ก่อนหน้านี้ผมมีโอกาสได้ไปเยี่ยมเยียนโครงการหนึ่งในย่านเกษตรฯ มาครับ เป็นโครงการติดริมถนนที่กำลังเริ่มต้นก่อสร้างแล้วล่ะ แต่ว่าผมก็ไม่ได้เริ่มเขียนถึงสักที
แต่ยังไงก็ไม่อยากปล่อยไปแฮะ รู้สึกว่าอยากจะเขียนถึงโครงการนี้อยู่มากเหมือนกัน นั่นเพราะส่วนตัวแล้วผมค่อนข้างประทับใจแบบห้องของโครงการนี้อยู่มากทีเดียว
ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมถึงประทับใจ เอาไว้ค่อยเล่าละกันนะ อุบอิบไว้ก่อน 55555
โครงการนี้เอาเข้าจริงแล้วต้องพูดตามตรงว่ามองจากด้านนอกไม่ได้รู้สึกว่าแตกต่างกับโครงการอื่นๆ ยังไง
แต่ว่าของจริงอยู่ภายในตัวโครงการครับ เรียกได้ว่าจัดเต็มและมีฟังก์ชั่นในเรื่องของสเปซที่ผมเห็นแล้วถูกตาต้องใจเหมือนเจอรักแรกพบย้อนไป 14 อีกครั้ง 5555
โครงการที่ว่าคือโครงการ "Oneder Kaset" คอนโดฯ ใหม่ ใกล้ ม.เกษตร และรถไฟฟ้าสายสีแดง 200 เมตรเท่านั้น!
ถ้าใครยังไม่คุ้นชื่อ ยังสงสัยว่าเจ้าของโครงการคือใคร ผมขอแนะนำคร่าวๆ ก่อนแล้วกันว่าเจ้าของโครงการคือเอกภูมิทรัพย์ ดีเวลลอปเมนท์ครับ
เจ้าตัวเค้ามาจากเจียงใหม่โน่นนน ลงมากรุงเทพฯ หนนี้เพื่อลงสนามตลาดคอนโดมิเนียมกรุงเทพฯ เป็นครั้งแรกเลย แต่ว่าตอนที่อยู่เชียงใหม่เค้าก็มีผลงานคอนโดฯ อยู่นะ และที่สำคัญคืออยู่เบื้องหลังโรงแรมดังในเชียงใหม่อย่างโรงแรมศิริปันนา เชียงใหม่ ด้วยครับผม
และก็อาจจะเพราะทำโรงแรมมาก่อนหรือเปล่าก็ไม่รู้แหละ มันทำให้พอลงสนามตลาดคอนโดฯ บ้างแล้ว การออกแบบจึงนับได้ว่าสามารถตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยได้ดีทีเดียว
"Oneder Kaset" เป็นคอนโดฯ แบบ Low-Rise ที่มีด้วยกันทั้งหมด 8 ชั้น 3 อาคาร พื้นที่โครงการขนาด 4-1-55.3 ไร่ จำนวนห้องมีอยู่ 585 ยูนิต + ร้านค้าอีก 7 ยูนิต ส่วนห้องพักนั้นจะมีให้เลือกกันตามด้านล่างเลยครับ
อย่างที่บอกไปว่าตอนนี้โครงการเริ่มก่อสร้างแล้ว กำหนดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ในช่วงประมาณ Q4 ปี 2565 หรือก็คือปีหน้านี้แล้วล่ะ (ซื้อวันนี้ได้อยู่ปีหน้านี้แล้วนะเออ)
โครงการตั้งอยู่ติดถนนงามวงศ์วานเลยครับ ใกล้กันคือสำนักงานใหญ่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เลยออกไปอีกนิดเป็น ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน ที่สำคัญคือใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง-น้ำตาล สถานีบางเขน เพียงแค่ 200 เมตรเท่านั้น!!
พื้นที่ส่วนกลางของที่นี่น่าสนใจมาก เพราะใช้คอนเซ็ปต์ “Alice in Onederland” ก็คือมีดีไซน์ที่แปลกตา เห็นแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ ด้วยสีสันเอยอะไรเอย แต่ผมเองยังไม่เห็นของจริงครับเพราะตอนที่ไปยังไม่ได้สร้าง แต่เห็นแค่รูปก็รู้สึกถึงฟีลแฟนตาซีแล้วล่ะ อ้อ เห็นว่าให้ส่วนกลางขนาดรวมกว่า 2 ไร่ด้วยนะ ถือว่าคุ้มอยู่
ถึงเวลาชะแว้บไปชมห้องตัวอย่างกันสักหน่อย
ว่าแล้วก็ขอเริ่มต้นที่ห้อง Studio ก่อนแล้วกันครับ
ขนาดของห้องไทป์นี้จะอยู่ที่ประมาณ 24 ตร.ม. เป็นห้องที่ผมชอบมากๆ ห้องหนึ่ง
เหตุผลคือดูขนาดห้องแล้วเหมือนจะเล็กใช่มั้ยล่ะ เวลาเราเข้าไปห้องไทป์ขนาดเท่านี้จะรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง จะหมุนซ้ายหมุนขวาก็คล้ายว่าผนังจะบีบเข้าหาเราตลอด ไหนจะเรื่องการออกแบบของห้องที่ก็ไม่ได้ดูต่างกันตรงไหนอีก
แต่ไม่ใช่กับที่นี่ครับ
โครงการนี้มีห้อง Studio ขนาดเล็กแต่ออกแบบได้ดีมาก ที่สำคัญคือได้ครัวปิดด้วย!
เป็นครัวปิดที่กั้นไว้ให้แบบเป็นสัดเป็นส่วนเลยนะ ไม่ดูไหลรวมไปกับตัวห้อง ถือได้ว่าเป็น Layout ที่หายากเหมือนกัน เพราะอย่างที่รู้ๆ ว่าปกติห้องไทป์นี้มักจะให้ครัวเปิด ทำให้เวลาทำอาหารกลิ่นมันฟุ้งไปหมด ลำบากอยู่เหมือนกัน
แถมห้องนี้ดูด้วยตาแล้วดูใหญ่กว่าขนาดจริงด้วยครับ น่าจะเพราะว่าประตูกั้นครัวที่ใช้บานสไลด์แบบ 3 ตอน พอตอนเปิดสามารถเปิดได้กว้างเลยพลอยทำให้ห้องดูโปร่งกว่าเดิม
ส่วนห้องนอนเองก็กว้างเหมือนกัน อยู่แล้วไม่อึดอัด มีพื้นที่สำหรับวางโซฟาแบบสองที่นั่งได้สบายๆ ตรงปลายเตียงมีผนังสำหรับแขวนทีวีซึ่งเว้นระยะระหว่างปลายเตียงเหลือไว้อีกเยอะครับ
ส่วนหน้าต่างในห้องนอนก็ให้มาแบบบานใหญ่เลย รับแสงธรรมชาติยามเช้ากันแบบเต็มที่ และยิ่งไปกว่านั้นที่นี่ยังให้ห้องไทป์ Studio ที่มี walk-in closet อีกต่างหาก พื้นที่อาจไม่ได้ใหญ่มากแต่ก็ไม่ได้ทำให้อึดอัดนะ
โซนนี้เองเชื่อมกับระเบียงด้านนอกครับ เป็นอีกหนึ่งจุดรับแสงในห้อง สาวๆ แต่งหน้ากันสะดวกเลยแบบนี้
แล้วก็ลืมบอกไปว่าห้องน้ำเค้าทำแบบที่ให้เราสามารถเดินเข้าไปใช้งานได้จากทั้ง 2 ฝั่ง คือจากทางครัวและจากทาง walk-in closet ทุกจุดในห้องเชื่อมถึงกัน สะดวกดี เพราะงี้แหละผมจึงชอบห้องไทป์นี้ของเค้ามากเป็นพิเศษ 5555
ถัดมาคืออีกห้องที่หลายคนเข้ามาแล้วชอบมากคือห้อง 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม. ครับ
เป็นห้องที่อัพไซส์ขึ้นมาอีกนิด และเราจะได้ฟังก์ชั่นที่แบ่งออกเป็นสัดส่วนมากกว่าเดิม
แต่ต้องยอมรับเลยนะว่าเค้าจัดห้องตัวอย่างออกมาได้สวยเตะตาดีจริงๆ สามารถนำเอาไปเป็นไอเดียในการแต่งห้องของเราได้เลยนะเนี่ย
เข้ามาปุ๊บเราจะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อนเลยครับ เป็นห้องนั่งเล่นที่ผมอุทานในใจว่า "กว้างจริงฟะ" เพราะพื้นที่เหลือยังมีอีกเพียบเลย แถมด้วยสไตล์การตกแต่งมันให้ฟีลเหมือนยกคาเฟ่มาไว้ในห้องยังไงยังงั้น
ห้องนั่งเล่นส่วนนี้เป็นพื้นที่สำหรับทานอาหารไปในตัวครับ ห้องตัวอย่างจัดไว้สำหรับสองที่ แต่อาจจะขยับขยายได้นะ และส่วนนี้ยังเชื่อมต่อไปยังส่วนครัวและส่วนของห้องนอน กั้นด้วยประตูบานสไลด์ คีย์แมนที่ทำให้ห้องดูโปร่งขึ้น
ห้องนอนมีพื้นที่พอดีๆ สามารถยืนแต่งตัวแต่งหน้าได้ ระยะปลายเตียงเองก็ยังมีเหลือแบบพอประมาณ ส่วนหน้าต่างก็ให้มาบานใหญ่เบิ้มทีเดียว
ห้องครัวของห้องนี้ก็ได้แบบครัวปิดเช่นกันครับ เชื่อมกับห้องน้ำและเชื่อมกับระเบียง ได้พื้นที่กว้างขวาง สามารถเปิดระบายอากาศในครัวได้ดี ใครที่ชอบทำอาหารทานเองน่าจะถูกใจ
อีกห้องตัวอย่างที่มีให้ดูกันคือ 1 Bedroom plus ขนาด 35 ตร.ม. ครับ
โครงการนี้เหมือนจะเน้นไปที่ห้องหน้ากว้างนะ เพราะเท่าที่ดูมาคนจะรู้สึกอิมเพรสกับจุดนี้มากเลย
อย่างห้องนี้เองก็เป็นห้องที่จัดแบ่งฟังก์ชั่นเป็นสัดส่วนอีกเหมือนกัน แต่ว่ามีห้องอเนกประสงค์เพิ่มมาให้นั่นเอง
ตัวห้องนั่งเล่นกว้างขวาง มีพื้นที่ระยะห่างจากโซฟาและทีวีในระยะที่พอดีครับ และที่สำคัญจากมุมของห้องนั่งเล่นเองก็จะเชื่อมไปกับทุกห้องที่เหลือเลย ทั้งห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว และห้องอเนกประสงค์
ทุกห้องด้านในนี้มีกั้นไว้ให้เรียบร้อยนะ แต่ว่าครัวจะเล็กอยู่นิดหน่อยเมื่อเทียบกับสองห้องที่ผ่านมา มีพื้นที่พอสำหรับยืนทำครัว แต่ไม่เหมาะจะทำครัวสองคนเท่าไหร่ 5555
ห้องนอนหลักเองมีขนาดที่เรียกได้ว่ากว้างเหมือนกัน หน้าตาคล้ายๆ กับห้อง 1 Bedroom ทางห้องอเนกประสงค์หรือห้องนอนเล็กของเรามีบานเลื่อนกั้นเป็นสัดส่วนจากห้องนั่งเล่นครับ พื้นที่เหมาะที่จะวางเตียงเดี่ยวกับตู้เสื้อผ้าอีกสักหลังแบบรู้สึกพอดีๆ
อย่างที่บอกไปว่าห้องของเขาทำออกมาได้ดีมากเลยล่ะ เข้าใจออกแบบ เพราะว่าแม้ห้องจะไม่ได้มีขนาดใหญ่แต่กลับทำให้เราไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไรเลยสักนิด ที่สำคัญยังเล่นกับสเปซที่ได้ในรูปแบบที่พลิกแพลงไปมาได้ด้วย
ราคาเริ่มต้นของเค้าตอนนี้อยู่ที่ 1.59 ล้านครับ ถูกมากนะ และต้องบอกก่อนว่าตอนนี้ทำเลย่านเกษตร-งามวงศ์วานนั้นไม่ใช่ย่อยๆ แถมโครงการโซนนี้ราคาเปิดตัวไม่ได้แพงมากนัก พวกน้องๆ นักศึกษาก็เหมาะที่จะอาศัยอยู่ที่นี่ครับ
ด้วยทำเลตั้งอยู่ติดถนนใหญ่งามวงศ์วาน และในอนาคตเองก็จะมีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายเข้ามาเสริมทัพแกร่งด้วย ดังนั้นในอนาคตราคาอาจจะเริ่มสูงขึ้นกว่าเดิมแน่ครับ
เหล่า first jobber หรือนักศึกษา ม.เกษตร ที่สนใจ ไม่อยากลงทุนกับค่าเช่าหอแต่อยากมองหาคอนโดฯ ราคาไม่แรงทว่ามีฟังก์ชั่นเหมาะกับคนรุ่นใหม่ ผมว่า pick โครงการ "Oneder Kaset" ไว้ในใจ ก็นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเหมือนกัน
Tag :
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ
