BTS : ทองหล่อ / /
13 Oct 2020 16:35ย้อนกลับไปสมัยที่ยังมีแรงเต้น ทองหล่อ มักจะเป็นที่ที่ผมไปเรียนดนตรีอยู่บ่อย ๆ
ทุกครั้งเวลาเรียนดนตรีจนเริ่มเคลิ้มก็มักจะแอบคิดว่าถ้าได้มาอยู่ทองหล่อกับเค้าบ้างก็คงจะดี
แต่กลับกัน ช่วงที่มีสติอยู่ครบ ๆ ทองหล่อเป็นย่านที่ผมไม่อยากจะฝากชีวิตไว้เลย
รู้สึกว่าเป็นย่านที่ครึกครื้นตลอดเวลา ไม่ค่อยมีช่วงสงบ ๆ ให้ได้พักผ่อนเท่าไหร่
จนเมื่อผมได้เข้ามาสู่แวดวงอสังหา ผมก็ได้เปิดโลกมากขึ้นว่าถ้าอยากจะอยู่ทองหล่อ
เราไม่จำเป็นต้องอยู่ใน ซอยสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) เลยก็ได้นี่หว่า
ซอยฝั่งเลขคู่ ที่ส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัย น่าจะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สงบ ๆ ของเรามากกว่า
ซึ่งถ้าพูดถึงซอยเลขคู่โซนนี้แล้ว ซอยท็อปฮิตคงหนีไม่พ้น "ซอยสุขุมวิท 36" นั่นเอง
รวมไปถึงโครงการใหม่ล่าสุดของอนันดาอย่าง "IDEO Q Sukhumvit 36" ก็เช่นกัน
ที่เลือกมาปักหมุดและปลุกแบรนด์ "IDEO Q" ให้มาเฉิดฉายอีกครั้ง
จากที่ผมได้ลองเดินสำรวจดู ตลอดซอยที่มีพื้นที่เชิงพาณิชย์ค่อนข้างน้อย
เรื่องความสะดวกสบาย ร้านค้า ร้านอาหาร อาจจะไม่ได้มีตัวเลือกให้เรามากนัก
แต่สิ่งนี้แหละที่ผมรู้สึกชอบ และคิดว่ามันเป็นข้อดีที่สร้างเสน่ห์ให้ซอยนี้น่าอยู่ไปอีกแบบ
เหมาะกับใครที่ต้องการใช้ชีวิตในย่านกลางเมือง แต่ก็ยังหาความสงบด้วยในที่เดียวกัน
ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นซอยเหงา ๆ ไร้ผู้คนซะทีเดียวนะ
อย่างที่ผมบอกไปว่าซอยนี้ค่อนค้างฮอตในการอยู่อาศัย มีทั้งบ้าน และคอนโดรวมตัวอยู่ไม่น้อย
ข้อเสียที่ผมรู้สึกได้ก็คือบางช่วงเวลาอาจจะมีรถเยอะไปซักหน่อย
ซึ่งทีนี้ปัญหาตามมาก็คือ "การเดิน" เพราะซอยนี้ไม่มีฟุตบาทหรือทางเดินเท้าให้เราด้วย
จะมีก็เพียงแต่บริเวณหน้าโครงการอื่น ๆ หรือบ้านเป็นช่วง ๆ เท่านั้น จะเดินทีก็ต้องระวังกันหน่อย
โดยตัวโครงการจะตั้งอยู่กลางซอยพอดี ข้อดีก็คือ สามารถเดินทางเข้าออกได้ถึง 2 เส้นทาง
ไม่ว่าจะทางฝั่งถนนสุขุมวิท หรืออีกฝั่งคือถนนพระราม 4
เชื่อมต่อสู่ทางด่วนครบทุกเส้นทาง ทั้งย่านธุรกิจและสถานที่หน่วยงานสำคัญ
เรียกได้ว่าตอบสนองการใช้ชีวิตคนรุ่นใหม่จริง ๆ นั่นแหละ
จะไม่โดนได้ไงละเนอะ ทั้งร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ใจกลางทองหล่อ คาเฟ่สุดเก๋
รวมไปถึง HIDDEN PLACE ที่มีให้เลือกตั้งแต่ในซอย 36-38 ไปจนถึง STREET FOOD สุดฮิตระดับตำนาน
อีกทั้งรายล้อมด้วยโรงเรียนนานาชาติและโรงพยาบาลชั้นนำ ทั้งหมดนี้ก็มีอยู่ครบที่ทองหล่อเนี่ยแหละ 55555
ซึ่งวันที่ผมไปผมเลือกไปฝั่งสุขุมวิท อยากลองเดินจากรถไฟฟ้าไปโครงการดูว่าไกลไหม
เอาจริงก็เดินได้สบาย ๆ นะ แค่ 450 เมตร จากสถานีทองหล่อ แต่ถ้าใครขี้เกียจปากซอยก็มีวินให้บริการอยู่นะ
และถ้าเพื่อน ๆ คิดว่าโครงการนี้เค้าจะเน้นขายที่ทำเลอย่างเดียวแล้วละก็... เพื่อน ๆ คิดผิด
เพราะทางโครงการเค้ายังให้ความสำคัญกับการออกแบบ และการใช้ชีวิตภายในโครงการด้วยนะ
ผมแอบลองถามเค้าเกี่ยวกับแนวคิดของโครงการนี้ดูก็ต้องบอกว่าเค้าคิดมาหนักจริง ๆ นั่นแหละ
จากแนวคิด THE RESERVATORIUM ที่ต้องการสร้างสรรค์พื้นที่ของโครงการที่ตั้งอยู่ใจกลางสุขุมวิทให้เป็นเหมือน HIDDEN RESIDENCE
รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวและ ต้นจามจุรีขนาดใหญ่ ใจกลางโครงการที่ได้อนุรักษ์ไว้เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของโครงการ
อันนี้ผมชอบมากเลยนะ เพราะต้นไม้ใหญ่ขนาดนี้ถ้าปลูกใหม่ก็ต้องรอจนลูกบวชกันเลยทีเดียว 555
เรามาดูรายละเอียดโครงการกันบ้างดีกว่า...
"IDEO Q Sukhumvit 36" มาพร้อมกับพื้นที่ส่วนกลางรูปแบบใหม่ตอบรับเทรนด์การใช้ชีวิตของคนเมืองที่มีกลิ่นอายแบบ Japanese style
ฮั่นแน่ะ!!! สงสัยกันใช่มั้ยล่ะว่าส่วนกลางสไตล์ญี่ปุ่นนั้นเป็นยังไง เอาตรง ๆ ก็ค่อนข้างคล้ายกับโครงการระดับนี้ทั่วไปแหละ
แต่ที่พิเศษกว่าก็คือการเพิ่มกิจกรรมที่ดูเป็นญี่ปุ่นอย่าง Black Onsen Sky Pool ให้เรานอนแช่ออนเซนดูวิวเมืองได้
นอกจากนี้เค้าก็ยังมีสวนสไตล์ญี่ปุ่นให้นั่งพักกายพักใจด้วยนะ อันนี้ผมชอบตรงที่เค้าเปิดโล่งด้านบนให้เห็นท้องฟ้าได้เลย
เสียดายผมไปตอนฝนตกเลยไม่ได้ออกไปดู
ส่วนใครที่เป็นสายออกกำลังกายกิจกกรมที่เท่และไม่เหมือนใครก็ยังมี Virtual Fitness กับ Golf Simulator ให้ด้วย
สองห้องนี้ผมว่าหลาย ๆ คนน่าจะชอบ เพราะสามารถออกกำลังกายในห้องแคบ ๆ แต่ให้ความรู้สึกคล้ายกับได้ไปออกรอบนอกสถานที่กันเลย
ปิดท้ายกันที่แวะชมห้องตัวอย่างเค้าซะหน่อย...
โดยห้องที่ผมจะพาเพื่อน ๆ ไปชมกันในวันนี้ ผมเลือกเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอนขนาด 64 ตร.ม. เพราะแอบสืบมาว่าเป็นไฮไลท์เลย
สิ่งที่ผมชอบมากที่สุดในห้องนี้ก็คือ เค้าแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้น่าอยู่ และชูจุดเด่นของตำแหน่งแต่ละกิจกรรมได้อย่างเหมาะสม
พูดง่าย ๆ ก็คือพื้นที่แต่ละห้องที่เค้าคิดมา มันเหมาะกับตำแหน่งนั้น และน่าใช้งานอย่างที่เค้าออกแบบไว้จริง ๆ
ไฮไลท์ที่ผมชอบสุดก็คือพื้นที่ห้องนั่งเล่น ที่สามารถเทควิวได้รอบทิศด้วยกระจกโค้งตามรูปทรงของอาคาร
ลองคิดภาพบรรยากาศฝนตกอากาศเย็น ๆ มองออกไปเห็นวิวเมืองสวย ๆ ด้านนอก นอนดูหนังโรแมนติก ๆ ซักเรื่อง
โอ๊ย... ฟิน 55555
แค่อ่านเพื่อน ๆ คงไม่เห็นภาพ ใครที่สนใจก็ลองแวะไปเยี่ยมชมกันที่โครงการได้นะ เค้าสร้างเสร็จ 100% พร้อมให้จับจองกันแล้ว
ที่สำคัญราคาดีเอาเรื่อง ที่ผมสืบมาเห็นว่าเริ่มต้น 6 ล้านกว่า ๆ สำหรับทำเลและคุณภาพโครงการแบบนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุ้มค่ามาก ๆ
เพื่อน ๆ คนไหนไปเยี่ยมชมมาแล้วคิดเห็นยังไงกันก็อย่าลืมมาแบ่งปันความรู้สึกกันบ้างล่ะ
สำหรับวันนี้ผมขอตัวไปก่อน เจอกันใหม่โครงการหน้า บ๊ายบายยยยย
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ใครฝันอยากลองคอสเพลย์เป็นผู้ปกครองระบบศักดินา เจ้าของปราสาท หรือท่านโชกุนจ้าวแคว้นของญี่ปุ่น วันนี้กำเงิน 3 แสนบาทไป ก็ได้สัมผัสประสบการณ์เลอค่านี้แล้วครับ
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย