BTS : ทองหล่อ / /
26 Oct 2020 17:02ทองหล่อ ทำเลแห่งนี้นอกจากจะคลาคล่ำไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ แสงสี อันเป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องราตรีทั้งชาวไทยและต่างชาติแล้ว ช่วงทำเลทองหล่อ ยังเป็นอีกหนึ่งทำเลฮอตสำหรับการตอกเสาเข็มสร้างคอนโดอีกด้วย
ซึ่งหากพูดถึงทองหล่อแล้วนั้น ความนิยมนี้เป็นอันรู้กันดีในหมู่คนเมืองว่าเป็นทำเลที่รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะพอควรทีเดียว แต่รู้มั้ยว่า ทำเลทองหล่อเป็นทำเลที่ชาวต่างชาติที่อยู่เมืองไทยเลือกอยู่กันมากเป็นอันดับต้น ๆ เลยนะ
ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมเค้าถึงชอบอยู่ทองหล่อ เหตุผลก็อย่างที่ผมบอกไว้ด้านบนเลยว่า ตอนนี้ทองหล่อน่ะครบ จบ ที่ทำเลเดียว นอกจากแหล่งไลฟ์สไตล์พวกห้างสรรพสินค้าแล้ว ย่านนี้ยังมีทั้งสถานศึกษา แหล่งงานรายล้อมอีกด้วย
เกริ่นแบบนี้ เดาไม่ยากครับ ผมจะพาไปยลโฉมโครงการใหม่ในย่านทองหล่อนั่นเอง ครั้งนี้ไม่ไกลนัก ติดกับรถไฟฟ้าสถานีทองหล่อเลยครับ "ดิ เอส สุขุมวิท 36" จากสิงห์ เอสเตทนั่นเอง หลังจากที่มีโอกาสได้ไปงานแถลงข่าวเปิดตัว พร้อมเยี่ยมชมโครงการมาแล้วและเนื่องจากตัวโครงการสร้างเสร็จสมบูรณ์ 100% พร้อมเข้าอยู่แล้วผมเลยอยากยกมาเขียนถึงกันซะหน่อย
ดิ เอส สุขุมวิท 36 (The ESSE Sukhumvit 36) เป็นโครงการระดับมาสเตอร์พีซเลยนะ ซึ่งทางสิงห์ เอสเตท เค้าร่วมทุนกับ ฮ่องกง แลนด์ ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาที่เรียกได้ว่าคร่ำหวอดในวงการนี้มาก ๆ ครับ
ตัวโครงการมาในรูปแบบอาคาร High Rise สูงถึง 43 ชั้น กับจำนวนยูนิต 338 ยูนิต ติดกับ BTS (ทางออก 2 ไม่ต้องเข้าซอย) ซึ่งความน่าสนใจของเค้าคือแนวคิดครับ ตัวโครงการมาในแนวคิด "A Hermony of Contrast" หรือแปลเป็นไทยว่า ความสมดุลแห่งความต่าง ที่ผมบอกว่าน่าสนใจเนี้ย เพราะแนวคิดนี้เป็นการผสมผสานระหว่างอัตลักษณ์ความเป็นไทยให้เข้ากับเทรนด์การอยู่อาศัยในปัจจุบันครับ ยกตัวอย่างเช่น มีการเปิดช่องลมผ่านหรือยกพื้นใต้อาคารให้มีการไหลเวียนของอากาศภายในเป็นต้น
หลายท่านอาจจะคิดว่า ถ้าอยู่ทองหล่อแล้วจะอึกทึกครึกโครม ดูวุ่นวายหรือเปล่า? คำตอบคือไม่ครับ เนื่องจากตัวโครงการตั้งอยู่ทางฝั่งซอยเลขคู่ ซึ่งจุดที่เป็นโซนแสงสี ร้านรวงต่าง ๆ โดยมากจะอยู่ทางเลขคี่ซะมากกว่า โดยทางฝั่งซอยเลขคู่จะเป็นย่านชุมชน ที่อยู่อาศัย จึงค่อนข้างเงียบสงบครับ
บริเวณโดยรอบโครงการนอกจากจะมีสถานีรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อแล้ว ยังเต็มไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ชั้นนำ เช่น Community Mall อย่าง เจ อเวนิว ทองหล่อ 15 , Maze ทองหล่อ , Fifty Fifth Thonglor , มาร์เก็ต เพลส ทองหล่อ4 , Eight Thonglor , Seen Space ทองหล่อ 13 , The Commons ทองหล่อ 17 เป็นต้น
พูดถึงภายในโครงการกันต่อ ที่นี่เค้ามีแบบห้องหลายแบบครับ ได้แก่ 1 ห้องนอน 38.50-43.25 ตร.ม. , 2 ห้องนอน 73.50-77.00 ตร.ม. , 3 ห้องนอน 116.75-124.25 ตร.ม. และเพนท์เฮ้าส์ 252 ตร.ม. ที่สำคัญทุก ๆ ห้องในโครงการเค้าคัดวัสดุอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูง อย่างผ้าม่านกับวอลเปเปอร์เค้าใช้แบรนด์ จิม ทอมป์สัน เลยนะ(ออกแบบเฉพาะให้โครงการด้วย) ส่วนห้องตัวอย่างที่ผมได้เข้าชมเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนและ 2 ห้องนอนครับ
ตัวห้องพักเนี้ย จะอยู่ตั้งแต่ชั้น 9 ขึ้นไปจนถึงชั้น 40 อันนี้ใครรักความเป็นส่วนตัวต้องชอบแน่ ๆ ครับ เพราะมีจำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุดแค่ 12 ยูนิต เท่านั้น
ห้องแบบ 1 ห้องนอน เมื่อเปิดประตูเข้าห้องไป ห้องนี้เราจะเจอกับโซนครัวก่อนเลยครับ ซึ่งถ้าสังเกตจะเห็นได้ว่าทางโครงการเน้นใช้วัสดุและเฟอร์นิเจอร์ที่มีความสะท้อนแสง เป็นกระจกวิบวับ ดูหรูหราและลักชัวรี่ไม่หยอกเลยแฮะ บริเวณเคาน์เตอร์ครัว จะมีโต๊ะทานข้าวขนาดเล็กอยู่ด้วย ตรงนี้ได้ประโยชน์และประหยัดพื้นที่ไปในตัวเลยครับ ติดกันจะเป็น Living area บริเวณนี้ถึงพื้นที่ไม่กว้างมากนัก แต่ยังพอใช้งานได้จริงครับ กระเถิบเลยไปจากโซนนี้คือระเบียงห้อง
ในส่วนของห้องนอน เค้ายังใช้โทนสีและเฟอร์นิเจอร์ที่บ่งบอกถึงความลักชัวรี่เช่นเคยมี Walk in closet ให้เล็กน้อย อ้อ ห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอนนะครับ เค้าแยกเป็นโซนเปียกโซนแห้งให้เรียบร้อย
มาดูแบบ2 ห้องนอนกัน ห้องนี้เดินเข้าไปจะสะดุดตากับโต๊ะทานขาวขนาดกลางก่อนเลย เป็น area ที่ขั้นอยู่ระหว่างโโซนห้องครัวและห้องนั่งเล่น ผมแอบเสียดายนิดหน่อยตรงที่ห้องตัวอย่างทั้งสองห้อง โซนห้องครัวล้วนเป็นครัวเปิดทั้งหมดเลย ดังนั้นใครที่รักการทำอาหารอาจจะไม่ปลื้มมากนัก เพราะต้องมาคอยกังวลกับเรื่องกลิ่น ในส่วนของห้องนอน จะมีทางเดินเข้าไปอีกครับ ทางโครงการจะแบ่งเป็นห้องนอนใหญ่และเล็กครับ
ห้องตัวอย่างผมจะผ่านไปไว ๆ นิดนึงเพราะได้เข้าไปชมเพียงแค่สองห้องเท่านั้น แต่บอกเลยว่าจุดเด่นที่สำคัญไม่แพ้สิ่งใดของที่นี่คือส่วนกลางครับ เรียกได้ว่าจัดส่วนกลางมาเลยเน้น ๆ
อย่างชั้น 7 ชั้นนี้เป็นชั้นของสระว่ายน้ำครับ ซึ่งไม่ได้มีแค่สระว่ายน้ำนะ เค้ายังมีพื้นที่สีเขียวรายล้อมสระ(มีสระเด็กแยกโดยเฉพาะ) ห้องเด็กเล่น มีห้องสปา และห้องอบไอน้ำ แต่ที่พลาดไม่ได้เลยคือ ที่นี่เค้ามีบ่อน้ำแร่ออนเซ็นขนาดใหญ่แยกชายหญิง อุณภูมิ42 และ 38 องศาเซลเซียส และหากเดินขึ้นบันไดมาอีกไม่กี่ขึ้น บริเวณชั้น 8 ซึ่งเป็นชั้นของฟิตเนส มีทั้ง Virtual Bike Roomและ Golf Simulator Room ด้วย
ขึ้นไปที่ชั้น 41 กัน ชั้นนี้ยังคงเป็นชั้นของส่วนกลางแยกอีกส่วนครับ เรียกว่า Rice Field Garden ซึ่งอันนี้เค้าได้รับแรงบันดาลใจมาจากนาข้าวแบบขั้นบันไดนั่นเอง ส่วนชั้น 43 จะเป็นพื้นที่ของสวนสำหรับปลูกผักของลูกบ้านครับ เค้าเรียกว่า Roof Orchard
ส่องความหรูหราพร้อมอยู่ของเค้าเสร็จแล้ว ได้เวลามาดูในส่วนของราคาค่าตัวกัน ตอนนี้โอกาสเปิดตัว Opem House ที่เพิ่งสร้างเสร็จ เค้าเลยจัดแคมเปญพิเศษครับ กับราคาเริ่มต้น 11.9 ล้านบาท พร้อมสิทธิพิเศษในงาน For the One Who knows ในวันที่ 14-15 พ.ย. นี้ก่อนที่จะปรับราคาอีกครั้ง ใครอ่านมาถึงตรงนี้อยากได้เป็นเจ้าของสามารถไปลงทะเบียนกันได้ที่ คลิก หรือจะสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่โทร.1221 ใครไม่เชื่อว่างามจริง อยากเข้าไปชมของจริงกันก่อนก็ได้นะ ติดต่อไปยังลายแทงที่ผมทิ้งไว้กันได้เลย!!
Tag : The ESSE Sukhumvit 36 | ดิ เอส สุขุมวิท 36 | สิงห์ เอสเตท
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ