนกลางให้ครบ ก็รู้สึกพลังงานโดนเผาผลาญ ไปเกือบหมดร่างล่ะ 5555

        หลังจากที่ได้มาเดินดูแบบตัวเป็นๆ นี่คือความเห็นของผม

        - เอ้ย ทางลมดีมาก เดินไปตรงไหน ก็มีสายลมมาซาลอน เปลี่ยนทรงผมให้ 555 

        - ทุกอย่าง ดูโอ่โถง กว้างขวาง ไม่อึดอัด ขัดหูขัดตา มันมีความผ่อนคลายทางอารมณ์อย่างบอกไม่ถูก

        - วิวขั้นเทพ ได้ทั้งความเย็นใจจากวิวแม่น้ำ และความสบายตาจาก "บางกระเจ้า"

        - ส่วนกลางหลายอย่าง เหมือนชะม้อยชะม้าย ส่งสายตาเชื้อเชิญ ให้เราไปแอบเอนกายงีบหลับ อิอิ

        - ยอมรับว่า ไม่ได้สวยบาดตาบาดใจตามยุคสมัยนี้นัก แต่ผมค่อนข้างมั่นใจว่า แม่ผมต้องชอบแน่นอน 555 

        - มานั่งนึกๆ ถ้าเป็นยี่ห้ออื่นทำ ก็คงจะสวยวูบวาบเตะตากว่านี้ แต่ราคาก็คงไม่ใช่หลัก ไม่เกินแสนต่อตร.ม.แบบนี้แน่ ผมเชื่อว่า Max ที่นี่ อาจเป็นได้แค่ราคาเริ่มต้นของยี่ห้ออื่นเท่านั้น..!!

        - พื้นที่ห้องระดับ 100-400 กว่าตร.ม. !!! ใครจะกล้าทำห้องขนาดนี้ในยุคที่เราเห็นห้องขนาด 20 ตร.ม.นิดๆกันแทบทุกโครงการ พื้นที่ใช้สอยอย่างกับยกทาวน์โฮมเอามาใส่ในคอนโดเลย 

        - อย่างที่บอกไปด้านบน ที่นี่มีองค์ประกอบที่ดีอยู่แล้ว ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีในการอยู่อาศัยเอง และด้วยปัจจัย "ค่าตัว" ที่ไม่แพง และพื้นที่ยังมีการพัฒนาอยู่ จะส่งผลดีในระยะยาวแน่นอนครับ 

        โดยสรุปก็คือ ถ้าเงินถึง และชอบสไตล์แบบนี้ ก็สอยได้เลย 

 

        ห้องไหนน่าสนใจ?

        โครงการมี 3 ตึก คือ A (ติดแม่น้ำ) , B และ C (ใกล้ถนน)

        หลังจากโดนสอบสวน น้องเซลล์ให้การว่า ตึก A เกลี้ยงแผงตั้งแต่พรีเซล จนถึงบัดนี้ มีการคืนห้องแค่ห้องเดียวเท่านั้น?!! แถมตอนนี้ก็มีคนมาช้อนไว้เรียบร้อย 

        จัดว่า ไม่ธรรมดาเลยนะ แม้ในภาวะแบบนี้ FC ของ "ป้า" ก็ยังคงมั่นคง

        โครงการกำลังจะโอนในอีกไม่นานแล้ว เพราะฉะนั้น ถ้าจะรอห้องหลุดโอน ผมคิดว่า มันน่าจะมีโอกาสแหละ (อยู่ที่โชคชะตาจะนำพาไหม 555) แต่อาจเหลือไม่ม่าก ใครอยากรอ ก็ต้องวัดใจดูเนอะ

        ส่วนคนที่ไม่ได้อยากรอ และยังไม่มีในครอบครอง โปรโมชั่นปัจจุบันตอนนี้ 1 ห้องนอนขนาด 53.5 ตร.ม. จากราคา 4.59 ลบ. ลดเหลือ 4.39 ลบ. หารแล้วตก 8.2 หมื่นบ./ตร.ม. เอง

        เป็นห้อง 1 ห้องนอนขนาดใหญ่ ที่ถ้าดูตามหน้ากระดาษ อาจจะเป็นห้องที่คนสนใจน้อย เพราะไม่ได้หันไปทางแม่น้ำ

        แต่พอได้ขึ้นไปดูของจริง เอ้ย ใช้ได้เลยนะ ห้องกว้างขวาง ส่องวิวเมืองโล่งสบายตา และชั้นสูงๆ จะเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งสะพานพระราม 9 ได้อีกด้วย

        เผลอๆ บางโครงการอาจจะเคลมแล้วว่านี่คือ ห้องวิวแม่น้ำ อิอิ

        สำหรับคนที่มีงบจำกัด ผมว่าเป็นตัวเลือกที่ดีนะ

        ส่วนที่ว่า เอาชั้นไหนดี?

        โดยปกติ "คอนโดริมน้ำ" ผมมักจะแนะนำว่าเอาชั้นไม่สูงมากนัก จะได้เห็น "แม่น้ำ" ได้เต็มตาหน่อย แต่กับที่นี่ พอขึ้นไปดูด้วยตาตัวเอง พบว่า "เอ้ย ชั้นสูงก็สวยวุ้ย"

        อาจจะเพราะ เป็นช่วงของแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ "กว้าง" กว่าปกติ และมาพร้อม "บางกระเจ้า" ก็เป็นได้นะ เลยวิวดีทั้งชั้นเตี้ย และสูง

        เพราะฉะนั้น อยู่ที่กำลังทรัพย์เลย ไหวชั้นไหน เอาชั้นนั้น

        อ๋อ เกือบลืมพูดถึงเลย ตรงห้องฝั่งที่หันไปทางตึกของธ.กรุงศรี (ตำแหน่ง 1-4) จากเดิมที่ วิวค่อนข้างเคลียร์ แต่หลายคนเริ่มกังวล เพราะดันมีโครงการมาผุดอยู่ข้างๆ ผมลองขึ้นไปส่องมาให้เรียบร้อย วิวมันดรอพลงจริงๆ มีบังบางส่วน แต่ผมก็ว่ายังโอเคอยู่นะ เพราะตึกยังพอมีระยะห่างกันพอควร ยิ่งถ้าชั้นสูงๆ ผลกระทบก็จะน้อยหน่อย 

        ได้ยินมาว่า "ป้าศุ" มีส่วนลดพิเศษให้ สำหรับบางห้อง ซึ่งแต่ละห้องจะไม่เท่ากันนะ ยังไงลองไปคุยดูก่อน 

        ก็ถือว่า "ใจ" อยู่พอสมควรนะ ทั้งที่จริงๆแล้วมันไม่ใช่ปัจจัยที่ทาง "ป้าศุ" จะคุมได้เลย ที่ดินว่างเปล่าขนาดใหญ่ อะไรก็เกิดขึ้นได้

        นี่เลยเป็นสาเหตุที่ว่า ตึก A(ติดแม่น้ำ) ค่าตัวจะแพงสุด ด้วยเพราะแทบจะการันตีแล้วว่า วิวแม่น้ำ ตลอดไปนั่นเอง

        คนที่สนใจ อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม คลิกที่นี่ เพื่อลงทะเบียน หรือแอดไลน์ไปคุยก็ได้นะ ถ้าชอบ ก็อย่าช้านะ ใกล้โอนแล้ว 

        หลังเชยชมจนเต็มอื่ม กะว่ามาดูสัก 2 ชม.น่าจะเสร็จ "เอ้ย นี่มันจะ 4 ชม.แล้วนะ" คุณบี โพล่งชึ้นมา 

        "อัยยะ เวลาเดินเร็วขนาดนี้เลยรึ?" สงสัยถึงเวลาต้องอำลากันเสียแล้ว เดี๋ยวจะพาลไปงานต่อไปสายเอา แฮร่ แล้วไว้เจอกันครับ