ผู้ประกอบการ ชี้สภาพเศรษฐกิจยังไม่เหมาะกับการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เผยรายใหญ่อาจได้รับผลประโยชน์ เนื่องจากที่ดินจะถูกทยอยขายออกมา

 

        นางสรันทิพย์ เลิศปัญญาโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แกรนด์ ยูนิแลนด์ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยกับ “ไทยโพสต์” ว่า

 

        หากมีการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเกิดขึ้น มองว่าอาจยังไม่เหมาะสมกับเมืองไทยมากนัก เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่เอื้ออำนวยทำให้ผู้ถือครองที่ดินยังไม่สามารถนำเม็ดเงินมาลงุทนพัฒนาเป็นโครงการต่างๆ ได้ แต่ในขณะเดียวกันจะกลายเป็นว่าผู้ประกอบการรายใหญ่อาจได้รับผลประโยชน์มากกว่า เพราะที่ดินที่ยังไม่ได้ทำการพัฒนาจะถูกทยอยขายออกมาจำนวนมาก

 

        “ส่วนตัวแล้วไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ ถ้าหากมีการจัดเก็บภาษีดังกล่าวขึ้นมา ทำให้เป็นการผลักภาระให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งที่ดินเปล่าก็ยังพัฒนาเป็นโครงการอะไรไม่ได้มากนัก เนื่องจากกำลังซื้อไม่ค่อยดีจะขยายธุรกิจก็อาจจะยากสักหน่อย และแน่นอนว่าย่อมทำให้ต้นทุนของการทำธุรกิจเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทั้งนี้มองว่าควรเลื่อนการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างออกไปก่อน” นางสรันทิพย์กล่าว

 

        สำหรับภาพรวมการดำเนินธุรกิจที่ผ่านมายังอยู่ในระดับทรงตัว ไม่ได้มีอะไรแตกต่างไปจากปี 2558 ที่ผ่านมา

 

        มองว่ามีเพียงภาคของธุรกิจที่เกี่ยงเนื่องกับการท่องเที่ยว อาทิ โรงแรม ที่อาจมีผลประกอบการดีอยู่บ้าง ส่วนที่พักอาศัยแนวราบยังชะลอตัว แต่บริษัทยังคงเดินหน้าโครงการต่างๆ ตามแผนเดิมที่วางไว้ ไม่ว่าจะเป็นโครงการ "ไอ แอม ไชน่าทาวน์" ภายใต้เงินลงทุน 2,000 ล้านบาท ตั้งอยู่บริเวณถนนเจริญกรุง และโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ที่หัวหิน ซึ่งใช้เงินลงทุนไปราว 500 ล้านบาท เพราะเห็นว่ากว่าโครงการจะแล้วเสร็จก็ต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 2 ปี ตอนนั้นสภาพเศรษฐกิจคงปรับตัวดีขึ้น

 

        นางสรันทิพย์ยังกล่าว่า บริษัทยังมีที่ดินอยู่ทางแถบสวนหลวง ร.9 หรือสุขุมวิท 103 อีกจำนวน 70 ไร่ ปัจจุบันยังไม่มีแผนพัฒนาที่ดินแต่อย่างใด

 

ที่มา : ไทยโพสต์