ไม่รู้ว่าอุปาทานไปเองหรือเปล่า แต่เข้าสู่ช่วงเดือนธันวาคม เดือนสุดท้ายของปีทีไร ผมมักจะรู้สึกถึงบรรยากาศแห่งความสุขฟุ้งกระจายอยู่เต็มไปหมดจากเทศกาลคริสต์มาสนี่แหละ
แม้บ้านเราอาจจะไม่ได้สัมผัสกลิ่นอายความหนาวเย็นและความอบอุ่นอย่างเต็มที่เพราะเป็นเมืองร้อน แต่เรื่องของการเฉลิมฉลองน่ะก็ขอให้บอกกันคร้าบบบ
แต่ยังไงก็ตามเมื่อเทียบกับประเทศในทวีปยุโรปหรือประเทศคริสเตียนแล้ว เทศกาลคริสต์มาสของบ้านเค้าก็ต้องครึกครื้นกว่าอยู่แล้วอ่ะเนอะ
หนึ่งในประเทศคริสเตียนที่เฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสแบบจัดเต็มไม่มีแพ้ใครเลยก็คือประเทศเยอรมนีครับ พูดก็พูดเถอะ เทศกาลคริสต์มาสนั้นคนเยอรมันเค้ามองว่าเป็นช่วงเวลาที่พิเศษที่สุดของปีเลยนะ คนต่างประเทศเองก็มักจะบินไปเฉลิมฉลองที่เยอรมนีกันเยอะเหมือนกัน (แต่ปีนี้มีโควิด-19 น่าจะเงียบเหงาไม่น้อย)
ชาวเยอรมันเองเมื่อเข้าสู่เดือนธันวาคมก็จะเริ่มต้นตกแต่งประดับประดาที่อยู่อาศัยของตัวเองกันในธีมคริสต์มาสแล้วเหมือนกัน นับได้ว่าเป็นเทศกาลเก่าแก่ที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างไม่เสื่อมคลายเลยก็ว่าได้
เราเองในฐานะคนไทยที่รับเอาเทศกาลคริสต์มาสมากลมกลืนกับวัฒนธรรมเราไปแล้วเป็นที่เรียบร้อยมีหรือจะพลาด (5555) ปีนี้ใครมีความคิดอยากจะฉลองคริสต์มาสแบบเยอรมันสไตล์ ก็ลองแวะมาดูกันก่อนดีกว่าว่าบ้านเค้าฉลองกันแบบไหนบ้างนะ
คืนสำคัญเดือนธันวาคม
เทศกาลฤดูหนาวของเยอรมันมีฉลองกันหลายวันมากครับ แต่ถ้าวันสำคัญๆ ฮิปๆ หน่อยก็ Krampusnacht หรือ Krampus Night เทศกาลที่ฉลองกันทุกวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี โดย Krampus เนี่ยเป็นปีศาจที่เป็นเพื่อนสนิทของเซนต์นิโคลัส ตามตำนานเรื่องเล่าบอกว่า Krampus จะมาลงโทษเด็กซนด้วยการเฆี่ยนตี ส่วนปัจจุบันนี้คนเค้าก็ออกมาแต่งตัวเดินขบวนกันเหมือนฮาโลวีนกลายๆ แหละครับ
ถ้า Krampus Night เป็นวันให้ปีศาจมาตีเด็ก วันเซนต์นิโคลัสก็นับได้เป็นวันหยุดที่เด็กๆ เยอรมันโปรดปรานครับ วันเซนต์นิโคลัสจะจัดในคืนวันที่ 6 ธันวาคม โดยเด็กๆ จะทำความสะอาดและขัดรองเท้าวางไว้นอกประตูก่อนเข้านอน แล้วเซนต์นิโคลัสจะเอาขนมลูกอมต่างๆ มาใส่ไว้ให้
คืนคริสต์มาสสำคัญ แต่ถ้าถามว่าคนเยอรมันให้ความสำคัญกับวันไหนมากที่สุดก็ต้องบอกว่าเป็นวันที่ 24 หรือวันคริสต์มาสอีฟครับ คนเยอรมันจะไปโบสถ์กันในช่วงเช้าและช่วงค่ำเพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาล กลางคืนกลับมาก็ดินเนอร์และเปิดของขวัญกันใต้ต้นคริสต์มาสพร้อมกับสมาชิกในบ้านทุกคน ฟีลโคซี่อบอุ่นดีจัง
ปฏิทินและพวงหรีดจุติ
ปฏิทินจุติมีไว้สำหรับนับวันถอยหลังสู่เทศกาลคริสต์มาสโดยเฉพาะเลยครับ จะนับไปเรื่อยๆ จนสิ้นสุดในคืนคริสต์มาสอีฟ โดยปฏิทินจุติจะเป็นกล่องที่มีช่องประตู 24 ช่อง ซ่อนของขวัญชิ้นเล็กชิ้นน้อยเอาไว้ด้านใน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ชอบกันทั่วทั้งเยอรมนีเลยทีเดียวเชียว
นอกจากนี้ยังมีพวงหรีดจุติด้วยนะ สำหรับคนไทยอย่างเราๆ ชื่อฟังดูไม่น่ารักก็จริง แต่ของจริงนั้นกระปุ๊กประปิ๊กมากครับ พวงหรีดจุติของเยอรมันนั้นนับได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลคริสต์มาสเลย โดยในพวงหรีดจะประกอบไปด้วยเทียนสี่เล่มในกรวยสน บลูเบอร์รี่ ดอกไม้แห้ง และเครื่องประดับคริสต์มาสต่างๆ พร้อมกับจุดเทียน 1 เล่มในทุกวันอาทิตย์ของสัปดาห์ เริ่มต้นตั้งแต่สัปดาห์แรกของเดือนธันวาคมไปจนถึงสัปดาห์ที่เป็นวันคริสต์มาส
ต้นสนคริสต์มาส
ไม่ใช่แค่ในเยอรมนี แต่ทั่วโลกเค้าก็ให้ความสำคัญกับต้นคริสต์มาส สัญลักษณ์ของเทศกาลคริสต์มาสกันทั้งนั้น
แต่พิเศษกว่าหน่อยที่ในเยอรมนีเค้ามีต้นคริสต์มาสที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่นะ วางประดับอยู่ที่เมืองดอร์ตมุนด์ โดยความสูงเฉลี่ยของต้นคริสต์มาสต้นนี้อยู่ที่ 45 เมตรครับ ใช้ไฟในการประดับตกแต่งทั้งสิ้น กว่า 40,000 ดวง
facts น่าสนใจคือ ในแต่ละปีนั้นต้นสนคริสต์มาสในเยอรมนีถูกโค่นถึง 29 ล้านต้น เทียบเท่ากับพื้นที่ครึ่งหนึ่งของป่าดำที่มีขนาดพื้นที่ 6,009.2 ตารางกิโลเมตรของรัฐบาเดน-เวือร์ตเทมแบร์กเลย ก็เป็นไปได้ว่าอาจจะฉลองไปเจ็บใจไปอยู่นิดๆ เหมือนกัน 5555
ตลาดคริสต์มาส
ที่ขาดไม่ได้สำหรับการฉลองคริสต์มาสแบบเยอรมันสไตล์ก็คือตลาดคริสต์มาสนี่แหละครับ ที่ไทยเราแน่นอนว่าไม่มีอะไรแบบนี้ แต่ถ้าพูดถึงตลาดคริสต์มาสแล้วล่ะก็ เยอรมนีเป็นประเทศที่มีตลาดคริสต์มาสที่สวยงามและเก่าแก่ไม่แพ้ใครเลย
สำหรับตลาดคริสต์มาสก็จะมีของกินของใช้ให้เดินชิมช้อปใช้กันเพียบครับ จัดไล่ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน-กลางเดือนธันวาคม โดยจะมีตลาดคริสต์มาสจัดขึ้นประจำเมืองแต่ละเมืองในเยอรมนี ให้เราได้ออกไปเดินชมแสงไฟกันท่ามกลางบรรยากาศหนาวๆ หาเครื่องดื่มร้อนๆ จิบไปด้วยก็คือฟินสุด!
กินแบบคนเยอรมันในช่วงเทศกาลคริสต์มาส
ขาดเรื่องอาหารการกินไปได้ยังไง ริอยากจะลองฉลองคริสต์มาสแบบเยอรมันสไตล์ทั้งที ต่อให้ทำอย่างอื่นตามไม่ได้อย่างน้อยก็ขออาหารขึ้นโต๊ะบ้างสักนิดล่ะน่าสำหรับอาหารประจำเทศกาลคริสต์มาสของเยอรมนีนั้นอาจจะไม่มีเมนูที่จำกัดอะไรครับ เรียกได้ว่าแตกต่างกันไปตามแต่ละบ้านแต่ละโซนพื้นที่ แต่หลักๆ ก็คือไส้กรอกที่เสิร์ฟพร้อมกับสลัดมันฝรั่ง
สำหรับเนื้อสัตว์ที่เป็นสัตว์ปีกก็จะเป็น ห่าน เป็ด และไก่งวง ที่นิยมทานกันมากในช่วงวันเทศกาลคริสต์มาส 25-26 ธันวาคม อย่างเมนูห่านกริลล์ก็ถือว่าฮอตฮิตมากเลย
อีกเมนูที่ขาดไม่ได้คือปลา ไม่ว่าจะปลาคาร์ฟ ปลาเทราต์ ปลาแซลมอน พร้อมของเคียงกันอย่างฟองดูและเค้กคริสต์มาสแบบเยอรมันดั้งเดิมอย่าง Stollen เป็นเค้กที่ทำจากแป้ง ถั่ว ผลไม้อบแห้ง และซินนามอน โรยหน้าด้วยผงน้ำตาล พร้อมกับดื่มเครื่องดื่มประจำเทศกาลอย่างไวน์ Glühwein ที่แนะนำว่าดื่มตอนร้อนๆ นี่ฟินนักแล
ช่วงคริสต์มาสบ้านเราอาจไม่หนาวสู้เยอรมัน แต่เปิดแอร์ต่ำๆ สร้างบรรยากาศก็น่าจะเข้ากันดีครับ แค่นี้ก็ยกเยอรมนีมาไว้ที่ห้องเราได้ง่ายๆ แล้ว 55555
Tag :
“โอ้โห ได้วิวนี้เลยเรอะ คอนโดอยู่ตรงนี้เลยจริงดิ นี่มันอยู่ท่ามกลางดง รีสอร์ท โรงแรม เลยนะ“ ผมเผลอหลุดปากออกมา เมื่อได้เห็นภาพโครงการครั้งแรก
"LIFE สาทร - นราธิวาส 22"...นี่น่าจะเป็น คอนโด LIFE ที่มีคนสนใจมากที่สุดในปี 2025
"KAVALON" พัฒนาโดย "เจ้าพ่อแคมปัสคอนโด" แห่งยุคอย่าง AssetWise ซึ่งนี่ก็เป็นโครงการที่ 6 แล้ว ในโซน ม.กรุงเทพ รังสิต
"Boonmitr Silom" สีลมแดนคนชิค มักจะมีโครงการชิคๆ ขึ้นอยู่ตลอด
เห็นชื่อโครงการตรงหัวข้อบทความแล้ว หลายคนคงคุ้นๆ หูกันใช่ไหมครับ ไม่แปลกครับ เพราะ Life JJ Interchange Petpal (ไลฟ์ เจเจ อินเตอร์เชนจ์ แพ็ทพอล) ก็คือชื่อโครงการในเวอร์ชั่นอัปเดตของตัว "LIFE JJ Interchange" นั่นแหละครับ
เอาดีๆ วันก่อนไป Terminal 21 อโศก ระหว่างทาง ตาเหลือบไปเห็นไวนิลอันคุ้นตา ของ Dev ที่คุ้นเคยอย่าง SC Asset เห้ย!! เค้าจะทำโครงการอะไรอ่ะ!!
เมื่อความหวานในใจต่ำเกินไป ชวนทุกคนมาเติมความหวาน กับเครื่องดื่มใหม่จากคริสปี้ครีม Krispy Kreme Sweet Pink Milk
มันจะมีอยู่รสชาติหนึ่งครับ ที่ไม่ว่าจะได้ลิ้มรสเมื่อไหร่ ก็จะนึกถึงวันวานตอนเป็นเด็กตลอด นั่นก็คือ 'โอวัลติน'!! กินทีไรเป็นต้องฟินเสมอ
พาชิมพิซซ่าโฮมเมดร้านดังประจำตลาดนัดจตุจักรที่แมสและสบายกระเป๋าที่สุดในตอนนี้!
วันนี้มีโอกาสได้เข้าไปร่วมฟังเสวนาในหัวข้อ 'อยู่สูงอย่างมั่นใจอาคาร SC ปลอดภัย 100%'
"MX27" ช่วง "อโศก-พร้อมพงษ์" นี่มันดงโรงแรมชัดๆ
เหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา แม้ว่าจุดศูนย์กลางจะอยู่ที่ประเทศเมียนมาร์ แต่แผ่นดินไหวครั้งนี้ กลับรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้ถึงกรุงเทพมหานคร ที่อยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางไกลนับพันกิโลเมตร