ประเทศญี่ปุ่นนี่เรียกได้ว่าเป็นประทศที่มีความปัจเจกสูงมาก ๆ เลยนะ พอพูดถึงญี่ปุ่นทีไรเรามักจะนึกภาพออกเสมอเลยว่ามันเป็นยังไง
ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกาย แฟชั่น เสื้อผ้า หน้าผม หรือ แม้แต่วิถีการใช้ชีวิต อย่างที่หลาย ๆ คนชอบพูดติดปากว่า "ญี่ปุ่นนี่มันญี่ปุ่นจริง ๆ "
เกริ่นนำมาแบบนี้ เดาไม่ยากครับ วันนี้ผมจะมาพูดถึงอะไรที่มันญี่ปุ่น ๆ นั่นแหละ แต่ไม่ได้เกี่ยวกับอะไรที่ผมพูดไว้ด้านบนเลยนะ เพราะว่าวันนี้เราจะมาพูดถึงการจัดบ้านสไตล์ญี่ปุ่นกันครับผม
เรื่องของเรื่องก็คือ เมื่อวันก่อนผมเพิ่งมีโอกาสได้ชมสารคดีทาง Netflix อย่าง "Tidying Up With Marie Kondo" หรือชื่อภาษาไทยของเค้าก็คือ จัดบ้านเปลี่ยนชีวิตนั่นเอง เห็นแล้วรู้สึกว่า เห้ย มันน่าสนใจแหะ ดูแต่ละตอนนี่แทบอยากจะลุกขึ้นไปหยิบผ้าในตู้มาพับใหม่เดี๋ยวนั้นเลยนะ
และด้วยความที่ญี่ปุ่นคือประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความเป็นระเบียบ ดังนั้นเวลาเราเห็นอะไรที่มันจัดวางอย่างเป็นระเบียบในบ้านมันก็ให้ความรู้สึกว่า เห้ยย บ้านมันน่าอยู่ขึ้นวุ้ยย
วกกลับมาที่ Tidying Up With Marie Kondo อันนี้เป็นสารคดีจัดบ้านที่มีนักจัดบ้านชาวญี่ปุ่นที่โด่งดังมาก ๆ ในอเมริกา (ปัจจุบันผมเชื่อว่าดังไปทั่วโลกแล้วล่ะ) อย่างคุณมาริเอะ คนโดะ นอกจากเค้าจะมีสารคดีใน Netflix แล้ว คนนี้ยังมีหนังสือออกมาอีกหลายเล่มด้วยนะ (ผมมีถือครองไว้อยู่เล่มหนึ่งด้วยชื่อหนังสือว่า 108 เวทมนตร์แห่งการจัดบ้าน ขยับข้าวของหนึ่งครั้งเปลี่ยนได้ทั้งชีวิต) ลองไปหาอ่านกันได้ครับ และ ที่สำคัญนิตยสารไทม์ ยังยกให้คุณมาริเอะเป็น 1 ใน 100 บุคคล ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกด้วยประจำปี 2015 กันด้วย เป็นไง..ว้าวกันรึยัง
แอบไปหาข้อมูลและเสพสารคดีของเค้ามา วันนี้ผมเลยขอนำเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยกับการจัดของคุณมาริเอะ คนโดะ ไว้เป็นไอเดียสำหรับใครคิดจะแปลงโฉมบ้านหรือห้องกัน ถ้าพร้อมแล้ว ลงไปไขเคล็ดลับพร้อม ๆ กันโลดดดด
1. การทิ้งของและวิธีตัดใจ
การที่บ้านรกเนี้ย มันรกเพราะอะไร? ถูกครับมันรกเพราะสิ่งของ(ถามเองตอบเอง อิอิ) ซึ่งแน่นอนครับว่าทุก ๆ อย่างล้วนเป็นสิ่งที่เราไม่ยอมทิ้งไปสักที บ้านเลยเป็นที่อยู่อาศัยของสรรพสิ่งที่พอรวม ๆ กันแล้วก็รกน่ะสิ แต่จะให้เราตัดสินใจทิ้งปุ๊บปับมันก็ยังไงอยู่ใช่มั้ยล่ะ ซึ่งตรงนี้แหละคุณมาริเอะเค้าเลยแนะวิธีคัดของด้วยนั่นก็คือ ถ้าชิ้นไหนจุดประกายความสุขได้ ชิ้นนั้นก็ได้ไปต่อครับ แต่ถ้าชิ้นไหนไม่ได้ไปต่อให้เราพูดขอบคุณเสื้อผ้าชิ้นนั้น ๆ ที่สอนให้เรารู้ว่าเราไม่ชอบ หรือไม่เหมาะสมกับของชิ้นนี้ เค้าว่ามันจะช่วยทำให้เราไม่รู้สึกผิดเวลาเราทิ้งเสื้อผ้าแหละ วิธีนี้ไม่ใช่แค่เสื้อผ้า แต่ของชิ้นอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นของจิปาถะ เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ หนังสือ ฯลฯ ก็เช่นเดียวกัน ถ้าทำใจทิ้งได้ บ้านก็น่าจะกว้างขึ้นมาอีกเยอะ แหมม แอบคิดถึงหนังเรื่อง ฮาวทูทิ้ง ทิ้งยังไงไม่ให้เหลือเธอ เหมือนกันแฮะ 5555
2. จัดเป็นหมวดหมู่
เคล็ดลับของคุณมาริเอะ มีหลักการไม่ได้ซับซ้อนเลย เพราะเค้าเน้นจัดของทุก ๆ อย่างเป็นหมวดหมู่ เสื้อผ้า หนังสือ ของต่าง ๆ และเอกสาร ซึ่งเอาจริง ๆ เวลาเราจัดบ้านแต่ละทีเรามักจะเลือกเข้าไปจัดเป็นห้อง ๆ กันถูกมั้ย เช่น จัดห้องนอนเสร็จ ไปจัดห้องนั่งเล่น พอจัดห้องนั่งเล่นแล้วไปจัดห้องครัว ฯลฯ แต่วิธีของคุณมาริเอะคือ จัดเป็นหมวด อย่างที่ผมบอกเลย ตัวอย่างเช่น จัดเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ค่อยไปจัดหนังสือ จัดหนังสือแล้วค่อยไปจัดของเล่น เป็นต้นครับ
3. เสื้อผ้า
ถ้าใครได้ดู Tidying Up With Marie Kondo จะจับสังเกตกันได้ว่า ตู้เสื้อผ้ามักจะเป็นจุดแรกที่คุณมาริเอะเข้าไปจัดการก่อนอย่างอื่นเสมอ ถ้าทำตามขั้นตอนแรกแล้ว (เลือกเสื้อผ้าที่ไปต่อเสร็จ) การพับผ้าสไตล์คมมาริ คืออีกสิ่งหนึ่งที่ถูกพูดถึงกันเยอะมาก ๆ ครับ นี่มีทุกขึ้นตอน ตั้งแต่พับเสื้อ ไปจนถึงชั้นในเลยทีเดียว ซึ่งวิธีการพับผ้าสไตล์คมมาริ จะช่วยเพิ่มพื้นที่ว่างมากขึ้น และช่วยทำให้เป็นระเบียบมากขึ้นนั่นเอง
4. เก็บใจไว้ในลิ้นชัก แต่ถ้าเก็บบ้านก็ต้องมีกล่อง
เกริ่นซะเสี่ยว จริง ๆ แล้วหลักการณ์นี้ช่วยทุ่นแรงแถมประหยัดนิด ๆ ด้วยนะ บางคนเนี้ย ถึงจะคัดของออกจากบ้านเป็นกองแล้ว แต่มันก็ยังเยอะอยู่ดี ถ้าเนื้อที่ไม่พอวิธีง่าย ๆ สไตล์คอนมาริก็คือ "เจ้ากล่อง" นี่แหละครับตอบโจทย์ที่สุด อย่างเสื้อผ้า ถ้าเราแขวนแล้วมันไม่พอ หลายคนคงจะพับเอาไว้ในตู้เสื้อผ้า ก็ให้ใช้วิธีการพับแล้วจัดเรียงตามแนวตั้งลงกล่องดีกว่าการพับแล้วยัดใส่ตู้เลย ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ทำให้เราได้ทบทวนตัวเองด้วย (เค้าว่ามางี้)
5. เฟอร์นิเจอร์
4 ข้อแรกผมพูดถึงวืธีของคุณมาริเอะ คนโดะ หรือสไตล์คมมาริ ทั้งหมดเลย แต่ขอปิดท้ายด้วยข้อนี้สักหน่อย นอกจากการจัดบ้านที่จะช่วยให้บ้านเป็นระเบียบแล้ว ข้อนี้เน้นสำหรับคนที่อยากเนรมิตให้บ้านตัวเองญี่ปุ่นยิ่งขึ้นหลังจากเก็บบ้านจนเรียบร้อยแล้ว ก็เหลือพื้นที่ต้อนรับสมาชิกใหม่เพิ่ม หลายคนคงมีไอเดีย ในการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหม่มาแทนที่ ผมว่าเฟอร์นิเจอร์เองก็เป็นส่วนสำคัญ เมื่อนึกถึงบ้านสไตล์ญี่ปุ่น เราจะถึงโทนสีเบจ อบอุ่น หรือเฟอร์นิเจอร์ไม้สวย ๆ ซึ่ง การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ให้โทนสีเบจ จะช่วยทำให้บ้านเรายิ่งดูซอฟท์มากขึ้น ให้อารมณ์ญี่ปุ่นขึ้นมาทันที
เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ผมนำมาฝาก อันนี้ถ้าใครอยากรับความจุใจลองเข้าไปชมกันใน Netflix ก็ได้นะ Tidying Up With Marie Kondo เพลิน ๆ ดีเหมือนกัน อย่างผมนี่ก็เพิ่งรู้ว่า เห้ยการจัดบ้านมันก็ดูมีปรัชญา หรือ อิงหลักจิตวิทยาเหมือนกันแฮะ แถมดูแล้วแทบจะอยากลุกขึ้นมาพับผ้าทั้งตู้ หรือหนังสือก็ได้นะ มีหลายเล่มเลยทีเดียว ใครรื้อบ้านหรือลองทำวิธีนี้แล้ว ลองเอามาอวดกันดูหน่อย เวิร์คไม่เวิร์คครับ? 5555