"คุณจะทุ่มเทแค่ไหนเพื่อคนที่คุณรัก"
คำถามกินใจที่ทำให้ใครหลายคนต้องแอบคิดตาม ยิ่งถ้าความรักนั้นเป็นความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูกแล้ว ไม่ว่าต้องทุ่มเทเพื่อลูกแค่ไหนก็ยอม
Hope Frozen : A Quest To Live Twice หรือ ความหวังแช่แข็ง : ขอเกิดอีกครั้ง
ภาพยนตร์สารคดีจากผู้กำกับและนักข่าว ไพลิน วีเด็ล ที่ใช้เวลาติดตามสถานการณ์อยู่หลายปี
โดยบันทึกจากเรื่องจริงของ ครอบครัวเนาวรัตน์พงษ์ ที่ลูกสาววัย 2 ขวบหรือ “น้องไอนส์” ได้เสียชีวิตจากมะเร็งในระดับสมองอย่างรุนแรง
และตัดสินใจรักษาร่างของเธอไว้ด้วยกระบวนการ "ไครโอนิกส์"
หรือการเก็บรักษาด้วยการแช่แข็งไว้ภายในแท็งก์ที่มูลนิธิอัลคอร์ ไลฟ์ เอ็กซ์เทนชั่น (Alcor Life Extension Foundation)
และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของ "ความหวัง" ที่สักวันหนึ่งน้องไอนส์จะได้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีรักษาในอนาคตนั่นเอง
สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักกระบวนการ "ไครโอนิกส์" นี้...
ถ้าจะให้อธิบายแบบง่าย ๆ ก็เปรียบเหมือน การคงสภาพของผู้ป่วย ให้ยังคงสภาพเป็นสิ่งมีชีวิตไปเรื่อย ๆ ด้วยการหยุดการทำงานไว้
ตอนนี้มีหลาย ๆ บริษัทที่รับทำไครโอนิกส์เลยนะ โดยมีข้อแม้ที่ว่าต้องรอให้ผู้ป่วยเข้าสู่ภาวะที่เรียกว่า “ตายในทางการแพทย์” หรือหัวใจหยุดเต้นเสียก่อน
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมเราไม่แช่แข็งตอนเป็นล่ะ จะได้ฟื้นขึ้นมาพร้อมรับการรักษาไม่ต้องโอนถ่ายไปยังร่างใหม่ให้วุ่นวาย
นั่นก็เพราะมันเป็นการผิดกฏหมาย และจริยธรรมในการดำรงชีวิตของมนุษย์ ซึ่งไม่มีประเทศไหนในโลกอนุญาติให้ทำได้นั่นเอง
สำหรับการทำ "ไครโอนิกส์" ตอนนี้มีด้วยกัน 4 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา รัสเซีย ออสเตรเลีย สเปน และในประเทศจีนกำลังจะเปิดให้บริการในไม่ช้า
ราคาก็มีหลากหลายกันไปแล้วแต่บริษัท อย่างสหรัฐอเมริการาคาปัจจุบันอยู่ที่ 200,000 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับการแช่แข็งทั้งร่าง และ 80,000 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับการแช่เฉพาะสมอง
ส่วนรัสเซียก็ไม่น้อยหน้า ตัดราคาการแช่แข็งมนุษย์ที่ถูกกว่าเกินครึ่ง โดยเสนอราคาแช่แข็งทั้งตัวอยู่ที่ 36,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1.2 ล้านบาท และ 12,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 4 แสนบาท สำหรับการแช่แข็งแค่หัว
ซึ่งนี่ก็เป็นข้อมูลเบื้องต้นเผื่อใครที่อยากจะมี ทางเลือกในการดำเนินชีวิต ที่ยาวนานขึ้นนะครับ แต่สำหรับผมขอมีความสุขกับปัจจุบันก่อนก็พอแล้ว 5555
กลับมาที่ตัวหนังสารคดี Hope Frozen : A Quest To Live Twice กันดีกว่า...
ตัวสารคดีถ่ายทอดออกมาในมุมมองที่แปลกใหม่ ไม่เพียงได้สัมผัสถึงความรักที่เกิดขึ้นภายในครอบครัว แต่เปรียบเหมือนเราเป็นคนในครอบครัวไปด้วย
เราจะได้เห็นขั้นตอนเกี่ยวกับกระบวนการไครโอนิกส์ที่มีความซับซ้อน เห็นสายตาแห่งความหวังของทุก ๆ คนในครอบครัวที่รอคอยการกลับมา
รวมถึงประเด็นที่ดูเหมือนจะขัดแย้งกันเกี่ยวกับ "การเกิดใหม่" ระหว่างวิทยาศาสตร์ ความรัก ความศรัทธา และพุทธศาสนาที่คนไทยเรานับถือ
นอกจากพล็อตเรื่องย่อ ๆ ที่ผมได้เล่าให้เพื่อน ๆ ฟังไปนั้น
ภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ได้ไปตระเวนฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติหลายงาน และคว้ารางวัลมาแล้วเกือบ 10 รายการ
รางวัลที่สำคัญคือ รางวัลภาพยนตร์สารคดีต่างประเทศยอดเยี่ยม จากเทศกาล HOT DOCS ที่ประเทศแคนาดา ปี 2019
ซึ่งการได้รับรางวัลนี้ทำให้ภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ได้รับสิทธิ์เข้าชิง รางวัลออสการ์ โดยอัตโนมัติ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้เข้าฉายในประเทศสหรัฐก็ตาม เจ๋งป่ะล่ะ!!!
อีกเหตุผลที่ควรดูสารคดี Hope Frozen: A Quest To Live Twice เวอร์ชันที่ฉายบน Netflix เพราะ มีเนื้อหาแตกต่างจากที่เคยฉายในเทศกาลต่าง ๆ
ผู้กำกับได้เพิ่มเติม ภาพความทรงจำ ที่ถ่ายโดยครอบครัวของน้องไอนส์ซึ่งไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน เพื่อให้เข้าถึงผู้ชมได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ด้วยความที่ผมมีเด็กเล็กอยู่ที่บ้านเหมือนกัน จึงเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้มันมีความรู้สึก "อิน" ไปกับหนังอย่างที่เค้าต้องการถ่ายทอดให้เรารู้สึกจริง ๆ
ผมว่าหลายคนก็น่าจะรู้สึกได้เหมือนผมนะ มันไม่ต้องคิดคำให้สวยงาม หรือวางภาพให้สะดุดตาอะไร
แต่เรากลับรู้สึกประทับใจได้ เพราะทุกอย่างที่เราได้เห็นภายในเรื่องมันเป็น “เรื่องจริง เหตุการณ์จริง” ทั้งหมดเลย
อีกอย่างคือ ความรักภายในครอบครัว มันเป็นสิ่งที่สามารถ connect กับใครก็ได้ ยิ่งมาบวกกับความหวังที่ไม่รู้ว่าจะสมหวังเมื่อไหร่ยิ่งน่าติดตาม
เอาเป็นว่าใครที่ยังไม่ได้ชมผมก็อยากแนะนำให้ลองไปชมกันดูนะ ตอนนี้มีให้ชมทาง Netflix ของไทยเป็นที่เรียบร้อย
สารคดีเรื่องนี้น่าจะสร้างความหวังและแรงบันดาลใจไปพร้อม ๆ กับกระตุ้นให้เพื่อน ๆ ได้ข้อคิดแน่นอน
สำหรับผมมันคือการหันกลับมามองถึงความสุข ความสมบูรณ์ และความโชคดีที่เกิดขึ้นกับเราหลาย ๆ อย่าง
โดยที่ไม่ต้องรอให้เกิด ปาฏิหาริย์ด้วยความหวัง เหมือนหนังเรื่องนี้จริง ๆ ครับ
Tag : Hope Frozen | A Quest To Live Twice | Netflix
“โอ้โห ได้วิวนี้เลยเรอะ คอนโดอยู่ตรงนี้เลยจริงดิ นี่มันอยู่ท่ามกลางดง รีสอร์ท โรงแรม เลยนะ“ ผมเผลอหลุดปากออกมา เมื่อได้เห็นภาพโครงการครั้งแรก
"LIFE สาทร - นราธิวาส 22"...นี่น่าจะเป็น คอนโด LIFE ที่มีคนสนใจมากที่สุดในปี 2025
"KAVALON" พัฒนาโดย "เจ้าพ่อแคมปัสคอนโด" แห่งยุคอย่าง AssetWise ซึ่งนี่ก็เป็นโครงการที่ 6 แล้ว ในโซน ม.กรุงเทพ รังสิต
ในที่สุดที่ดินตรงหัวมุมพญาไท ต้นซอยรางน้ำ ที่ล้อมรั้วกันที่ไว้นานน๊านนานแล้วก็ลุ้นกันอยู่เป็นปีว่าจะขึ้นโปรเจกต์อะไร สรุปวันนี้ก็ได้ออกหัวออกก้อยแล้วในที่สุดครับ
ถ้าใครแวะไปสีลมจะเห็นได้ว่าเดิมทีมันมีที่ดินว่างติด BTS ศาลาแดง บริเวณข้าง Silom Complex อยู่
เอ๊ะ!! ปีนี้แบรนด์ 'Life' จาก AP มาติดๆ กันเลยแหะ!!
"MX27" ช่วง "อโศก-พร้อมพงษ์" นี่มันดงโรงแรมชัดๆ
เหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา แม้ว่าจุดศูนย์กลางจะอยู่ที่ประเทศเมียนมาร์ แต่แผ่นดินไหวครั้งนี้ กลับรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้ถึงกรุงเทพมหานคร ที่อยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางไกลนับพันกิโลเมตร
เมื่อคนซาก็ได้เวลาไปกิน "CHICHA San Chen" ชานมไต้หวันฉบับออริจิ้นเทียบเท่ามิชลิน 3 ดาว!
วันก่อนไปเจอคาเฟ่หนึ่งมาครับ ชื่อร้านว่า Second Cafe Wanglang ไม่ใกล้ไม่ไกล อยู่ตรอกวัดระฆัง ตรงวังหลังนี่เอง
เปิดประสบการณ์ "Pavilion Luncheon Experience" เซ็ตอาหารไทยเบาๆ 4 ที่จากโรงแรม Dusit Thani Bangkok
ใครจะไปอินช่วงเทศกาลเท่า 'คริสปี้ ครีม' ล่าสุดเข้าเดือนเมษายน ก็ส่งโดนัทและเครื่องดื่มแบบไทยๆ 4 รสชาติ ต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ กับ Thai Sweet Selection