เคยไปที่ไหนสักที่ที่สัญญาณอินเทอร์เน็ตเข้าไม่ถึง หรือไม่ก็พื้นที่ที่มีคนเยอะมาก จนทำให้เกิดการแย่งชิงสัญญาณ จะแชทกับใครก็แชทไม่ได้หรือเปล่า
ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ต งานรับปริญญา หรือการชุมนุมอะไรก็ว่าไป ถ้าใครเคยลองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์นั้นจะรู้ว่าการที่เราไม่สามารถส่งข้อความหาใครได้เลยนี่มันช่างชวนให้รู้สึกอึดอัดใจจริงๆ
ความจริงแอปพลิเคชันแชทแบบออฟไลน์มันก็มีมานานแล้วล่ะ แต่อาจจะไม่ได้เรียกว่าแพร่หลายอะไรขนาดนั้น แต่ช่วงนี้บูมขึ้นมาอีกหน และผมก็คิดว่าเราน่าจะมาลองทำความรู้จักกับเจ้าแอปพลิเคชั่นพวกนี้ดูบ้างดีกว่า
อย่างน้อยผมก็คิอว่าเราควรโหลดติดมือถือตัวเองไว้สักนิดเนอะ เพราะเผื่อว่าเกิดเหตุฉุกเฉินอะไรขึ้นมา หรือเราไปอยู่ในที่ที่อับสัญญาณแล้วเจอเรื่องอะไรที่เหนือความคาดหมายเข้า ต่อให้ไม่มีอินเทอร์เน็ต มือถือของเราก็ยังมีประโยชน์อยู่
Bridgefy
เจ้าแอปพลิเคชัน Bridgefy นั้นรั้งอันดับต้นๆ ในบรรดาแอปพลิเคชันแชทแบบออฟไลน์ที่เป็นที่นิยมมาก แถมเป็นหนึ่งในสองแอปฯ ที่ผู้ประท้วงชาวฮ่องกงหันมาใช้กันมากขึ้นเพื่อหลบเลี่ยงการถูกรัฐบาลตรวจจับด้วยครับ
แอปฯ นี้มีให้โหลดทั้งในระบบ iOS และ Android ใช้หลักการในส่วนของการกระจายสัญญาณวิทยุผ่านบลูทูธของโทรศัพท์มือถือ แถมให้รัศมีสัญญาณกว้างถึง 300 ฟุต ซึ่งเราสามารถส่งข้อความได้ทั้งแบบรายคนและแบบกรุ๊ปแชทเลย
อีกหนึ่งฟีเจอร์เด็ดคือ แอปฯ นี้สามารถโพสต์วิดีโอให้คนที่อยู่ในพิกัดใกล้กันดูได้ ถึงแม้คนคนนั้นจะไม่ได้อยู่ในรายชื่อผู้ติดต่อของเราก็ตาม จะส่งรูปก็ไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต ถือว่าครอบคลุมดีในเรื่องของความสะดวกสบายในการใช้งาน และที่สำคัญยังมีตัวช่วยรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่เราแชร์อีกต่างหาก
FireChat
อีกหนึ่งแอปพลิเคชั่นที่ผู้ประท้วงชาวฮ่องกงนิยมใช้กันมาก และแน่นอนว่าเป็นตัวท็อปของแอปพลิเคชันสื่อสารแบบ peer to peer ผ่านเครือข่ายก็คือ FireChat นี่แหละครับ โดยเราสามารถส่งข้อความหรือรูปภาพหากันได้ผ่านการเชื่อมต่อเน็ตเวิร์กของอุปกรณ์ในรัศมี 200 ฟุต
เจ้าแอปพลิเคชันที่ว่านี้อาศัยหลักการของ Mesh Network เริ่มการสร้างเครือข่ายของผู้ใช้งานด้วยสัญญาณ Wi-Fi และบลูทูธ ยิ่งถ้ามีเพื่อนเยอะๆ ก็จะสามารถแชทได้ไกลขึ้นอีกด้วย
ส่วนเรื่องของความปลอดภัยก็ถือว่าโอเคเลยครับ เพราะทางนี้ใช้ระบบ End-to-End Encryption แต่ว่าก่อนจะเริ่มใช้งานเราต้องลงทะเบียนสร้างแอคเคาต์ก่อน ซึ่งตรงนี้ก็อาจจะเรียกได้ว่าเป็นข้อเสียได้เหมือนกัน
ดาวน์โหลด: Aptoide
Briar
อีกตัวหนึ่งที่อยากนำมาฝากกันคือ Briar ครับ เป็นหนึ่งในแอปพลิเคชันแชทที่ไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต แถมเราสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องยืนยันเบอร์โทรศัพท์ด้วย ที่ทำก็แค่ตั้งชื่อและสร้างรหัสผ่านเท่านั้น
พูดถึงเรื่องข้อดีน่าจะเป็นในส่วนของการใช้งานที่ง่ายและมีประสิทธิภาพครับ เราสามารถส่งข้อความและรูปภาพได้ แถมยังให้แอดกันผ่านคิวอาร์โค้ด ซิงค์ผ่านบลูทูธหรือ Wi-Fi ก็ได้อีกต่างหาก
อ้อ นอกจากนี้คือตัวแอปฯ ยังมีฟังก์ชันให้เราสามารถตั้ง Topic กันเพื่อถาม-ตอบคำถามหรือพูดคุยสร้างหัวข้อสนทนากับคนอื่นๆ ได้ด้วย ลองใช้ดูนะ!
ดาวน์โหลด: Android
AliveShare
พูดถึงความน่าสนใจและมีดีเทลเก๋ๆ ก็คงต้องเป็น AliveShare ตัวนี้แล้วล่ะครับ นอกจากจะเป็นออฟไลน์แชทแอปฯ แล้ว ในเรื่องของระบบการใช้งานยังใช้แบบ Wi-Fi Direct ด้วย
หลักๆ แล้วเจ้าแอปพลิเคชันตัวนี้ฟีเจอร์คือ Mutual Share, Versus Game และ Group Chat ที่นอกจากจะแชทได้แล้วยังสามารถแชร์รูปภาพหรือคลิปวิดีโอต่างๆ ได้ ที่สำคัญคือเล่นเกมได้อีกต่างหาก
แต่นอกจากจะส่งแชทส่งรูปกับวิดีโอได้แล้วยังสามารถส่งไฟล์อื่นๆ ได้ด้วยนะ เรียกได้ว่าส่งไฟล์ได้ทุกรูปแบบครอบคลุมมากๆ ครับ แถมถ้าใครเปลี่ยนมือถือแล้วก็กด Change Phone ได้เลย ไม่ต้องไปยุ่งยาก Clear Data ให้มากความ
ดาวน์โหลด: APK Support
Two Way: Walkie Talkie
ฟังแค่ชื่อก็น่าใช้แล้ว กับ Two Way: Walkie Talkie ตัวนี้เป็นแอปพลิเคชันเครื่องส่งรับวิทยุที่อนุญาตให้ผู้ใช้จำนวนเท่าใดก็ได้คุยกันได้ทันทีแบบไม่จำเป็นต้องสมัครสมาชิกครับ เรียกว่าจะเบอร์หรืออีเมลก็ไม่จำเป็นเลย
เราแค่ต้องจูนสัญญาณของเครื่องเรากับเพื่อนให้เป็นช่องเดียวกัน หลังจากนั้นก็กดปุ่มเพื่อพูดคุยกับเพื่อนที่อยู่อีกฝั่ง พูดง่ายๆ คือมีรูปแบบการใช้งานเหมือนกันกับวิทยุสื่อสารหรือ Walkie-Talkie นั่นเอง
แต่แน่นอนว่าไอ้เรื่องการจูนสัญญาณนี่ก็ถือว่าเป็นข้อเสียได้เหมือนกัน เพราะถ้าเกิดมีใครจูนมาจ๊ะเอ๋กับช่องของเราเข้า คนคนนั้นก็สามารถฟังบทสนทนาของเรากับเพื่อนได้เลย เอาเป็นว่าแอปฯ ตัวนี้เหมาะจะใช้ในเวลาฉุกเฉิน แต่ถ้าจะใช้สื่อสารนานๆ นั้นเลือกใช้แอปพลิเคชั่นอื่นแทนดีกว่าเนอะ
ลองเลือกดูครับว่าชื่นชอบหรือถูกใจการใช้งานของแอปพลิเคชันตัวไหนกัน แต่ผมแนะนำให้โหลดติดเครื่องไว้ดีกว่าเพราะเป็นประโยชน์ตอนเกิดเรื่องฉุกเฉินขึ้นมาจริงๆ
โหลดไว้แชทแบบออฟไลน์ เราจะได้ติดต่อกับเพื่อนได้แม้ในพื้นที่ที่ไร้อินเทอร์เน็ตครับ
Tag :
ช่างเป็นคอนโดที่เหมาะกับคนเห็นแก่กินอย่างพวกผมยิ่งนัก 555 จะหันซ้ายหันขวา ก็คราคร่ำไปด้วยร้านของกินเด็ดๆ เรียงกันเป็นแถว
เคยมีคนถามผมว่า "สมัยนี้ ยังสามารถสร้างคอนโดที่ไม่ใกล้รถไฟฟ้าได้ไหม?" ได้สิ เพราะแม้ว่าความใกล้ รถไฟฟ้า จะเป็น 1 ในปัจจัยหลักที่สำคัญมาก แต่มันก็ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ "ขาย" ได้อยู่อีก
จะมีคอนโดปล่อยเช่าอยู่อันนึง ที่แม้แต่ตอนโควิดก็ไม่มีผลอะไร มีคนเช่าตลอดๆ แทบไม่มีช่วงว่าง บางครั้งคือ คนเก่าย้ายออกตอนเช้า ตอนเย็นคนใหม่ใส่หน้ากากอนามัยขนของเข้าอยู่ต่อเลย
หน้าร้อนซัมเมอร์มันก็ต้องคู่กับทะเล ผมฝันไว้เสมอนะว่าอยากมีคอนโดตากอากาศ แต่ปัญหาก็คือคอนโดติดทะเลส่วนใหญ่มีราคาแรงมาก
หลังจากปล่อย "KLOS Ratchada" ไปไม่นาน "Frasers Property" ก็ได้ฤกษ์เตรียมผุดคอนโดแบรนด์ KLOS แห่งที่ 2 ต่อทันทีครับ
นับตั้งแต่เมืองเริ่มขยายตัวออก พื้นที่ที่หลายคนเคยมองข้ามก็กลายเป็นว่าเริ่มเนื้อหอมขึ้นเรื่อยๆ
หลังจาก "Emsphere" ห้างใหม่ในกลุ่ม "Em District" เปิดตัวไป ก็เพิ่มกระแสให้กับพื้นที่รอบด้านได้เพียบเลย ขนาดแค่เปิดตัววันแรกคนก็มหาศาล เรียกว่าสมราคาตระกูล Em สุดๆ
คิดจะพักคิดถึงคิทแคท แต่ถ้าคิดถึงโดนัทอร่อยๆ ก็ต้องคิดถึงคริสปี้ ครีม ดิค้าบบ ไปลองกันยัง “คริสปี้ ครีม x คิทแคท” (Krispy Kreme x KitKat) กับ 3 โดนัทหน้าพิเศษสุดฟิน!!
แต่ก่อนผมคิดนะว่า การจะซื้อบ้านทีก็ต้องไปดูถึงโครงการ ไปดูให้เห็นกับตาแล้วค่อยตัดสินใจ แต่ด้วยอากาศแบบนี้ บางทีก็แอบส่องผ่านทาง Social เอาก่อน น่าจะดีกว่านะ 5555
เมื่อวันก่อนได้ไปเดินเล่นที่งาน "สถาปนิก’67" เป็นอีกงานที่ผมประทับใจแล้วอยากให้เพื่อน ๆ ตามไปกันมาก ๆ เลยนะ
ผมเคยตั้งคำถามกับตัวเองตอนผ่านไปโซน ตลิ่งชัน ทวีวัฒนา บางแค บางบอน บางขุนเทียน นะว่ามองไปทางไหน ทำไมถึงมีแต่โครงการบ้าน 100 ตร.วาขึ้นไปเท่านั้น!
ล่าสุดทางด้าน RPBW ได้ทำการเปิดตัวการออกแบบศูนย์ศิลปะและนวัตกรรมในเมืองโบกา ราตัน รัฐฟลอริดา ซึ่งความน่าสนใจก็คือเค้าไม่ได้เป็นแค่ศูนย์ศิลปะธรรมดา แต่ที่นี่ยังเป็นเวทีสำหรับแนวคิดใหม่ๆ โอกาสในการโต้ตอบกับ AI อีกด้วย