"ถึงกายป่วย แต่ใจไม่ป่วย"
นี่น่าจะเป็นคำแรกที่นึกถึงหลังจากได้ทำความรู้จักกับโรงพยาบาลชื่อดังในจังหวัดขอนแก่นครับ
ผมคิดว่าหลายคนน่าจะเคยได้ยินชื่อนี้ผ่านหูกันมาไม่มากก็น้อย กับ "โรงพยาบาลราชพฤกษ์" โรงพยาบาลเอกชนแห่งแรกของจังหวัดขอนแก่น
จะว่าไปแล้วถ้าให้พูดถึงต้องบอกว่าประวัติความเป็นมาของเค้านับว่ายาวนานไม่น้อยทีเดียว
เพราะโรงพยาบาลนี้ดำเนินธุรกิจมาแล้วเกือบ 30 ปี เป็นที่รู้กันดีว่าเค้าไม่ตั้งเป้าในเรื่องของ "มูลค่า" แต่ใส่ใจกับคำว่า "คุณค่า" มากกว่า
สมัยนั้นการจะก่อตั้งโรงพยาบาลเอกชนนับว่าไม่ง่ายเลยนะ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่คนอาจจะไม่ได้มีกำลังจ่ายมากเมื่อเทียบกับเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ
แต่ถึงอย่างนั้นโรงพยาบาลราชพฤกษ์ก็เกิดขึ้นแล้ว ในตอนนั้นถือเป็นโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ของขอนแก่น ด้วยขนาดเตียงเมื่อแรกเริ่มก่อตั้งอยู่ที่ 55 เตียง
ผมขอปูพื้นคร่าวๆ ก่อนแล้วกันครับว่าโรงพยาบาลนี้ก่อตั้งโดยกลุ่มแพทย์ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น และช่วงเกือบ 30 ปีที่ผ่านมานี้ก็นับว่าผ่านร้อนผ่านหนาวมาเรียบร้อย จนตอนนี้ถ้าพูดว่าเป็นโรงพยาบาลที่เป็นที่รักและรู้จักของคนขอนแก่นก็ไม่นับว่าผิดมากนัก
และก็เพราะเป็นที่รู้จักมากนี่แหละมันเลยต้องมีการขยับขยายกันสักนิด
หลังจากลงความเห็นกันได้แล้วว่าควรขยายที่ทางเพิ่มเติม ทางโรงพยาบาลราชพฤกษ์ก็ได้เริ่มทำการย้ายที่ แล้วก็จัดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบโครงสร้างของตัวโรงพยาบาลเสียใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิม
ทางโรงพยาบาลราชพฤกษ์เค้าก็ไม่ต้องการที่จะทำโรงพยาบาลให้ออกมาหน้าตาเหมือนโรงพยาบาลทั่วไปตามที่เราเห็นกันดาดดื่น แต่ต้องการแนวทางการออกแบบให้ออกมาเป็นแนวของ "Healing Environment" ที่สุด
จนสุดท้ายมันก็ออกมาในรูปแบบของโรงพยาบาลในฝันเลยครับ คือมีฟังก์ชันที่ครบครัน ให้คนไข้ได้ใช้ธรรมชาติบำบัด ที่สำคัญคือให้ความรู้สึกเหมือนว่าเราไม่ได้มาโรงพยาบาล แต่มาเยี่ยมบ้านหลังใหญ่เสียมากกว่า
ในเรื่องของการออกแบบนั้น จุดสำคัญคือการตั้งคำถามว่า “โรงพยาบาลในฝันเป็นอย่างไร”
ผมรู้สึกว่าคำถามนี้นับเป็นการต่อยอดและสร้างจินตนาการรวมถึงแรงบันดาลใจได้ดีไม่น้อย
เราทุกคนต้องเคยเข้าโรงพยาบาลกันมาแล้วล่ะ และก็น่าจะมีบางจุดที่ทำให้รู้สึกไม่ชอบโรงพยาบาลนัก อย่างผมเนี่ยไม่ค่อยถูกโรคกับโรงพยาบาลเท่าไหร่ 5555 กลิ่นยาเอย พยาบาลหน้าดุๆ เอย หรือตัวอาคารที่ทำให้ดูเคร่งขรึมเก่าแก่น่ากลัวอะไรพวกนี้อีก
คำถามง่ายๆ นี้สามารถให้คำตอบออกมาได้หลายรูปแบบ จนมันมาจบที่ว่าโรงพยาบาลในแบบที่คนต้องการคือการเป็นโรงพยาบาลที่สร้างสภาพแวดล้อมเหมาะสมกับการ healing มีประสิทธิภาพในการใช้งานและบริหารจัดการ เดินแล้วไม่หลงทาง แถมยังต้องสอดคล้องกับบริบทของเค้าด้วย
จากหลายๆ ความเห็นมารวมกัน สรุปคือการได้มาโรงพยาบาลที่ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านคือสิ่งที่ดีที่สุด
โรงพยาบาลราชพฤกษ์แห่งใหม่เค้าใช้เวลาออกแบบก่อสร้างนานถึง 7 ปีเลยนะกว่าจะสร้างเสร็จสมบูรณ์ สำหรับทีมนักออกแบบที่นำทัพหนนี้คือ "สถาบันอาศรมศิลป์" และ "กา-ละ-เท-ศะ" เข้ามาดูแลในส่วนของงานออกแบบสถาปัตยกรรม ซึ่งทางกา-ละ-เท-ศะ ก็รับหน้าที่ในเรื่องของการออกแบบสถาปัตยกรรมภายในด้วย
นอกจากนี้ยังมี "P Landscpae" มาร่วมเสริมทัพในด้านการออกแบบงานภูมิสถาปัตยกรรม และ "LD49" มาดูแลการออกแบบ Lighting ของโรงพยาบาลครับ
การสร้างสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการเยียวยาเค้าเน้นไปที่การสร้างพื้นที่ธรรมชาติบำบัด มิตรภาพบำบัด สถาปัตยกรรมบำบัด และจิตวิญญาณบำบัด
ฟังดูเข้าถึงยาก แต่จริงๆ แล้วมันก็คือการออกแบบโรงพยาบาลออกมาให้อยู่ในรูปของสถานที่ที่ผู้คนคุ้นเคยเพื่อลดความตึงเครียด ไม่ให้คนไข้รู้สึกไม่สบายใจนั่นเอง
การมีพื้นที่ธรรมชาติบำบัดก็ไม่ต่างอะไรกับการที่มีสวนอยู่ในบ้านเลยครับ ยิ่งไปกว่านั้นสีเขียวๆ กรีนๆ ของต้นไม้ใบไม้มันก็ช่วยให้ผลลัพธ์ที่ดีกับร่างกายและจิตใจของเราด้วยอีกทาง
ด้านมิตรภาพบำบัดเค้าบอกว่าเหมือนกับห้องรับแขกเอาไว้รองรับเพื่อนๆ ญาติๆ มาปรับทุกข์ผูกมิตร สามารถควบคู่ไปกับส่วนของความเป็นจิตวิญญาณบำบัดได้
สุดท้ายสถาปัตยกรรมบำบัดก็คือรูปแบบบ้านที่ชาวอีสานคุ้นเคยครับ ด้วยการใช้วัสดุไม้หรือวัสดุเลียนแบบไม้มาทำให้ตัวโรงพยาบาลดูอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน ใช้องค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมท้องถิ่นที่คุ้นตามาลดความตึงเครียดของคนที่มาโรงพยาบาลได้เป็นอย่างดี
สีที่เค้าใช้จะเป็นโทนอุ่น ซึ่งทางทีมออกแบบเลือกใช้อุณหภูมิสีของหลอดโทนสี Warm white 3000 เคลวินมาใช้ในพื้นที่อาคารทั้งหมด (แต่พวกห้องตรวจ ห้องฉุกเฉิน อะไรพวกนี้จะเป็นอุณหภูมิสีโทน Cool white 4000 เคลวินนะ)
ผมรู้มาว่าเค้ามีทีมนักออกแบบศึกษาลมอีสานและทำ Simulation เรื่องลมโดยเฉพาะด้วย แบบว่าศึกษาอย่างละเอียดเพื่อให้คนที่มาใช้บริการรวมถึงแพทย์พยาบาลในโรงพยาบาลอยู่ที่นี่ได้แบบไม่ต้องพึ่งแอร์ เปิดแค่ประตู หน้าต่าง อากาศก็ไหลเวียนสะดวกแล้วงี้
อีกเรื่องที่ต้องพูดถึงคือการใส่ใจรายละเอียดในการออกแบบครับ
พวกพันธุ์ไม้ที่ใช้ในโรงพยาบาลเป็นไม้พื้นถิ่นทั้งหมดเลย จำพวกต้นสะเดา แคบ้าน แคนา ทองกวาวอะไรพวกนี้ มีไม้เลื้อยปกคลุมให้ความร่มเย็นเข้ามาเสริม และที่เลือกแบบนี้คือนอกจากโอกาสที่ต้นไม้ตายจะน้อยเพราะเป็นพืชพันธุ์ที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมแล้วยังทำให้คนไข้รู้สึกคุ้นเคยอีกด้วย
พูดง่ายๆ คือเน้นให้บรรยากาศทุกส่วนดูอบอุ่นผ่อนคลาย เหมาะสมกับความเป็น "ธรรมชาติบำบัด" นั่นเอง
เชื่อว่าถ้าใครได้เห็นก็คงจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า โรงพยาบาลราชพฤกษ์นั้นไม่เหมือนโรงพยาบาล แต่เหมือนบ้านหรือไม่ก็รีสอร์ทมากกว่า
และเพราะความตั้งใจจริงของทางโรงพยาบาลที่ใส่ใจในหลายๆ รายละเอียดแบบนี้แหละมันถึงทำให้คนที่เข้ามารับบริการรู้สึกมีความสุข เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้โรงพยาบาลราชพฤกษ์ประสบความเร็จครับ
เป็นทั้ง "โรงพยาบาล" และ "โรงพยาบ้าน" ไปในตัวจริงๆ
photo credit: ratchaphruekhospital, arsomsilparchitect
Tag :
“โอ้โห ได้วิวนี้เลยเรอะ คอนโดอยู่ตรงนี้เลยจริงดิ นี่มันอยู่ท่ามกลางดง รีสอร์ท โรงแรม เลยนะ“ ผมเผลอหลุดปากออกมา เมื่อได้เห็นภาพโครงการครั้งแรก
"LIFE สาทร - นราธิวาส 22"...นี่น่าจะเป็น คอนโด LIFE ที่มีคนสนใจมากที่สุดในปี 2025
"KAVALON" พัฒนาโดย "เจ้าพ่อแคมปัสคอนโด" แห่งยุคอย่าง AssetWise ซึ่งนี่ก็เป็นโครงการที่ 6 แล้ว ในโซน ม.กรุงเทพ รังสิต
ในที่สุดที่ดินตรงหัวมุมพญาไท ต้นซอยรางน้ำ ที่ล้อมรั้วกันที่ไว้นานน๊านนานแล้วก็ลุ้นกันอยู่เป็นปีว่าจะขึ้นโปรเจกต์อะไร สรุปวันนี้ก็ได้ออกหัวออกก้อยแล้วในที่สุดครับ
ถ้าใครแวะไปสีลมจะเห็นได้ว่าเดิมทีมันมีที่ดินว่างติด BTS ศาลาแดง บริเวณข้าง Silom Complex อยู่
เอ๊ะ!! ปีนี้แบรนด์ 'Life' จาก AP มาติดๆ กันเลยแหะ!!
"MX27" ช่วง "อโศก-พร้อมพงษ์" นี่มันดงโรงแรมชัดๆ
เหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา แม้ว่าจุดศูนย์กลางจะอยู่ที่ประเทศเมียนมาร์ แต่แผ่นดินไหวครั้งนี้ กลับรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้ถึงกรุงเทพมหานคร ที่อยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางไกลนับพันกิโลเมตร
เมื่อคนซาก็ได้เวลาไปกิน "CHICHA San Chen" ชานมไต้หวันฉบับออริจิ้นเทียบเท่ามิชลิน 3 ดาว!
วันก่อนไปเจอคาเฟ่หนึ่งมาครับ ชื่อร้านว่า Second Cafe Wanglang ไม่ใกล้ไม่ไกล อยู่ตรอกวัดระฆัง ตรงวังหลังนี่เอง
เปิดประสบการณ์ "Pavilion Luncheon Experience" เซ็ตอาหารไทยเบาๆ 4 ที่จากโรงแรม Dusit Thani Bangkok
ใครจะไปอินช่วงเทศกาลเท่า 'คริสปี้ ครีม' ล่าสุดเข้าเดือนเมษายน ก็ส่งโดนัทและเครื่องดื่มแบบไทยๆ 4 รสชาติ ต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ กับ Thai Sweet Selection