มีใครกำลังรอมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ครั้งใหม่กันอยู่บ้างมั้ยครับ เห็นว่าตอนนี้เค้ากำลังเตรียมปล่อยมาตรการใหม่ "พักทรัพย์ พักหนี้" ออกมาช่วยเหลือแล้วนะ
ที่ต้องปล่อยออกมาใหม่ ไม่ใช่ว่ามาตรการเก่าไม่ดีและไม่เกิดประโยชน์นะ แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นการ 'เกาไม่ถูกที่คัน' ซะมากกว่า
เพราะถ้าเราลองมองย้อนกลับไปดูมาตรการครั้งที่แล้วจะเห็นว่าเน้นไปที่การพักหนี้แบบรวม ๆ ไม่ได้แยกแยะว่าใครได้รับผลกระทบมากน้อยและต่างกัน
แต่สำหรับวิกฤตรอบนี้ เราเรียนรู้กันแล้วว่ามันเกิดผลกระทบระยะยาวและมีความไม่เท่าเทียมในการฟื้นตัว ดังนั้นต้องแยกที่เกา ต้องปรับนโยบายให้ถูกจุด 555
ทีนี้เรามาดูกันว่ามาตรการใหม่ "พักทรัพย์ พักหนี้" ที่จะออกมาช่วยผู้ประกอบการรายย่อยครั้งนี้ มีกระบวนการยังไง แล้วจะถูกที่คันแค่ไหนกันครับ
ผมขออธิบายง่าย ๆ ละกันนะครับ มาตรการนี้คือ การที่ลูกหนี้ธุรกิจรายย่อย รายเล็ก สามารถลดภาระทางการเงินได้ชั่วคราว ด้วยการโอนทรัพย์ไว้กับธนาคารโดยมีสัญญาซื้อคืน
เช่น นาย ก. เดิมมีหนี้ 40 ล้านบาท และมีทรัพย์สินที่ตีมูลค่าหลักประกันได้ 50 ล้านบาท นาย ก. ก็สามารถเอาทรัพย์ไปโอนทรัพย์ไว้กับธนาคารที่ 40 ล้านบาทได้
แต่ แต่ แต่... ข้อดีที่มาตรการนี้ช่วย นาย ก. ก็คือทรัพย์สินที่โปะหนี้เก่าไปนั้น นาย ก. มีสิทธิ์ที่จะกลับมาซื้อคืนในราคาที่ตีโอนไปด้วย
ประโยชน์ที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ ภาระหนี้ของ นาย ก. จะหายไป เป็นการให้โอกาส นาย ก. ได้มีเงินมาหมุนเวียนภายในระยะเวลา 3-5 ปี รอการฟื้นตัวของธุรกิจแบบไม่สูญเสียกิจการไป
ซึ่งระหว่างนั้น นาย ก. ยังสามารถเช่าทรัพย์สินนั้นเพื่อดำเนินกิจการต่อได้ในราคาที่ไม่แพง หรือสามารถดูแลทรัพย์สินตามใจต้องการได้ด้วยนะ
โดยค่าเช่าที่จ่ายไปก็ไม่ใช่จ่ายฟรีเหมือนเสียค่าเช่าที่ตัวเองเปล่า ๆ ให้ธนาคารนะครับ แต่สามารถนำไปหักกับราคาซื้อทรัพย์สินนั้นคืนได้อีกเช่นกัน
สรุปย่อ ๆ คือ การนำหลักทรัพย์ที่ค้ำประกันอยู่กับสถาบันการเงินมาฝากไว้แทน ซึ่งจะเหมือนกับการแช่แข็งหนี้ไว้ก่อน ไม่ให้ตกชั้นกลายเป็นหนี้เสีย หรือเอ็นพีแอล และยังสามารถซื้อกลับคืนเพื่อดำเนินกิจการต่อได้หากสถานการณ์คลี่คลายแล้ว นี่คือจุดเด่นของ 'พักทรัพย์ พักหนี้' ครับ
ส่วนตัวแล้วผมว่าเป็นมาตรการที่ 'เกาถูกที่คัน' อยู่นะ เพราะจะทำให้เกิดการเจรจาระหว่างเจ้าหนี้ (สถาบันการเงิน) และ ลูกหนี้ เพื่อออกสัญญามาตรฐานให้การตกลงง่ายขึ้น
ขณะที่ในแง่กลไกบางอย่าง ก็จะรักษาผลประโยชน์ระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ กว่าการให้นายทุนหรือเอกชนมาซื้อและครอบครองทรัพย์สินของเราไปครับ
แล้วใครที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของมาตรการนี้ล่ะ?
อย่างที่บอกไปตอนต้นเลยครับว่ามาตรการนี้เค้า 'หาที่คัน' มาแล้ว โดยมุ่งเน้นไปที่การช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบรุนแรง และต้องใช้เวลานานในการฟื้นตัว
ซึ่งต้องเป็นผู้ประกอบการที่มีศักยภาพและมีทรัพย์สินเป็นหลักประกัน ในการเจรจากับเจ้าหนี้สถาบันการเงินเพื่อหยุดหรือลดภาระหนี้ครับ
เอ่อ... ลืมบอกไปครับว่าระหว่าง 3-5 ปีที่เรา 'พักทรัพย์ พักหนี้' ทรัพย์สินของเราจะยังปลอดภัยไม่ถูกขายต่อหรือเข้าสู่กระบวนการอื่น ๆ นะ
เพราะเค้ามีข้อกำหนดให้เรามั่นใจด้วยว่า ผู้ประกอบธุรกิจนั้นมีสิทธิซื้อทรัพย์คืนเป็น 'ลำดับแรก' ในราคาต้นทุน
โดยจะเท่ากับราคาตีโอนบวกด้วยต้นทุนการถือครองทรัพย์ (carrying cost) ร้อยละ 1 ต่อปีของราคาตีโอน และต้นทุนในการดูแลรักษาทรัพย์ตามที่จ่ายจริงและสมควรแก่เหตุ
ฟังแบบนี้แล้วน่าจะช่วยต่อลมหายใจให้บรรดาผู้ประกอบการรายย่อยได้เยอะเลยนะ เพราะช่วยรักษาโอกาสให้ผู้ประกอบธุรกิจไม่ถูกกดราคาบังคับขายทรัพย์ (fire sale) ไปแบบ 'ไม่มีความหวัง'
ผมขอยกตัวอย่างกลุ่มเป้าหมายอย่าง 'กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว' ที่ตอนนี้ยังไม่สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่ ทำให้การจ้างงาน และการเกิดรายได้กระทบกันไปหลายต่อ
ถ้ามีมาตรการนี้เข้ามาช่วยก็จะเป็นการเลี้ยงให้ธุรกิจท่องเที่ยวต่าง ๆ ยังดำเนินต่อไปได้ โดยเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย กิจการก็จะพร้อมสร้างงานและทำรายได้อีกครั้งแบบไม่สะดุด
ซึ่งจากการประเมินเบื้องต้นคาดว่ามาตรการครั้งนี้จะสามารถพยุงการจ้างงานได้หลายแสนคน และช่วยบริษัทให้มีสภาพคล่องในการประกอบธุรกิจได้อีกหลาย 10,000 บริษัท รวมถึงช่วยลดความเสี่ยง GDP at risk ได้ด้วยครับ
แล้วข้อเสีย ข้อควรระวังของโครงการนี้ล่ะ?
ถ้าดูเนื้อหาของมาตรการจริง ๆ แล้วจะพบว่ามันคือการตีโอนทรัพย์ค้ำประกันให้เจ้าหนี้หรือธนาคารเพื่อตัดหนี้คงค้าง ตรงนี้ไม่มีอะไรใหม่ เป็นกระบวนการปกติของธนาคารอยู่แล้วครับ
ที่เพิ่มมาคือ เงื่อนไขซื้อคืนโดยลูกหนี้มีสิทธิ์คนแรก และสามารถเช่ากลับมาดำเนินกิจการได้ เห็นความแตกต่างอยู่ 2 ประเด็นนี้เท่านั้น
ทีนี้ก็อยู่ที่ธนาคารพาณิชย์เจ้าหนี้นั่นแหละครับ ว่าจะมีเกณฑ์ในการพิจารณาลูกหนี้มาเข้าร่วมโครงการยังไงกันบ้าง ต้องเลือกให้ทั่วถึงและไม่มองแค่สินทรัพย์คุณภาพดีเท่านั้น
เพราะถ้ามองลงไปลึก ๆ ลูกหนี้ที่มีสินทรัพย์ดี ๆ อาจจะไม่ได้ต้องการเข้าโครงการ เพราะมีสายป่านยาวกว่า ทุนใหญ่กว่า และมีช่องทางระดมทุนแบบอื่นนอกจากสินเชื่ออยู่แล้ว
ปัญหาจึงจะตกไปที่กลุ่มกิจการหรือธุรกิจที่มีศักยภาพดี แต่ไม่มีสินทรัพย์น่าสนใจเท่าที่ควรจะได้รับพิจารณาเข้าร่วมโครงการมากแค่ไหนครับ
เอาเป็นว่าใครที่ดำเนินธุรกิจ กิจการ หรืออุตสาหรรมที่เข้าค่ายของกลุ่มเป้าหมายมาตรการนี้ ก็เตรียมเกาะติดศึกษาข้อมูลกันไว้ให้ดี หรือจะลองไปปรึกษากับสถาบันการเงินไว้ก่อนก็ได้ ผมเชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งโอกาสดี ๆ ที่จะช่วยต่อลมหายใจให้เพื่อน ๆ พร้อมสู้อีกครั้งไม่มากก็น้อยแน่นอนครับ!!!
Tag : พักทรัพย์ พักหนี้ | มาตรการรัฐ | COVID 19
ผมคิดว่าทำเล ‘พัฒนาการ’ = ‘ทองหล่อ-เอกมัย แบบ eco’ อ่านเสร็จอย่าเพิ่งด่ากัน ขออธิบาย
ทุกครั้ง หลังไปดูโครงการของ "Assetwise" แถวมหาวิทยาลัย สิ่งหนึ่ง ที่เหมือนผมได้รับกลับมาคือ "พลังชีวิต"
หลังจากที่ "Flexi สาทร-เจริญนคร เฟส 1" มีผลตอบรับที่ดีมาพอสมควร ตอนนี้ ทาง "Sena Development" ก็ได้ฤกษ์ เตรียมปล่อย "Flexi สาทร-เจริญนคร เฟส 2" มาให้ได้จับจองกันแล้วนะครับ
มีใครรอรถไฟฟ้าสายสีส้มกันอยู่บ้างเอ่ย? ล่าสุดมีโครงการใหม่แกะกล่องจากออริจิ้นฯ ราคาน่ารักน่าคบหา ใกล้รถไฟฟ้าสายสีส้ม งานนี้แอบกระซิบว่าถ้าคุณเป็นทาสหมา ทาสแมว ต้องหยุดอ่านโดยด่วน กับ "Origin Place รามคำแหง 153"
รถไฟฟ้าสายสีชมพู เป็นหนึ่งในสายที่หลายคนคงตั้งตารอมากที่สุด ด้วยความที่สายสีชมพูใกล้เปิดให้บริการเต็มแก่เลยเริ่มมี 'คอนโด' ผุดขึ้นมาเป็นระยะๆ ตัวผมแอบไปดูทำเลโครงการใหม่มาหนึ่งตัวด้วยแหละ ฮิฮิ โครงการนี้ไม่ใช่ของใครอื่นไกลเป็น 'พี่แอล' (LPN) ของเรานี่แหละ คอนโด 'พาร์ค 168 นพรัตน์-รามอินทรา' แบรนด์คอนโดที่มาพร้อมเลขนำโชค
หลังจากเมื่อปีกลายออริจิ้นขึ้นแท่นเจ้าอสังหาฯ ที่เปิดตัวโครงการคอนโดเยอะที่สุด ปีนี้ผมแอบคิดว่าพี่อัศวินคงเพลาๆ ลงแล้วแหละ แต่เปล่าเลย ล่าสุดแง้มโครงการใหม่ปักหมุดย่าน 'ปิ่นเกล้า' มาอีกหนึ่งโครงการที่รอเปิดตัวอย่างโครงการ 'The Origin Pinklao' (ดิ ออริจิ้น ปิ่นเกล้า) คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ เอาใจทาส Gen Z
เป็นโปรเจกต์แลนด์มาร์กใหม่จากทาง "โรงแรมนารายณ์" ที่เห็นรูปแล้วต้องอุทานออกมาเลยว่า "นี่มันบ้าไปแล้ว!"
ช่วงนี้เพื่อนผมหลายคนเพิ่งเสียภาษาที่ดินกันไป แต่ก็มีอีกหลายคนเลยที่ทักมาสอบถามว่าอยากจะหาที่ดินใหม่ไปครอบครอง
ใคร ๆ ก็มักอยากจะมี Passive Income กันเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ซึ่งหนึ่งในรูปแบบการลงทุนที่ได้รับความนิยม และมีความปลอดภัยสูงนั่นก็คือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั่นเอง
เมื่อวันก่อนเห็นหลายๆ น้องๆ ว่าที่เฟรชชี่หลายคนลุ้นผล TCAS กันจนเกร็งเลย ยังไงก็ยินดีกับน้องๆ เด็ก 66 ทุกคนด้วยนะครับ ส่วนใครที่พลาดรอบนี้ก็ไม่เป็นไรนะ!! พอขึ้นมหาลัยแล้ว มันก็ได้ทำอะไรใหม่ๆ เยอะเนอะ อย่างเช่นการไปใช้ชีวิตเป็นเด็กหอกันครั้งแรก!! วันนี้เลยขอบิ้วอารมณ์ว่าที่เฟรชชี่ที่กำลังจะได้ไปอยู่หอทั้งหลาย ด้วยการมัดรวมหอพักสุดเจ๋งทั่วโลกต้อนรับเปิดเทอมใหม่!!
ได้ข่าวคราวมาสักพักแล้วว่า สตรีมมิงยักษ์ใหญ่ "Netflix" จะยกเลิกการหารบัญชี และก่อนหน้านี้ก็มีการทดสอบไปในบางประเทศแล้ว ล่าสุดพี่ไทยก็ไม่รอด
ครั้งแรกที่เห็นภาพโครงการนี้ออกมา ผมคิดในใจว่า 'แล้วจะรอดจากยุงหรอ' โครงการนี้มาจากประเทศจีนครับ ชื่อว่า "Liuzhou Forest City" จากประเทศจีนครับ แต่ก่อนหน้านี้ผมเคยเห็นอาคาร 'ป่าแนวตั้ง' แบบนี้มาก่อนแล้วกับโครงการ 'Qiyi City Forest Garden' ซึ่งอันนี้เค้านี้สร้างเสร็จ มีการเข้าอยู่ไปแล้วและพบปัญหาแบบที่ผมบอกเลย คือ 'ยุง'