ถึงผมจะเป็นพวกหลงรูป แต่จะเลือกซื้อบ้านกันทั้งทีจะมัวมามองแค่รูปลักษณ์มันก็ไม่ใช่ครับ
ปัจจัยต่างๆ ในการซื้อบ้านของผมนี่สามารถลิสต์ออกมาได้ยาวตั้งแต่จากบางใหญ่มาจรดที่คลองเตยได้ด้วยซ้ำ (เว่อร์ไป!!!)
ทำพูดเล่นไปนะ ความจริงสิ่งที่ต้องใส่ใจมากๆ ในการซื้อบ้านซื้อคอนโดนี่มีเยอะมาก ใช้มือสองข้างนับก็ยังนับได้ไม่หมด ไม่ว่าจะสไตล์ของบ้าน พื้นที่ใช้สอย รูปลักษณ์ หรือกระทั่งที่ตั้งโครงการก็ต้องใส่ใจอย่างละเอียดครับ
แต่เดี๋ยวนี้สิ่งที่หลายๆ คนเค้าเลือกดูกันเป็นอันดับต้นๆ รู้มั้ยว่าคืออะไร... มันก็คือ "วัสดุที่ใช้ก่อสร้าง" นี่แหละ
เจ้าสิ่งนี้มันจะช่วยทำให้เราสามารถตัดสินใจได้ว่าส่วนประกอบต่างๆ ในบ้านน้อยกลอยใจของเรามันเป็นยังไง เหมาะสมมั้ย ปลอดภัยหรือเปล่า กระทั่งว่าหากอยากจะต่อเติมบ้านของเราในอนาคต วัสดุบ้านของเรามันจะเอื้อในการทำแบบนั้นมั้ย ขนาดนั้นเลยครับ
เดี๋ยวนี้จะเห็นกันนะ เวลาโฆษณาบ้านโผล่ขึ้นมาทั้งทีจะมีคำพวกนี้ห้อยอยู่ "ผนังสร้างจากวัสดุ XXX" เพื่อเป็นการประกอบการตัดสินใจและเป็นการเรียกความสนใจให้คนมามุงกันมากกว่าเดิม
ซึ่งวัสดุหลักๆ ที่คนนิยมกันมันก็มีอยู่ไม่กี่อย่างหรอก แต่วันนี้ที่ผมอยากจะขอหยิบมาเปรียบเทียบกันก็คือ "ผนัง Precast VS ผนังอิฐแดง"
เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่าเพราะอานิสงค์ของ covid-19 ผนัง Precast เลยกลับมาเป็นที่นิยมกันมากอีกครั้ง ซึ่งเจ้าผนังชนิดนี้คือการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้สร้างผนังคอนกรีตสำเร็จรูปและก็เริ่มบูมขึ้นเรื่อยๆ
แต่ว่าผนังแบบดั้งเดิมอย่างผนังอิฐแดงหรืออีกชื่อคืออิฐมอญนี่ก็ยังเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คนอยู่ดี เพราะงั้นเดี๋ยววันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าทั้งสองอย่างนี้มีข้อแตกต่างกันในเรื่องไหน ใช้อะไรแล้วถึงจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของเราได้มากที่สุดครับ
ความแข็งแรงและความทนทาน
ผนัง Precast นั้นเป็นผนังที่สร้างจากคอนกรีตเสริมเหล็กหล่อสำเร็จรูปครับ ผลิตจากในโรงงานอุตสาหกรรม ที่ในกระบวนการการผลิตนั้นเป็นไปตามมาตรฐาน ทำให้มั่นใจได้ว่าผนัง Precast จะมีมาตรฐานสม่ำเสมอกันทุกชิ้น แข็งแรงและรับน้ำหนักได้มากกว่าอิฐทุกประเภท แถมยังแข็งแกร่ง ทนทานอีกด้วย
ส่วนอิฐแดงนั้นก็ต้องยอมรับว่าเก่าแต่เก๋าประสบการณ์เหมือนกัน เห็นได้จากสถาปัตยกรรมโบราณทั้งหลายที่ต่อให้เวลาจะผ่านไปนานก็ยังโชว์ความแข็งแกร่งทนทุกสภาพอากาศ อวดโฉมให้ได้เห็นกันอยู่จนถึงทุกวันนี้ นับว่าทั้งสองแบบนั้นมีความทนทานที่ใกล้เคียงกันครับ
การก่อสร้าง
นับเป็นข้อดีของ Precast เค้าล่ะเพราะผนังรูปแบบนี้สามารถก่อสร้างได้รวดเร็ว เนื่องจากว่าผนังนั้นถูกสร้างขึ้นรอไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว น้ำหนักก็เบาทำให้ใช้แรงงานก่อสร้างน้อยลง ไม่ต้องเสี่ยงดวงกับฝีมือช่างหรือสภาพอากาศ ที่สำคัญยังลดปัญหามลภาวะฝุ่นและเสียงในขณะก่อสร้างด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็มีข้อเสียคือต้องเตรียมงานล่วงหน้านานแถมยังต้องรอบคอบครับ เพราะว่าต้องคำนึงถึงการผลิต การขนส่ง และการติดตั้งด้วยนะ
ด้านอิฐแดงนั้นใช้เวลาในการก่อสร้างนานกว่า Precast ครับ แถมต้องใช้ช่างที่ชำนาญงานฉาบปูนบนผนังอิฐประเภทนี้ด้วย เพราะถ้าไม่เก่งจริงก็อาจมีผลทำให้ผนังเกิดรอยร้าวได้เลย แต่ก็นั่นแหละ ช่างบ้านเราเค้าชำนาญเทคนิคการก่อสร้างโดยใช้อิฐแดง เพราะงั้นอิฐชนิดนี้จึงยังฮอตฮิตในการเลือกมาใช้ทำโครงการอาคารและที่อยู่อาศัยมาตลอด ลูกค้าส่วนใหญ่เองก็ชอบอิฐประเภทนี้มาก่อผนังมากกว่าด้วยเหมือนกัน
การต่อเติมในอนาคต
เพราะ Precast รับน้ำหนักได้ดี เลยกลายมาเป็นข้อเสียในจุดนี้ครับ เพราะคุณสมบัติความแข็งแรงเสริมเหล็กมักจะรวมอยู่ในการคำนวณการรับน้ำหนักโครงสร้างบ้านอยู่แล้ว กลายเป็นว่าเวลาที่เรามีไอเดียอยากจะต่อเติมบ้านเลยเป็นเรื่องยากเนื่องจากทุกส่วนมันเชื่อมกันหมด ทุบจุดเดียวมีสิทธิ์ทุบพังทั้งบ้าน แถมในผนังยังมีเหล็กเสริมอยู่เพียบ เราไม่มีทางรู้เลยว่าถ้าลองเจาะเข้าไปแล้วจะเจอเหล็กหรือเปล่า ตรงจุดนี้เลยต้องอาศัยช่างที่มีความชำนาญเข้ามาช่วย หมดสิทธิ์พับแขนเสื้อทำเองแล้ว
ตรงกันข้ามกับผนังที่สร้างมาจากอิฐแดงครับ เพราะการก่อสร้างในรูปแบบนี้จะมีเสาและคานเป็นตัวเชื่อม ทำให้การทุบ ตอก เจาะ หรือต่อเติมเป็นเรื่องที่เราสามารถทำได้ง่าย ไม่ทำให้เสียรูปร่างของบ้าน ไม่กระทบกับจุดอื่นๆ แต่ยังไงเพื่อความแน่นอนผมว่าก็ให้ถึงมือช่างที่ชำนาญมาช่วยวิเคราะห์ให้เหมาะสมกับตัวบ้านน่าจะช่วยเซฟเราได้มากกว่านะ 5555
ปัญหาการรั่วซึม
ไม่พูดถึงไม่ได้เลย เพราะต้องบอกตรงนี้นะว่าผนังทั้งสองแบบนั้นสามารถพบเจอกับปัญหาเรื่องการรั่วซึมได้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าคนละแบบเท่านั้น
อย่าง Precast เนี่ย ปัญหาเรื่องการรั่วซึมของเค้าจะพบในกรณีที่น้ำจากภายนอกรั่วซึมผ่านรอยต่อของผนัง ถ้าหากว่าช่างติดตั้งให้แบบไม่ได้คุณภาพนี่ผนังจะเกิดการแตกร้าวและทำให้เกิดปัญหารั่วซึมได้ง่าย หนำซ้ำพอมันร้าวขึ้นมาก็แก้ไขยากละ นั่นเพราะตัวคอนกรีตมีความแข็งสูงมาก ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะมาซ่อมอีกทีหนึ่ง
ส่วนปัญหาการรั่วซึมในผนังอิฐแดงนั้น รั่วซึมได้จากรอยร้าวของผนังครับ เกิดจากการที่ผนังเกิดรอยร้าวเหมือนกัน แต่ในเรื่องของสาเหตุนั้นก็มาจากหลายๆ ปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการฉาบปูนเอย การก่อสร้างเอย สรุปคือมันขึ้นอยู่กับฝีมือช่างนั่นแหละว่าทำงานเนี้ยบมั้ย ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ตัววัสดุเนอะ เพราะงั้นเราถึงต้องใส่ใจหน่อยเวลาจะเลือกช่างในการก่อสร้างสักหนหนึ่ง
ปัญหาเรื่องเสียง
ผนัง Precast มีข้อดีที่เด่นมากก็ตรงที่ว่าเป็นผนังที่กันเสียงได้มาก เพราะตัวผนังมีความหนาแน่นสูงครับ เพราะงั้นมั่นใจได้เลยว่าสามารถป้องกันเสียงได้ดีแน่นอน
ส่วนผนังอิฐแดงนั้นอย่างที่รู้กันว่าเป็นผนังที่มีรูปลักษณ์คือมีรูระบายอยู่ภายใน ทำให้ฉนวนกันเสียงทำงานได้ดีน้อยกว่าอยู่บ้าง ถ้าอยากให้อัพเกรดสกิลของน้องขึ้นมาหน่อยก็ต้องก่ออิฐแบบ 2 ชั้นล่ะนะ
ปัญหาเรื่องความร้อนในตัวบ้าน
ผนัง Precast กันเสียงได้ดีแต่ว่าอมความร้อนสูง นั่นเพราะว่าผนังมันมีความหาแน่นแถมยังมีเหล็กเส้นเพียบครับ ตัวผนังไม่มีรูระบายอีกต่างหาก ทำให้การอมความร้อนนั้นมีมากกว่าเพื่อนหน่อย คายความร้อนช้า บ้านก็จะร้อนเมื่อโดนแดนนานๆ
ด้านผนังอิฐแดงเองถือว่าทนทานต่อสภาพอากาศในบ้านเรา แต่ในเรื่องของการอมความร้อนนี่แม้จะไม่มากเท่า Precast แต่ก็นับว่าค่อนข้างอมความร้อนอยู่เหมือนกัน แต่จุดที่ดีกว่าคือมีรูระบายมาช่วยระบายความร้อนออกได้ อาจจะลองติดตั้งฉนวนกันความร้อนเข้าไปก็สามารถช่วยได้อีกแรงครับ
ค่าใช้จ่าย
ผนัง Precast มีราคาผลิตที่สูงครับ แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช้แรงงานในการสร้างน้อยกว่า การใช้ผนังประเภทนี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างสำหรับงานก่อสร้างบ้านหรืออาคารมากๆ มีต้นทุนการก่อสร้างอยู่ในระดับต่ำ-ปานกลาง
ส่วนผนังแบบอิฐแดงนั้นตัววัสดุมีราคาถูกกว่า แต่การใช้แรงงานในการก่อสร้างนั้นกลับมีมากกว่า อยู่ในระดับปานกลาง-สูง แต่เอาเข้าจริงๆ ผมว่าหากลองเทียบกันดีๆ แล้วมันก็แตกต่างกันแค่เล็กน้อยเท่านั้นแหละ ไม่ได้ดูแตกต่างกันมากอะไร จะตัววัสดุหรือจะแรงงาน ยังไงก็เลือก cost ในแบบที่คิดว่าไหวดีกว่าครับ
เห็นแบบนี้แล้วผมว่าน่าจะสามารถชั่งน้ำหนักได้นะว่าผนังแบบไหนเหมาะกับเรามากกว่ากัน อันที่จริงก็ได้อย่างเสียอย่างแตกต่างกันไปครับ สุดท้ายก็ยังต้องพิจารณาจากหลายๆ องค์ประกอบอยู่ดี แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องปรึกษาช่างหรือวิศวกรที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งสองแบบนะ งานถึงจะออกมาเพอร์เฟ็ค!
Tag :
ว่ากัน 'ซอยหลังสวน' เปรียบเสมือน "แมนฮัตตันแห่งกรุงเทพฯ" คำกล่าวนี้ผมว่าไม่เกินจริงเลยนะ เพราะซอยหลังสวน ได้ชื่อว่าเป็นย่านที่มีราคาที่ดินแพงที่สุดในประเทศไทย และมูลค่าเพิ่มอย่างต่อเนื่องทุกปี!!
นี่คือคอนโดที่ใกล้ "ลานชมเมืองภูเก็ต" บนเขารังมากที่สุด ทำให้คุณเห็นวิวเมืองภูเก็ตสวยๆตัดภูเขา ทะเล และท้องฟ้า ได้อย่างเต็มตา
ไม่อยากจะเชื่อว่า คอนโดที่มีค่าตัวเริ่มระดับ 7 หมื่นกลางๆ/ตร.ม. จะให้ สุขภัณฑ์อัตโนมัติ WASHLET (แบบที่ใช้ที่ญี่ปุ่นอ่ะ)
จะว่ายังไงดี...นี่น่าจะเป็นคอนโดทำเลนิชสุดๆ ไปเลยก็ได้ล่ะมั้ง ไม่งั้นก็คงต้องบอกว่าคือการ "บุกเบิก" อะไรทำนองนั้น
มาตามคำสัญญาครับ โครงการคอนโดใหม่ ใกล้รถไฟฟ้าสถานีพหลโยธิน 59 'Phyll Pahol 59 station' (ฟีล พหลฯ 59 สเตชั่น) จะมีภาษีดีกว่าในเรื่อง 'ระยะทาง' ครับ เพราะตัวนี้เค้าไม่ใช่แค่ 'ใกล้' รถไฟฟ้า แต่ตัวนี้เค้า 'ติด' รถไฟฟ้า เรียกได้ว่า 0 ก้าวถึงรถไฟฟ้า ประตูคอนโดจ่อหน้าบันไดขึ้นสถานีกันเลยทีเดียว
เกริ่นนำมาเลยว่านี่คือการเดินส่องทำเลโครงการ ที่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นโครงการอะไรนะครับ ข้อมูลในมือตอนนี้ทราบแค่ว่าเป็นที่ดินจาก AP ขนาดที่ดินเท่านี้ ยังไงก็ต้องคอนโดละวะ!!
หลังจาก ปล่อยให้สงสัยมานาน ว่าที่ดินตรงถนนเลียบหาด หรือพัทยา สาย 1 แถวๆพัทยากลาง ที่พี่สิบหมื่น ล้อมรั้วปักความเป็นเจ้าของมาได้เป็นปีๆล่ะ จะพัฒนาเป็นโครงการอะไรหนอ?
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำก็นองเต็มตลิ่ง...
ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน MRT พระราม 9 ประมาณ 420 ม. เป็นรถไฟฟ้าสายสำคัญวิ่งเป็น Loop เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายอื่นมากมาย จะไปไหนก็ง่ายดาย
‘ภูมิสถาปนิค‘ ท่านหนึ่งบอกกับผมว่า “Lanscape โครงการนี้สวยที่สุดเท่าที่เคยเจอมา ไม่มีที่ไหนใกล้เคียงความเป็น ‘สวนแบบ Classic’ ที่เป็น ‘quite luxury’ ได้เท่านี้แล้ว“
เฮ้ย! เนื้อที่ดีมันเป็นแบบนี้นี่เอง 5555