MRT : ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย / /
23 Feb 2021 17:00เรารู้จัก "รัชดา-พระราม9" กันเป็นอย่างดีในนามของ CBD (Central Business Distric) แห่งใหม่ของกรุงเทพ ความดีงามของทำเลนี้ถูกหยิบยกมาพูดถึงอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากเป็นทำเลศูนย์กลางของเศรษฐกิจ เป็นพื้นที่ของแหล่งงาน การค้า และการคมนาคม เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งย่านที่สมบูรณ์แบบเป็นอย่างมาก
รัชดาเป็นย่านวัยทำงานขนานแท้ครับ สังเกตได้จากตึกสำนักงานที่ตั้งอยู่เรียงราย ทั้ง SAT AIA อสมท ฯลฯ จะว่าไปแล้ว นอกจากกลุ่มวัยทำงาน ผมทราบมาว่าในย่านนี้ยังเป็นทำเลที่เหล่านักศึกษามหาวิทยาลัยเค้าเลือกอยู่กันด้วยนะ
เหล่านิสิตนักศึกษา มศว. หอการค้า นี่อยู่กันเยอะเลยครับ แถมชาวต่างชาติก็เพียบจนหลาย ๆ คนขนานนามว่าที่นี่แหละ คือไชน่าทาวน์ที่สองของเมืองไทยเลย5555
อีกทั้งรัชดายังไม่ได้มีชื่อเสียงในด้านของการเป็น New CBD เพียงอย่างเดียวเท่านั้น รัชดายังเป็นที่รู้กันในฐานะย่านแห่งแสงสี มีสถานที่ที่รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน รวมถึงยังเป็นทำเลที่ยังสามารถพัฒนาต่อไปได้อีกเรื่อย ๆ
ซึ่งรัชดา ได้พิสูจน์ความเป็นทำเลที่มีศักยภาพของตัวเองได้เป็นอย่างดีครับ สังเกตได้จากการทีเหล่าดิเวลลอปเปอร์เจ้าเล็กเจ้าใหญ่หลายราย ตบเท้าเข้าไปลงเสาเข็ม ปักหมุดพัฒนาโครงการกันอยู่เรื่อย ๆ
เกริ่นถึงรัชดามาอย่างนี้ คงพอเดากันได้เนอะว่าวันนี้จะชวนไปเดินส่องทำเลกันแถว ๆ ไหน ใช่แล้วครับ วันนี้เราจะไปทอดน่องกันแถวรัชดา ย่านแห่งความสมบูรณ์แบบที่ผมเกริ่นไว้ด้านบนนี่แหละโดยวันนี้จะเป็นการพาทุกคนไปเดินทอดน่อง สำรวจทำเลของโครงการใหม่แกะกล่องอย่าง Groove Muse Ratchada7 (กรู๊ฟ มิวส์ รัชดา7) กันครับ
นอกจากจะได้ไปเดินสำรวจทำเลโครงการแล้วเนี้ย ผมยังมีโอกาสได้เข้าไปชมห้องตัวอย่างที่สำนักงานขายของเค้ามาแล้วด้วยนะ!! ถ้าพร้อมแล้ว เราไปเดินสำรวจพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าครับผม!!
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักโครงการ กรู๊ฟ มิวส์ รัชดา7 กันแบบคร่าว ๆ กันก่อนดีกว่าเนอะ โครงการนี้เป็นเค้าจะสร้างมาเป็นคอนโดแบบ Low-Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 201 ยูนิต ตั้งอยู่ในซอยนาทอง 7 เชื่อมต่อกับซอยรัชดา 7 หรือซอยหลังบิ๊กซีนั่นเองครับ ซอยนี้มีบ้านคนอยู่เยอะ เป็นซอยเล็ก ๆ เงียบ ๆ เหมาะแก่การอยู่อาศัยเลยแหละ
ที่ตั้งโครงการจริง
อีกหนึ่งภาพจำของกรู๊ฟสำหรับผมคือเรื่องดีไซน์เพราะเค้าไม่เคยทำให้ผิดหวัง แต่ละโครงการที่เค้าทำมาสวย ๆ ทั้งนั้นครับ
จุดขายเรื่องการออกแบบและดีไซน์ยังคงเก๋าเกมส์อยู่เช่นเดิมครับออกแบบในสไตล์ Modernism มีการนำเอาศิลปะแบบป็อบอาร์ตมาใช้พร้อมลวดลาย Abstract geometric เน้นสีสันสดใส แต่ยังดูสบายตาไม่ฉูดฉาด
โดยจะส่งแบบห้องมาให้เลือกทั้งแบบ 1 Bedroom ขนาด 25.20-35.69 ตร.ม และ 2 Bedroom ขนาด 42.41 ตรม. ด้านที่จอดรถทั้งหมดของโครงการ คิดเป็น 42% Auto Parkong จำนวนลิฟต์ 2 ตัว ครับ
สำนักงานขายของโครงการสร้างเสร็จพร้อมเปิดบ้านให้เข้าไปชมห้องตัวอย่างแล้วด้วยครับ โดยสำนักงานขายกับที่ตั้งโครงการอยู่คนละที่กันนะ ตัวโครงการตั้งอยู่กลางซอย ส่วนสำนักงานขายจะอยู่ปากซอยนาทอง 7 เลย
โดยปกติแล้วผมเป็นคนที่ไม่ชอบอะไรที่ฉูดฉาดนะ แต่พอเดินเข้ามาในสำนักงานของเค้าแล้วต้องยอมรับจริง ๆ แหละว่า "สวยมากกกก"
แม้จะใช้สีที่ฉูดฉาดแต่ก็ยังรู้สึกสบายตา เป็นการจับคู่สีที่ลงตัวมาก ๆ ซึ่งในโครงการเค้ามีห้องตัวอย่างอยู่ 2 แบบคือ 1 Badroom 25.35 ตร.ม และ 1 Badroom 36.96 ตร.ม
เรามาดูห้องตัวอย่างห้องแรกกันครับ 1 Badroom 25.35 ตร.ม ห้องตัวอย่างสามารถเนรมิตเนื้อที่ 25.35 ตร.ม. ให้ไม่ดูคับแคบและอึดอัดเลย
ผมชอบที่เค้ามีการแบ่งแยกทุกโซนของห้องเป็นสัดเป็นส่วน ตัวห้องถ้าเปิดประตูเข้าไปเราจะเจอโซนครัวก่อน ซึ่งเป็นครัวเล็ก ๆ ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการทำอาหารแบบจริงจังอะไร แต่ก็พอตอบโจทย์ชาวคอนโดยุคใหม่แหละ (ที่ไม่ค่อยทำอาหารกินเองกัน)
พวก Built In ต่าง ๆ ออกแบบมาเพื่อการประหยัดเนื้อที่มาก ๆ โดยฝั่งตรงข้ามของครัวจะเป็นห้องน้ำครับ มีแบ่งเป็นโซนเปียกโซนแห้ง ห้องน้ำมี 2 ประตูนะ จะเป็นประตูฝั่งห้องครัว และประตูที่เชื่อมต่อไปห้องนอนได้เลย
ถัดจากโซนครัวจะเป็น Living Area เล็ก ๆ พอตั้งโซฟาและ TV ได้ครับ เนื้อที่ไม่ได้กว้างมากนัก แต่ก็พอให้นั่งพักผ่อนได้อยู่แหละ
เค้าจะมีบานเลื่อนบ่งบอกอาณาเขตด้วยนะ หายห่วงเรื่องกลิ่นอาหารจากห้องครัวได้ด้วย และท้ายสุดจะเป็นห้องนอนที่จะมี walk in closet เล็ก ๆ มาให้ด้วยนะครับ ชอบนะ เค้ามีมาให้ครบเลยในห้องที่มีขนาดพื้นที่ 25.35 ตร.ม เอง ดูไม่คับแคบ มีความเป็นสัดเป็นส่วนมาก ๆ
ห้องต่อมา 1 Badroom 36.96 ตร.ม จะเรียกว่าห้อง 1 Bedroom Plus ก็ได้นะ เพราะห้องนี้เค้ามีห้องอเนกประสงค์มาให้ด้วย เข้าไปในห้องเราจะเจอห้องครัวเช่นเดียวกันครับ
เค้าใช้เฟอร์นิเจอร์ เดียวกันกับห้องเมื่อกี้เลย ขนาดครัว ๆ เท่า ๆ กันครับ แต่ห้องนี้เพิ่มฟังก์ชั่นมานิดหน่อย เพราะตรงข้ามเค้ามี Built In เป็นตู้วางรองเท้าหรือวางของมาให้ด้วย ส่วนห้องน้ำยังคงเชื่อมต่อกับทั้งห้องครัวและห้องนอนเช่นเดียวกันครับ
Living Area ก็น่าจะเท่า ๆ อีกห้องนะครับ คือพอที่จะตั้งโซฟาและTV ส่วนที่เปลี่ยนไปคือ ถัดจาก Living Area ตรงนี้จะเป็นห้องอเนกประสงค์แล้วครับ สามารถปรับเป็นห้องทำงานได้ด้วย อย่างห้องตัวอย่างนี่เค้าปรับเป็นสตูดิโอโยคะขนาดย่อม ๆ ครับ พื้นที่ก็พอใช้ทำงานได้นะ แต่ถ้าจะปรับเป็นห้องนอนนี่ไม่น่าจะไหวเล็กเกิน
ไปดูห้องนอนกันดีกว่า ในห้องนอนจะแบ่งเป็นห้องแต่งตัวให้ด้วย แต่ขนาดไม่ใหญ่เท่าไหร่ครับ ใครที่ของเยอะ ๆ อาจจะต้องเอาไปเก็บในห้องอเนกประสงค์นั่นแหละถัดไปจะเป็นห้องน้ำที่เชื่อมต่อไปที่ครัวได้ แยกโซนเปียกโซนแห้งเรียบร้อยเลย
ดูห้องตัวอย่างเสร็จแล้ว ผมชอบนะ เค้าทำห้องสวยดี หนึ่งเลย การออกแบบตกแต่ง การใช้สี คงคอนเซ็ปต์ศิลปะแบบป๊อบอาร์ตมาก ๆ สีสันสดใส มาเห็นห้องตัวอย่างแล้ว พอจะเห็นกลุ่มลูกค้าขึ้นมาเลย ผมว่าคน Gen Y / Gen Z น่าจะถูกใจแน่นอน
เอ้อ ขอพูดถึงสิ่งอำนวยความสะดวกหน่อยละกันที่นี่มีส่วนกลางถึง 4 ชั้น มีทั้ง Working Pods , Private office , Zoom Meeting , Gallery walkway , Fitness , Dance Studio , สระว่ายน้ำระบบเกลือ เป็นต้น
เก็บภาพในสำนักงานขายเรียบร้อยแล้ว เราไปเดินชมทำเลกันเลยดีกว่าเนอะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ : หากมาโดยรถยนต์สามารถเดินทางเข้าออกได้หลายเส้นทางมาก ๆ ทั้งถนนรัชดาภิเษกถนนวิภาวดีรังสิต ถนนเทียมร่วมมิตร ถนนเพชรบุรี ขับเข้ามาในซอยรัชดา 7 ต่อได้
แต่ข้อเสียคือในซอยถนนแคบมาก ๆ รถใหญ่ ๆ น่าจะสวนกันลำบากนิดนึง5555 เพราะฉะนั้นถ้าอยากมาดูโครงการจริง ๆ แบบยังไม่ชำนาญการขับขี่ในซอย ผมแนะนำให้มาด้วยรถไฟฟ้าแล้วโบกพี่สุชาติต่อดีกว่า สะดวกกว่าเยอะเลย
การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า : เดินทางด้วยวิธีนี้สะดวกสุด ๆ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า MRT ศูนย์วัฒนธรรมไม่ไกลนักระยะทางราว ๆ 2 กิโลฯ เห็นจะได้
เมื่อมาถึงสถานีศูนย์วัฒนธรรมแล้วให้เดินออกมาที่ทางออก 4 (ฝั่งบิ๊กซี) มาถึงตรงนี้จะพบเหล่าอัศวินกั๊กส้มรอให้เราใช้บริการอยู่ครับ บอกพี่ ๆ เค้าว่าไปซอยนาทอง 7 ค่าโดยสารไม่เดิน 15 บาทครับ ถูกมาก
การเดินทางด้วยรถเมล์ : มีหลายสายให้เลือกสรรค์ ครับตั้งแต่ ปอ.172 , 79 , 185 , ปอ. 514 , 529 , 74 นั่งมาลงป้ายบิ๊กซี รัชดาฯ หลังจากนั้นก็โบกวินต่อได้ครับ
ข้อเสียคือหากเดินทางด้วยวิธีนี้ต้องทำใจเรื่องรถติดนิดนึงนะ เพราะเส้นนี้ก็ขึ้นชื่อเรื่องรถติดอยู่พอสมควรเลยล่ะครับ
ห้างสรรพสินค้าและร้านรวง : เป็นจุดเด้นยืนหนึ่งของทำเลแห่งนี้เลยครับ เพราะมีห้างสรรพสินค้าเยอะมาก ๆ เลือกเอาเลยว่าอยากเข้าไปช้อปปิ้งที่ไหน มีทั้ง บิ๊กซี รัชดา , เดอะ สตรีท , เอสพลานาด รัชดา , โลตัส , ฟอร์จูน , เซ็นทรัล พระราม 9 , จี ทาวน์เวอร์ , ตลาดนัดรถไฟรัชดา , ตลาดห้วยขวาง เยอะมาก
อย่างที่ผมบอกว่าตรงนี้เป็นหนึ่งในทำเลที่อุดมสมบูรณ์มาก ๆ ถ้าในน้ำมีปลาในนามีข้าว ในรัชดาก็มีเหมือนกันครับ555 หมูกระทะ ชาบู ร้านข้าวเพียบ อยู่ที่นี่ต้องคุมอาหารหน่อยนะครับเป็นห่วง อิอิ
อย่างห้างที่ใกล้โครงการที่สุดคือบิ๊กซี คืออยู่ในระยะที่เดินมาก็ได้ (เข้าทางหลังห้าง) ข้างหน้าบิ๊กซีมีฟู๊ดคอร์ทขนาดย่อม ๆ เลยไปนิดเป็นเอสพลานาด ทะลุไปก็เจอตลาดนัดรถไฟแล้ว นี่
ยังไม่รวมร้านโลวคอลในซอยอีกนะ เยอะมาก ๆ ยกมาพูดไม่ไหวจริง ๆ ฮะ เอ้อ มีซูเปอร์มาร์เก็ตเกาหลีด้วยเน้อ ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลย ผมเคยไปเดินช้อปมาแล้วด้วยนะ ลองไปอ่านเล่น ๆ กันได้ฮะ ติดดอยอันยอง พาท่อง "JIDUBANG MARKET" ซูเปอร์มาร์เก็ตเกาหลีที่ไหญ่ที่สุดในไทย (แอบขายของนิดนึง อิอิ)
สรุป : รัชดาถ้ามองจากจากสายตาคนภายนอก อาจจะมองว่านี่เป็นย่านที่ไม่เคยหลับไหล นอกจากสถานบันเทิง ห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ ตึกสำนักงานที่ขึ้นเรียงรายแล้ว ดูเหมือนว่าที่นี่จะวุ่นวายอยู่พอสมควร แต่ความจริงแล้วภายในซอยเล็กซอยน้อยของย่านนี้ ยังมีชุมชนเงียบสงบที่ซ่อนอยู่ภายใต้เงาตึกสูงไม่น้อยเลยนะครับ
ความดีงามคือตัวโครงการนี้เค้าอยู่ในย่านชุมชน ดังนั้นใครที่โหยหาความสงบ ในย่านที่คึกคักผมว่าโครงการนี้ล่ะตอบโจทย์สุด ๆ อีกทั้งใครที่ชอบชีวิตติดเมือง เดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้แหล่งงาน เข้าเมืองง่าย มีรถสาธารณะหลากหลาย ที่นี่ก็ยิ่งตอบโจทย์เข้าไปใหญ่
ส่วนราคาค่าตัวเห็นทำเลดี อยู่ใจกลางรัชดาเพียบพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกแบบนี้ ค่าตัวไม่แรงครับเริ่มต้นที่ 2.59 ล้านบาท (ข้อมูล ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2564) เท่านั้นเอง
ส่วนวันนี้ผมขอลาไปก่อนแล้ว ทิ้งท้ายด้วยภาพจากโครงการและการสำรวจทำเลเช่นเคยครับ ใครสงสัยตรงไหน สามารถสอบถามข้อมูลโครงการเพิ่มเติมได้ที่โทร 090 903 6662 หรือถ้าใครอยากสอยโครงการสวย ๆ ทำเลงาม ๆ แบบนี้ สามารถเข้าไปลงทะเบียนได้ที่ คลิก รอเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับได้เลยครับ
Tag : Groove Muse Ratchada7 | กรู๊ฟ มิวส์ รัชดา7 | Divine Development
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ