เอาข่าวรถไฟมาฝากกันอีกแล้วครับ แว่ว ๆ มาสักพักแล้วว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย มีโครงการระบบขนส่งมวลชนรางเบา หรือ แทรม ไปในแต่ละภูมิภาค ซึ่งทีแรกก็ดูเหมือนจะเป็นข่าวที่น่าจับตาอยู่เหมือนกัน เพราะเท่ากับว่าประชาชนในต่างจังหวัดจะได้มีโอกาสได้ใช้รถไฟฟ้าด้วย แต่ดูเหมือนว่าจะต้องเบรกโครงการไว้ก่อนซะแล้ว

        เพราะทาง รฟม. ได้แจ้งความคืบหน้าการดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้ารางเบา หรือ แทรม ในภูมิภาคว่า บอร์ด รฟม. ได้สั่งการให้ทบทวนความเหมาะสม และความคุ้มค่าในภูมิภาคทั้ง 4 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ โคราช และพิษณุโลก อย่างละเอียดอีกครั้งก่อนดำเนินการเปิดประมูลจริง 

        แม้ว่าจะใช้รูปแบบการเปิดให้เอกชนเข้าร่วมทุนแบบเอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี) แต่หากเปิดให้บริการแล้ว และเกิดภาวะขาดทุนติดต่อกันต่อเนื่อง อาจทำให้เอกชนทิ้งโครงการไม่ทำต่อได้ ซึ่ง รฟม. ก็ทำได้แค่ยึดเงินประกันที่มีจำนวนไม่มากซึ่งหากเป็นเช่นนี้รัฐบาลก็ต้องมาเสี่ยงกับการเข้ามารับภาระดำเนินการโครงการดังกล่าวต่อ และบอร์ดในฐานะผู้อนุมัติโครงการอาจจะต้องรับผิดชอบหากเกิดความเสียหายขึ้นภายหลังด้วย ในส่วนของโครงการแทรมภูเก็ต วงเงินลงทุน 3.48 หมื่นล้านบาทนั้น บอร์ดได้สั่งการให้ รฟม . กลับไปศึกษาเกี่ยวกับปริมาณคาดการณ์ผู้โดยสาร และนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการใหม่ 

        ซึ่งทางรฟม.พิจาณาแล้วพบว่า คาดการณ์ว่าปีแรกที่เปิดให้บริการ จะมีผู้โดยสารใช้บริการเพียงวันละ 3 หมื่นคน ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์เดิมของ สนข. ที่ศึกษาไว้ที่วันละ 8 หมื่นคน หรือต่ำกว่าวันละ 5 หมื่นคน นอกจากนี้ยังได้มีการสำรวจพฤติกรรมของคนภูเก็ตว่ามีความต้องการใช้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งโดยมากแล้วประชาชนส่วนใหญ่ยังนิยมใช้จักรยานยนต์มากกว่า อีกทั้งพื้นที่ภูเก็ตยังมีความซับซ้อนและก่อสร้างยาก อาจจะประทบต่อความปลอดภัยต่อผู้ใช้ถนนร่วม

        บอร์ด รฟม. มองว่าการก่อสร้างรถไฟฟ้าในต่างจังหวัดทั้ง 4 แห่ง คือ ภูเก็ต เชียงใหม่ โคราช และพิษณุโลกนั้น ปัญหาใหญ่คือประเด็นความต้องการใช้จริงมีมากน้อยแค่ไหน ความคุ้มค่าของโครงการ ซึ่งหากไม่คุ้มค่าเอกชนก็ไม่สนใจลงทุน