ไฮสปีดไทย-จีน ยังมีข่าวให้เราตามอย่างต่อเนื่องครับ แม้จะมีการระบาดของโควิดในระลอกใหม่แต่ก็มีการประชุมบอร์ดผ่าน ZOOM ไปเมื่อวันที่ 22 เมษายน ที่ผ่านมา มีการรายงานความคืบหน้าแนวทางบริหารจัดการพื้นที่สถานีกลางบางซื่อและสถานีรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิตและบางซื่อ-ตลิ่งชัน

        นอกจากนี้ในที่ประชุมยังมีการขออนุมัติทบทวนปรับกรอบวงเงินลงทุนและจัดหาแหล่งเงินทุนเพิ่มเติม กรณีภาษีมูลค่าเพิ่มจากการใช้เงินกู้, กรณีภาษีมูลค่าเพิ่มงวดที่ 27 ถึง 29, กรณีผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และภาษีมูลค่าเพิ่มจากอากรนำเข้า และจะขออนุมัติแนวทางการจัดประโยชน์พื้นที่เชิงพาณิชย์และป้ายโฆษณาบริเวณอาคารสถานีกลางบางซื่อและสถานีของสายสีแดง 12 สถานี

        ที่น่าสนใจคือในที่ประชุมนี้ยังมีวาระพิจารณาผลการะประมูลก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน (กรุงเทพฯ-โคราช) จะมีการขออนุมัติจ้างเอกชนผู้ยื่นข้อเสนอรายถัดไป งานโยธาสัญญาที่ 4-2 ช่วงดอนเมือง-นวนคร หลังกลุ่มกิจการร่วมค้า SPTK ซึ่งเป็นผู้ชนะประมูลด้วยราคา 8,626.8 ล้านบาท ไม่ยืนราคากลางตามระยะเวลาที่กำหนด 

        โดยผู้ที่ได้รับเลือกรายถัดมาคือ บมจ. ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น ซึ่งเสนอราคามาเป็นอันดับที่2 ซึ่งเสนอราคาอยู่ที่กว่า 10,000 ล้านบาท สูงกว่ากลุ่มกลุ่มกิจการร่วมค้า SPTK กว่า 2,000 ล้านบาท

        ก็ต้องตามต่อครับว่า มหากาพย์ไฮสปีดไทย-จีน จะเป็นอย่างไรต่อ ไว้จะคอยอัพเดทกันเรื่อยๆ ครับผม